โซนี่ (Sony) ประกาศพร้อมวางจำหน่ายเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ๊กรีดเดอร์ (e-book reader) ที่สามารถดาวน์โหลดไฟล์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่าย 3G ได้อัตโนมัติในเดือนธันวาคมนี้ จับมือเอทีแอนด์ทีเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายลักษณะเดียวกับที่อเมซอน (Amazon) จับมือกับสปรินท์ (Sprint Nextel) เพื่อให้คินเดิล (Kindle) อีบุ๊กรีดเดอร์ของอเมซอนสามารถโหลดไฟล์หนังสือผ่านเครือข่าย 3G
โซนี่ยืนยันว่า อีบุ๊กรีดเดอร์เชื่อมต่อไร้สายของตัวเองจะมีชื่อรุ่นว่า Reader Daily Edition จะมีราคาจำหน่าย 399 เหรียญสหรัฐ (ราว 14,000 บาท) จะมาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยีหมึกอิเล็กทรอนิกส์หรือ E Ink ซึ่งจะใช้พลังงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบนหน้าจอเท่านั้น สามารถแสดงบทความในแนวตั้ง 30-35 บรรทัด มาพร้อมหน่วยความจำที่เพียงพอสำหรับการเก็บหนังสือ 1,000 เล่ม มีพอร์ตสำหรับเพิ่มหน่วยความจำ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดหนังสือ หนังสือพิมพ์รายวันหรืออื่นๆได้ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของเอทีแอนด์ที
รายงานจากพีซีเวิร์ลวิเคราะห์ว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวที่ 2 แล้วของเอทีแอนด์ทีในการเข้าสู่สังเวียนเครื่องอ่านอีบุ๊กช่วงฤดูร้อนที่จะ มาถึง เนื่องจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เอทีแอนด์ทีเพิ่งประกาศให้บริการเครือข่าย 3G กับเครื่องอ่านอีบุ๊ก Plastic Logic จากบาร์นสแอนด์โนเบิล (Barnes & Noble) ค่ายหนังสือออนไลน์คู่แข่งอเมซอน ซึ่งวางกำหนดการจำหน่ายไว้ที่ปี 2010 ครั้งนั้นเอทีแอนด์ทียืนยันชัดเจนว่า มองเห็นโอกาสงดงามในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กของสหรัฐฯ
ยัง ไม่มีการเปิดเผยส่วนแบ่งที่เอทีแอนด์ทีจะได้รับจากความร่วมมือครั้งนี้ แต่สำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นอลเชื่อว่าโซนี่มีส่วนช่วยเติมเต็มแผนการขยายการ ใช้งานเครือข่ายไร้สายและการสร้างแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ของเอทีแอนด์ที เพราะมีแนวโน้มสูงว่าเอทีแอนด์ทีจะได้รับส่วนแบ่งจากทุกการดาวน์โหลดที่เกิด ขึ้นผ่านเครือข่าย 3G บนอีบุ๊กรีดเดอร์ของโซนี่
สำนักข่าวเอพีอ้างคำกล่าวของสตีฟ ฮาเบอร์ (Steve Haber) ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องอ่านอีบุ๊กของโซนี่สหรัฐฯ ที่ระบุว่าการเชื่อมต่อ 3G อัตโนมัติไม่ได้แปลว่าผู้ซื้อจะต้องถูกเก็บค่าธรรมเนียมสมาชิกใช้งานเครือ ข่ายรายเดือน แต่จะถูกคิดค่าบริการใช้งานเครือข่ายต่อครั้งและเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมกับ ค่าดาวน์โหลดอีบุ๊ก ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่อเมซอนและสปรินท์ตกลงกัน
สำหรับรายชื่อหนังสือพิมพ์ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไปอ่านบนเครื่องได้จะมีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการต่อไป
คินเดิลนั้นประกาศแนวร่วมเป็นหนังสือพิมพ์ 46 ค่าย ได้แก่ The New York Times, The Wall Street Journal และ USA Today ไปแล้ว และเป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นแรงดันสำคัญในการทำให้ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กขยายตัวอย่างรวดเร็วแม้โซ นี่จะเริ่มจำหน่ายเครื่องอ่านอีบุ๊กในสหรัฐฯตั้งแต่ปี 2006
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า ความพยายามในการไล่ตามคินเดิลนั้นมีทั้งจุดได้เปรียบและช่องโหว่ เนื่องจากคินเดิลสามารถเล่นไฟล์อีบุ๊กนามสกุลเฉพาะบนร้านดาวน์โหลดของอเมซอน เท่านั้น ซึ่งเป็นนามสกุลที่สามารถใช้งานได้บนคินเดิล ไอโฟน และไอพ็อดทัช แต่เครื่องอ่านของโซนี่สามารถรองรับไฟล์อีบุ๊กมาตรฐานเปิด ทำให้สามารถแสดงไฟล์จากร้านค้าอีบุ๊กได้หลากหลาย และสามารถย้ายไฟล์ไปแสดงบนอุปกรณ์อื่นๆได้ด้วย เช่นโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องเล่น MP4
ที่ สำคัญ Reader Daily Edition ของโซนี่ยังสามารถใช้ในการขอยืมไฟล์อีบุ๊กจากห้องสมุด ซึ่งจะมีกำหนดหมดอายุการใช้งาน ความสามารถในการเชื่อมต่อกับห้องสมุดสาธารณะนี้ถูกมองว่าเป็นจุดต่างสำคัญ ที่ได้เปรียบของเครื่องอ่านอีบุ๊กจากโซนี่
มูลค่าหุ้นโซนี่เพิ่มขึ้น 1.6% ปิดที่ 27.01 เหรียญหลังการประกาศข่าวนี้ โดยนอกจากข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องเครื่องอ่านอีบุ๊ก ยังมีข่าวลือว่าสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอแอปเปิล (Apple) นั้นกำลังเร่งมือตรวจสอบคอมพิวเตอร์แมคอินทอชทรงแท็ปเล็ตทัชสกรีนขนาดกระทัด รัดของตัวเอง ทั้งในเรื่องการวางกลยุทธ์การทำตลาดและการประชาสัมพันธ์ ข่าวนี้อาจมีนัยสำคัญต่อการขยายตัวของตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก เนื่องจากแท็ปเล็ตพีซีของแอปเปิลสามารถใช้เป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กและยังมี ความสามารถอื่นๆด้านมัลติมีเดียที่หลากหลายมากกว่า
ผู้ บริหารของโซนี่เปิดเผยข้อมูลเครื่องอ่านอีบุ๊ก 3G ของบริษัทในงานซึ่งโซนี่จัดขึ้นที่ห้องสมุดสาธารณะเมืองนิวยอร์กหรือ New York Public Library งานนี้โซนี่ประกาศเริ่มวางจำหน่ายเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่น Pocket Edition ความกว้างหน้าจอ 5 นิ้ว สนนราคา 199 เหรียญ (ราว 7,000 บาท) และรุ่นใหญ่กว่าพร้อมหน้าจอทัชสกรีนราคา 299 เหรียญ (ราว 10,500 บาท) ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อไร้สาย ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊กเท่านั้น
ที่มา: manager.co.th
