สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android Gingerbread 2.3 รุ่นใหม่ที่หัวเว่ยเปิดตัวในอังกฤษ
ผู้บริหารหัวเว่ย (Huawei) ยืนยันว่ากำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับไมโครซอฟท์ (Microsoft) เรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เทคโนโลยีสำหรับสินค้าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ถือเป็นแถลงการณ์ยืนยันว่าหัวเว่ยคือเหยื่อรายล่าสุดที่ไมโครซอฟท์กำลังต้องการให้จ่ายเงินก่อนจะผลิตสินค้าใดๆเพื่อป้อนสู่ตลาดแอนดรอยด์
Victor Xu ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท Huawei Devices ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่าบริษัทกำลังเจรจาเรื่องค่าลิขสิทธิ์การใช้เทคโนโลยีในอุปกรณ์แอนดรอยด์ โดยหัวเว่ยได้รับการติดต่อจากไมโครซอฟท์ ซึ่งอ้างว่าบริษัทกำลังละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เพราะการผลิตสินค้าแอนดรอยด์
ผู้บริหารหัวเว่ยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วในอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าหัวเว่ยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนทรัพย์สินทางปัญญาของทุกบริษัท แต่หัวเว่ยเองก็ครอบครองสิทธิบัตรเทคโนโลยีมากกว่า 65,000 รายการ ซึ่งเป็นจำนวนที่คาดว่าเพียงพอต่อการปกป้องตัวเอง
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดนั้นใช้เทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์ถือครองสิทธิบัตรอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ผลิตสินค้าแอนดรอยด์จึงควรจ่ายเงินเป็นค่าสิทธิ์การใช้เทคโนโลยีให้แก่ไมโครซอฟท์ จนกลายเป็นข่าวว่า ไมโครซอฟท์ได้เข้าเจรจากับบริษัทผู้ผลิตสินค้าแอนดรอยด์มากกว่า 10 บริษัท
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกอย่างซัมซุง (Samsung), เอชทีซี (HTC), เอเซอร์ (Acer) รวมถึงนานาบริษัทรับจ้างผลิตสินค้าให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกไอทีทั้งเดลล์ (Dell) เอชพี (HP) และโตชิบา (Toshiba) ล้วนยอมจ่ายเงินให้ไมโครซอฟท์อย่างเสียไม่ได้ ซึ่งการยอมจ่ายเงินให้ไมโครซอฟท์ของบริษัทรับจ้างผลิตเหล่านี้ทำให้มีการประเมินว่า มีอุปกรณ์แอนดรอยด์มากกว่าครึ่งของตลาดขณะนี้ที่ยอมควักกระเป๋าจ่าย"ค่าต๋ง"เรียบร้อยโรงเรียนไมโครซอฟท์
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของหัวเว่ยยังคงเชื่อมั่นในการซื้อหน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือ Motorola Mobility จากโมโตโรลาของกูเกิล (Google) ว่าจะช่วยปกป้องให้ผู้ผลิตสินค้าแอนดรอยด์รอดพ้นจากภาวะต้นทุนเพิ่มจากการจ่ายค่าสิทธิ์การใช้เทคโนโลยีได้ในระดับหนึ่ง
หัวเว่ยนั้นเป็นบริษัทจีนที่มีดีกรีเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นรองอีริกสัน (Ericsson) ของสวีเดนแต่แซงหน้าอัลคาเทล-ลูเซนต์ (Alcatel-Lucent) และโนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์ก (Nokia Siemens Networks) ได้ ล่าสุดหัวเว่ยยืนยันว่าจะรุกตลาดสมาร์ทโฟนโลกเต็มตัว โดยประกาศจะขึ้นเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกให้ได้ใน 3 ปี
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเชื่อว่าบริษัทจะสามารถติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของโลกได้ใน 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งทั้งหมดผู้บริหารหัวเว่ยยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่จริงจังและไม่ธรรมดา
เป้าหมายนี้สามารถตีความได้อีกว่า หัวเว่ยตั้งใจล้มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับที่ 5 ของโลกในขณะนี้อย่างริม (RIM) ซึ่งมีอาการร่อแร่เพราะสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่ไม่สามารถขายดีเทน้ำเทท่าได้อย่างเคย โดยไตรมาสที่ผ่านมา ริมสามารถจำหน่ายแบล็กเบอรี่ได้ 11.8 ล้านเครื่องทั่วโลก น้อยกว่าโนเกียที่สามารถจำหน่ายได้ 16.8 ล้านเครื่อง
หัวเว่ยระบุด้วยว่า บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์ออกแบบสินค้าในกรุงลอนดอนท่ามกลางบุคลากรมากกว่า 10 คน จุดนี้ Mark Mitchinson รองประธานหัวเว่ยภูมิภาคสหราชอาณาจักร คาดว่าศูนย์ดังกล่าวจะเปิดทำการในช่วงต้นปีหน้า (2012)
Company Related Link :
Huawei
ที่มา: manager.co.th