"แอน" โฮแตกสงสาร "ภูริ" บ้านน้ำท่วม โอดยิ่งไม่มีใครให้คำตอบอะไรได้ก็ยิ่งทำให้เครียด

[Nick]

"แอน" วิตกจริตหลังน้ำท่วมบ้าน "ภูริ" จนอยู่ไม่ได้ต้องหนีไปอยู่เกาะกับพ่อ เผยถึงกับปล่อยโฮเพราะสงสารแฟนหนุ่ม บอกบ้านตนก็อยู่ในจุดเสี่ยง โอดยิ่งไม่มีใครให้คำตอบอะไรได้ก็ยิ่งทำให้เครียด เจ้าตัวแจงถึงขนาดลงทุนขับรถไปซื้อน้ำที่บางแสนมาตุนไว้เพราะกรุงเทพหาซื้อไม่ได้แล้ว
       
       ทำเอาสาว "แอน อลิชา ไล่ศัตรูไกล" ถึงกับเครียดหนักเข้าไปใหญ่ หลังน้ำท่วมบ้านแฟนหนุ่ม "ภูริ หิรัญพฤกษ์" จนฝ่ายชายต้องหนีไปอยู่กับพ่อที่เกาะ ตอนนี้สาวแอนก็เลยเตรียมรับมือทุกรูปแบบทั้งซื้อกระสอบทรายมากั้นหน้าบ้าน และซื้ออาหารและน้ำดื่มมากักตุนไว้
       
       "เริ่มหวั่นวิตกเหมือนกันเพราะว่าคนใกล้ตัวเรา อย่างภูริเองก็ต้องอพยพไปอยู่ที่เกาะ บ้านท่วมหมดเลย ก็จริงๆ ตอนแรกยังชะล่าใจอยู่ แต่พอบ้านภูริน้ำท่วมตอนนี้ก็กั้นบ้านแล้ว เอากระสอบทรายกั้น ขนของไปไว้ชั้น 2 เครียดมาก มันไม่มีใครให้คำตอบเราได้ คือเวลาน้ำมันมาเราตั้งตัวไม่ทันจริงๆ หลังจากเราได้ยินเรื่องเล่าที่เราไปลงพื้นที่ อย่างบ้านภูริเองกั้นบ้านแล้วยังกันน้ำไม่ได้เลยค่ะ เขาอยู่ตรงศรีสมานค่ะ หลังคลองประปา ก็ต้องย้ายอยู่เกาะ คือยังไม่รู้เลยว่าจะกลับไปอยู่ได้เมื่อไหร่"
       
       "ตอนนี้ยังไม่คิดตามไปอยู่ค่ะ เราก็ต้องอยู่ดูบ้านเราก่อน เราก็ยังมีสัตว์เลี้ยงมีอะไร ต้องดูแลบ้านเราให้ดีที่สุดก่อน แต่เราก็มีคุยกับพ่อว่าถ้าน้ำมันถึงระดับไหนเราจะออกไปอยู่ที่อื่น ภูริก็งานโดนแคนเซิล เลยไปอยู่ที่เกาะกับคุณพ่อ ก็คงดูแลเรื่องธุรกิจไปก่อน แอนก็โดนแคนเซิลงาน คิดว่าทุกคนก็โดนกันหมด อย่างอาทิตย์นี้ก็ว่างทั้งอาทิตย์เลย เริ่มวิตกเหมือนกันว่า เฮ้ย..มันมีผลกระทบต่อตัวเองแล้วนะ"
       
       "แค่เราจะไปซื้อน้ำดื่มกับเพื่อนๆ ยังไม่มีวางขายเลย ตอนนี้ก็มีเสบียงเรียบร้อย ที่สะสมคือน้ำดื่ม น่ากลัวเหมือนกันนะ ขาดแคลนน้ำดื่ม เมื่อวานขับรถไปบางแสนเพื่อซื้อน้ำดื่มกัน ตอนนี้แต่ละบ้านก็เป็นไฮโซกัน กินน้ำดื่มขวดละร้อย เพราะไม่มีน้ำขายเลยจริงๆ"
       
       "จริงๆ ถ้ามีงานไหนไปช่วยได้ก็จะไปค่ะ แต่ว่าไปแล้วก็ไม่อยากไปลำบากคนอื่น อย่างล่าสุดที่ไปคืออยุธยายังขับรถไปได้ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ได้แล้ว เราก็ทำเรื่อยๆ ค่ะ บริจาคเงิน สิ่งของ จากเพื่อนๆ คนละเล็กละน้อยค่ะ"
       
       ส่วนเรื่องราวความรักกับ “ภูริ” เจ้าตัวบอกไม่ได้หวานหยดย้อย อยู่กันแบบเพื่อน
       
       "ก็ปกตินะ ไม่ได้หวานอะไรขนาดนั้น เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันเพราะมีเวลามั้ง ก็คบกันมา 5 ปีแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องปรับจูนกันแล้ว อยู่กันเป็นเพื่อนไปแบบนี้ แค่บ้านเขาน้ำท่วมไม่ใช่บ้านเรา เรายังร้องไห้เลย คือสงสาร เพราะบ้านหลังนี้เขาสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง เพิ่งสร้างเสร็จ 2 ปีเอง ข้างล่าง ชั้น 1 ก็ทำไปเยอะ พอมันเสียหายเราก็สงสาร เขาเล่าให้ฟังเราก็ร้องไห้ ก็บอกไม่เป็นไร สู้กัน เรายังแข็งแรง ปลอดภัย น้ำลดแล้วเดี๋ยวก็ซ่อมบ้านได้ มันอยู่ที่กำลังใจคนรอบข้าง เขาก็เครียดนะ ไม่รู้ว่าจะกลับได้เมื่อไหร่ กลับมากรุงเทพจะไปอยู่ที่ไหน"
       
       "ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอภูริเลยค่ะ เพราะเขาอพยพไปตั้งแต่วันศุกร์ จริงๆ ตอนแรกมีแพลนจะไปภูเก็ต แต่หลังจากที่เป็นแบบนี้เราก็บอกเขาว่าเราไม่กล้าทิ้งบ้านไปเหมือนกัน เพราะบ้านเราอยู่ในเขตเสี่ยงด้วย คือเขาก็ไม่ได้ถึงขนาดให้กำลังใจแต่เขาจะบอกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นแบบนี้คุณแอนจะต้องทำแบบนี้ เพราะเขามีประสบการณ์จากบ้านเขาแล้ว เขาก็จะบอกว่าคุณแอนอย่าดูข่าวเยอะ เดี๋ยวเครียด"

ที่มา: manager.co.th