เทรนด์ ไมโคร หวังสิ้นปี ไล่ชิงส่วนแบ่งขึ้นเป็นอันดับ 2 แม้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม อาจโตไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เชื่อชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่รองรับการปกป้องภัยคุกคามทั้งบนพีซี และสมาร์ทโฟน จะช่วยกระตุ้นตลาดคอนซูเมอร์ได้
นายสุรศักดิ์ วนิชเวทย์พิบูล ที่ปรึกษาด้านเทคนิค บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กของคนไทย ที่เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น จากการที่ไม่รู้ว่าลิงก์ที่โพสต์มีความปลอดภัยแค่ไหน
"ประชากรของประเทศไทย 26.3% มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการใช้งานเฟซบุ๊กที่มีมากถึง 10.1 ล้านคน มีอัตรการเติบโตเร็วเป็นอันดับต้นๆของโลก เช่นเดียวกับการขยายตัวของโมบายอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงถึง 400% ถ้านับการเติบโตจากปี 2008"
ขณะที่ภัยคุกคามในปัจจุบัน มีการเกิดขึ้น 3.5 ตัวในทุกๆ 1 วินาที ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 80% เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ในจุดนี้เทรนด์ ไมโคร ได้มีการเพิ่มจำนวนการตรวจสอบเว็บไซต์สูงถึง 2 ล้านเว็บไซต์ต่อชั่วโมง ถ้ามองเฉพาะการเติบโตของมัลแวร์ในช่วง 6 เดือนหลังมีการเติบโตสูงถึง 1410%
"ช่วงที่ผ่านมาจะมีการโจมตีรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอย่าง FakeAV ที่สร้างหน้าต่างหลอกว่าเครื่องคอมพ์ติดไวรัส ให้กดเข้าไปดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัส แต่แท้ที่จริงเป็นการนำไวรัสเข้าสู่เครื่อง ส่วนในโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ก็มีลิงก์ยูอาร์แอลย่อ ที่หลอกให้ไปเข้าเว็บไซต์ปลอม"
ที่สำคัญคือภัยคุกคามที่เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟน เนื่องจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากเว็บไซต์ที่ไม่เป็นทางการ เพราะอาจมีการแฝงภัยคุกคามในหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อติดตั้งแล้วจะทำให้คนร้ายได้ทั้งรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆภายในเครื่อง
"ผู้ใข้งานทั่วไป จะไม่สามารถติดตามภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น จุดนี้เทรนด์ไมโคร จึงต้องการพัฒนาระบบป้องกันภัยคุกคามที่สามารถจัดการสิ่งต่างๆเหล่านี้อย่าง เทรนด์ ไมโคร ไททาเนียม 2012 ที่ช่วยปกป้องทั้งภัยคุกคามบนโทรศัพท์มือถือ สามารถสแกนแอปพลิเคชัน ป้องกันการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์สำหรับบุตรหลาน สั่งบล็อกสายเข้า หรือข้อความ ระบุพิกัดของสมาร์ทโฟน สั่งล้างข้อมูล ล็อกเครื่อง"
นางสาวกาญจนหทัย กิ่งหิรัญวัฒนา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ ไมโคร แบ่งลูกค้าออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ คอนซูเมอร์ และคอร์ปอเรต ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 95% ต่อ 5% ซึ่งในส่วนของคอนซูเมอร์นั้นจะแยกออกมาเป็นการจำหน่าย OEM แบรนด์คอมพิวเตอร์ 70% และขายผ่านหน้าร้าน 30%
"อัตราการเติบโตที่วางไว้จากการแถลงข่าวในช่วงต้นปีที่คาดไว้ว่าจะโต 50% นั้น อาจต้องปรับลดลงมาเหลือ 30-40% จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ เทรนด์ ไมโคร จะสามารถขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดรักษาความปลอดภัยได้"
โดยกลยุทธ์หลักที่ เทรนด์ ไมโคร เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสที่ 4 คือการเพิ่มช่องทางขายไปยังพนักงานในองค์กรที่มีการใช้งานเทรนด์ ไมโครอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถปกป้องอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆที่นำเข้ามาใช้ภายในสำนักงาน รวมไปถึงการขยายไปยังภาคตลาดการศึกษา ทำซีเอสอาร์ ให้ความรู้ในการปกป้องข้อมูล
"ตอนนี้มี 2 องค์กรที่วางแพลนจะทำโปรโมชัน ราคาพิเศษ ของชุดแอนตี้ไวรัส จำหน่ายภายในองค์กร ซึ่งมีขนาดพนักงาน 2-3 พันคน ทำให้เป็นอีกช่องทางจำหน่าย ที่จะช่วยขยายตลาดของเทรนด์ ไมโครได้"
ขณะที่ในแง่ของอุทกภัยที่เกิดขึ้น ทางเทรนด์ ไมโคร ได้มีการจัดกิจกรรมภายในชื่อ 'Gift and Match' ที่จะนำเงินบริจาคของพนักงานเทรนด์ ไมโคร กว่า 5,000 คนทั่วโลก มารวมกัน และทางบริษัทจะสมทบเงินเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว หลังจากนั้นจะร่วมมือกับมูลนิธิศุภนิมิตรประเทศไทย เพื่อดูแนวทางการช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ความสามารถของชุด เทรนด์ ไมโคร ไททาเนียม แมกซีมัม จะประกอบไปด้วย การปกป้องภัยคุกคามจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก สมาร์ทโฟน เว็บไซต์ ระบบควบคุมบุตรหลานของผู้ปกครอง การเข้ารหัสข้อมูล ระบบสั่งลบไฟล์ฉุกเฉิน และการลบข้อมูลแบบเขียนทับให้ไม่สามารถกู้คืนได้
สำหรับราคาจำหน่ายของ ชุด เทรนด์ ไมโคร ไททาเนียม แมกซีมัม 2012 1 บัญชีผู้ใช้ราคา 799 บาท แถม SafeSync ระบบฝากไฟล์บนคลาวด์ของเทรนด์ ไมโคร 10 GB ให้สามารถแชร์ใช้งานกับอุปกรณ์พพาได้ ส่วน เทรนด์ ไมโคร อินเทอร์เน็ต ซิเคียวริตี 2012 3 บัญชีผู้ใช้ 1,290 บาท
Company Relate Link :
TrendMicro
ที่มา: manager.co.th
