Author Topic: กูเกิลอ่วมขายคูปองไม่รุ่ง  (Read 869 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      ความพยายามเสนอตัวเป็นทางเลือกในอุตสาหกรรมดีลส่วนลดรายวันหรือ daily deal ของกูเกิล (Google) ดูเหมือนว่าจะไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะผู้นำในตลาดขายคูปองส่วนลดออนไลน์อย่าง Groupon และ LivingSocial นั้นยังคงสามารถขยายฐานตลาดได้มั่นคง ต่างจากบริการ Google Offers บริการของกูเกิลที่มียอดขายเดือนล่าสุดน้อยลงมากกว่า 20%
       
       ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดค้าดีลรายวัน Yipit ระบุว่าหลังจากเปิดให้บริการมานานกว่า 3 เดือน ปรากฏว่าบริการคูปองส่วนลดออนไลน์ของกูเกิล Google Offers นั้นมีส่วนแบ่งตลาดน้อยลงต่อเนื่องในพื้นที่สำคัญอย่างนิวยอร์ก พอร์ตแลนด์ และโอเรกอน โดยรายรับรวมของ Google Offers ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นลดลงจากเดือนกรกฎาคมถึง 23% สวนทางกับจำนวนดีลซึ่งกูเกิลสามารถเสนอได้เพิ่มขึ้นถึง 22%
       
       จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่า รายได้ต่อดีลของกูเกิลนั้นลดลงถึง 37% เนื่องจากปริมาณการขายคูปองของกูเกิลต่อดีลนั้นลดลงถึง 46%
       
       อุตสาหกรรมดีลรายวันออนไลน์นั้นกำลังมาแรงตามทิศทางความนิยมของบริการเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เม็ดเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐสะพัดทั่วอุตสาหกรรมดีลรายวันนับตั้งแต่บริษัท Groupon เริ่มให้บริการส่วนลดออนไลน์ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2008 หลักการให้บริการคือการเปิดให้ชาวออนไลน์รวมตัวกันซื้อสินค้าและบริการในราคาพิเศษผ่านเว็บไซต์ ทำให้บริการลักษณะนี้ถูกเรียกสั้นๆว่าเป็นบริการขายคูปองส่วนลดออนไลน์
       
       เจ้าของกิจการทั้งร้านอาหาร โรงแรม หรือสปา สามารถประชาสัมพันธ์ร้านค้าในวงกว้างผ่านเครือข่ายสังคม ทำให้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของธุรกิจลักษณะนี้คือ Social Commerce เพราะชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กคือเรี่ยวแรงสำคัญในการบอกต่อและเผยแพร่จนทำให้มีการซื้อขายดีลแบบเป็นหมู่คณะ ร้านค้าจึงสามารถดึงคนออนไลน์เข้าไปใช้บริการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขณะที่ผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่าปกติ และผู้ให้บริการเว็บไซต์ขายดีลก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายส่วนลด
       
       กูเกิลเป็นหนึ่งในหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่พยายามเสนอตัวเป็นคู่แข่งในธุรกิจนี้ โดยเริ่มให้บริการ Google Offers ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ค้นหาส่วนลดร้านค้าแบบอิงสถานที่ในสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน จุดนี้การประเมินเบื้องต้นพบว่าภาพรวมราคาเฉลี่ยของบัตรกำนัลใน Google Offers นั้นเพิ่มขึ้น 18% ในขณะนี้ ซึ่งยังห่างจากราคาเฉลี่ยของ Groupon และ LivingSocial อยู่มาก
       
       การสำรวจพบว่าเจ้าตลาดค้าดีลอเมริกันอย่าง Groupon นั้นมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม มีรายรับรวมกว่า 120.7 ล้านเหรียญสหรัฐในพื้นที่อเมริกาเหนือ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 13% จากเดือนกรกฎาคม ขณะที่ LivingSocial นั้นมีรายรับจากอเมริกาเหนือลดลง 3% คิดเป็นมูลค่ารวมราว 45.1 ล้านเหรียญ ในเดือนสิงหาคมเท่านั้น
       
       ในประเด็นส่วนแบ่งตลาด Groupon สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เกินครึ่ง 53% ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นจาก 51% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ LivingSocial มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 20% จากที่เคยมี 22%
       
       อย่างไรก็ตาม หลายเสียงเชื่อว่ากูเกิลยังต้องการเวลากู้สถานการณ์ในศึกค้าดีลครั้งนี้ เพราะกูเกิลเพิ่งเข้าซื้อกิจการบริษัท Dealmap ผู้ให้บริการเว็บไซต์รวบรวมดีลส่วนลดจากเว็บไซต์อื่นนับร้อยแห่งในรูปแผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การซื้อ Dealmap จะช่วยให้กูเกิลเสริมความแข็งแกร่งบริการ Google Offers ได้ในอนาคตเพราะช่องทางการเข้าถึงเว็บไซต์ทั้งจากหน้าเว็บปกติและแอปพลิเคชันในอุปกรณ์พกพา บนจำนวนผู้ใช้บริการที่มีอยู่มากกว่า 2 ล้านรายในขณะนี้
       
       ที่สำคัญ กูเกิลไม่อาจยอมแพ้จากธุรกิจค้าดีลไปอย่างง่ายดาย ไม่ใช่เพราะธุรกิจจำหน่ายคูปองจะสามารถทำเงินให้กูเกิลได้มหาศาล แต่เป็นเพราะธุรกิจนี้จะทำให้กูเกิลสามารถเข้าถึงตลาดโฆษณาในท้องถิ่นได้ดีกว่าเดิม แน่นอนว่ากูเกิลรู้ดีถึงเรื่องนี้ และพยายามหาทางรุกตลาดตั้งแต่ปี 2010 จนมีข่าวว่า กูเกิลเสนอเงิน 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อกิจการ Groupon ตัวเลขนี้ถือเป็นสถิติคำเสนอซื้อกิจการที่สูงที่สุดของกูเกิล แต่กรรมการบริหาร Groupon ปฏิเสธข้อเสนอเพราะเชื่อว่าตัวเองจะสามารถขยายบริษัทด้วยตัวเองได้แบบเฟซบุ๊ก ที่ปฏิเสธข้อเสนอซื้อบริษัทหลายพันล้านเหรียญเช่นกัน
       
       Groupon เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2008 สถิติรายรับรวมคือมากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2010 ฐานสมาชิกปี 2010 คือ 13 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 ล้านคนได้ในปี 2011
       
       สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ท้าชิงรายอื่นในอุตสาหกรรมดีลรายวัน เมื่อเดือนสิงหาคม เฟซบุ๊กประกาศถอดใจและหยุดให้บริการดีลรายวันไป สวนทางกับบริการ Amazon Local ซึ่งการสำรวจล่าสุดพบว่ายังไปได้ดีบนรายได้รวมที่คาดว่าจะมีมูลค่าราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
       
       Company Related Link :
       Google Offers

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)