โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรมว.ไอซีทีแล้ว 'อนุดิษฐ์' ประกาศเดินหน้า 2 เรื่องเร่งด่วนคือ การเข้าถึงไอซีทีของประชาชนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประเทศ พร้อมเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีให้เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ ส่วนปัญหาสัญญาสัมปทานว่าตามหลักนิติธรรม ถ้าถูกก็ว่าไปตามนั้นไม่จำเป็นต้องยกเลิก ส่วนเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องก็ต้องรื้อ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ไอซีที) เปิดเผยว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอโปรดเกล้าฯ และหลังจากนั้นจะถวายสัตย์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากกระบวนดังกล่าวเรียบร้อยจะเดินทางเข้าทำงานในกระทรวงไอซีทีให้เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปดูสิ่งที่กระทรวงมีอยู่ในมือก่อนว่าขณะนี้ไอซีทีประเทศไทยมีอะไรบ้าง ทั้งเรื่องคน และงบประมาณ รวมถึงการพิจารณาจากแผนที่เคยใช้ หรือมีมาก่อนหน้านี้ว่ามีแผนใดที่ควรหยิบมาใช้ต่อ
'การได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้รมว.ไอซีที ไม่มีความกังวลใดๆแต่รู้สึกภูมิใจมากกว่า โดยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะเดินหน้าตามนโยบายพรรคเพื่อไทยที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้'
ทั้งนี้มีอยู่ 2 เรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง คือ เรื่องแรกการให้ประชาชนได้เข้าถึงไอซีทีของประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลตามต่างจังหวัดให้สามารถเข้าถึงการให้บริการไอซีทีในราคาถูกกว่าปัจจุบัน อาทิเช่นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในเมืองใหญ่ส่วนใหญ่จะเสียค่าบริการไอซีทีที่ถูกกว่าประชาชนที่อยู่ห่างไกล ทั้งๆที่มีรายรับต่อครัวเรือนมากกว่าซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงไอซีที จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการลดความเหลื่อมล้ำดังกล่าว ซึ่งประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านไอทีมากถึง 6%ต่อรายได้ แต่ประเทศที่เจริญแล้วมีค่าใช้จ่ายเพียง 1%
เรื่องที่ 2 คือการเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และการวางโครงข่ายหลัก ให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อให้เป็นเหมือนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งของประเทศก็ว่าได้
นอกจากนี้ยังพร้อมเดินหน้านโยบายพรรคที่ให้ไว้กับประชาชนในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับไอซีที เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ด้วยการเร่งผลักดันการลงทุนโครงการบรอดแบนด์ เน็ตเวิร์ก อย่างจริงจัง ไม่เฉพาะโครงการโทรศัพท์มือถือระบบ 3Gเท่านั้น แต่จะมีเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ผ่านเครือข่ายไอซีทีอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะนโยบายที่ใช้หาเสียงเอาไว้ที่จะแจกคอมพิวเตอร์พกพาให้กับนักเรียนชั้น ป.1 หรือ 'one tablet' เพื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เปิดโลกการศึกษาให้กับนักเรียน และเป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ประมาณ 8 แสนเครื่อง
ขณะที่ปัญหาเรื่องสัมปทานต่างๆ ที่ยังมีข้อพิพาทอยู่ระหว่างรัฐกับเอกชน มองว่า การดำเนินนโยบายทุกเรื่องของรัฐจะต้องดำเนินการบนหลักนิติธรรม คือ สิ่งใดถูกก็ว่าไปตามนั้นไม่มีเหตุผลจำเป็นที่ต้องยกเลิก ส่วนเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถปล่อยให้ดำเนินการต่อไปได้ นอกจากนี้หากกระบวนการสรรหากสทช.แล้วเสร็จ ได้กรรมการครบทั้ง 11 คน กระทรวงไอซีทีก็จะเร่งประสานความร่วมมือเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาให้เกิดบริการ 3G ไลเซ่นส์ใหม่ บนคลื่นความถี่มาตรฐาน 2.1 GHz
สำหรับประวัติ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2508 ปัจจุบันอายุ 46 ปีเป็นบุตรชายของ นาวาอากาศตรี ฐิติ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคสามัคคีธรรม และนางสุมาลี นาครทรรพ โดยสมรสกับนางอรวรรณ นาครทรรพ มีบุตร-ธิดาทั้งหมด 4 คน จบการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร รุ่นที่ 7 โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 23และโรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 30 สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จากนั้นเข้ารับราชการทหารอากาศ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากนั้นตัดสินใจลาออกจากการรับราชการเมื่อปี 2547 และหันมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ในการทำงานด้านการเมืองอย่างเต็มตัว
น.อ.อนุดิษฐ์ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สมัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์) ประธานคณะกรรมการประสานงาน และติดตามผล การดำเนินงานนโยบายลำไย ประจำปี พ.ศ. 2548 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะกรรมการดำเนินงาน จัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อสนับสนุน การปฏิบัติงานฝนหลวง ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะดำเนินการ จัดงานรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตอนเหนือ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2548 และ คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาและติดตาม งบประมาณของเหล่าทัพ และประสิทธิภาพของกองทัพไทย ในคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร มาก่อน
ที่มา: manager.co.th
