“แอนเจลินา โจลี” ออกมาเปรยว่าเธอและสามี “แบรด พิตต์” อาจจะรับงานแสดงน้อยลงเรื่อย ๆ ในอนาคต เพราะขณะนี้เริ่มมีสิ่งอื่น ๆ มากมายในชีวิต ที่พวกเขาคิดว่าสำคัญ และต้องทำมากกว่าในชีวิต
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด แอนเจลินา โจลี ได้กล่าวเป็นนัยว่าเธอเริ่มหมดความสนใจในอาชีพนักแสดงแล้ว ภายหลังจากโลดแล่นในวงการมาตั้งแต่เธอมีอายุได้เพียง 25 ปี
“ฉันไม่เคยรู้สึกเป็นปลื้มอะไรกับงานการเป็นนักแสดงอยู่แล้วค่ะ” โจลี กล่าวกับ Financial Times “แต่ฉันคิดว่า ตัวเองเคยโหยหางานแสดงมากกว่านี่ เมื่อสมัยที่ยังอายุน้อยอยู่ ฉันพยายามหาคำตอบบางสิ่งในชีวิต และพบว่าตัวละครต่าง ๆ สามารถช่วยหาคำตอบเหล่านั้น ช่วยให้ฉันได้เติบโตขึ้นมาได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ฉันรู้แล้วค่ะว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ … ฉันเริ่มสนใจในการหาคำตอบบางเรื่องราว ผ่านตัวละครต่าง ๆ ที่สวมบทบาทน้อยลง … และสามารถตอบคำถามในชีวิต ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ในฐานะคนที่เติบโตแล้ว ด้วยครอบครัวของฉันเอง”
ขณะนี้ โจลี ใช้ชีวิตกับครอบครัวใหญ่ของเธอ กับทั้ง แบรด พิตต์ ผู้เป็นสามี และลูก ๆ ทั้ง 6 คน ซึ่งเธอยืนยันว่า “ฉันไม่ได้รักการแสดงเท่าที่เคยเป็นมาแล้วค่ะ ฉันรักการเป็นแม่”
ในการเปิดใจครั้งนี้ โจลี ย้ำว่าเธอไม่มีแผนจะยุติบทบาทในวงการภาพยนตร์ในตอนนี้ หรือเร็ววันแต่อย่างใด อย่างน้อยงานหลังกล้องก็เป็นสิ่งที่เธอคิดว่าน่าสนใจ โดย In the Land of Blood and Honey คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ ซึ่ง โจลี กล่าวถึงงานครั้งนี้ว่า “ฉันชอบงานนี้มากกว่าการแสดงเสียอีกค่ะ ฉันคิดว่าตัวเองได้เรียนรู้จากการทำงานกับผู้กำกับมามากมาย แม้กระทั่งบางคนที่ฉันไม่ค่อยชื่นชอบเท่าไหร่ … ได้เรียนรู้ถึงการตระหนักต่อคุณค่าของทีมงาน จากการทำงานกับ คลินต์ อีสต์วูด ที่มันจะช่วยทำให้พวกเขาอุทิศตัวในหน้าที่ของแต่ละคนได้”
ท้ายที่สุดแล้ว โจลี ยังยืนยันว่าเธอ และ แบรด พิตต์ คงตัดสินใจยุติบทบาทในวงการของตัวเองลงในวันใดวันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม “เมื่อ แบรด กับฉันอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราก็คงรับงานน้อยลง ฉันทำงานมานานมากแล้ว เขาก็ทำงานมานานเหมือนกัน เรามีเส้นทางในอาชีพที่ดี แต่ฉันไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ไปตลอดทั้งชีวิต มีอะไรมากมายอย่างอื่นที่อยากทำ”
ที่มา: manager.co.th