พีรศักดิ์ ทองนรินทร์
ซีแมชตั้งเป้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอปีหน้า หวังสร้างแบรนด์ไทยในตลาดอินเตอร์ ซุ่มซื้อบริษัทคู่แข่ง 'ฟูลคัลเลอร์' ครองเบอร์หนึ่งตลาดหมึกพิมพ์เทียบเท่าหมึกแท้แบบเบ็ดเสร็ด พร้อมขายเลเซอร์พรินเตอร์แบรนด์ใหม่ 'แพนทัม'เจาะตลาดอาเชียน
นายพีรศักดิ์ ทองนรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มซีแมช มีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ในปีหน้าเพื่อระดมทุนประมาณ 250-300 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะนำไปขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตหมึกพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมทอผ้า และหมึกพิมพ์โฆษณา ที่วันนี้กลุ่มซีแมชได้วิจัยและพัฒนาสูตรหมึกสำหรับอุตสาหกรรมทอผ้าและสำหรับสื่อโฆษณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขาดแต่โรงงานที่จะผลิตหมึกออกมาจำหน่ายเท่านั้น เพื่อเป็นการขยายไลน์สินค้าทางด้านหมึกพิมพ์ออกไปในเซกเมนต์ใหม่ นอกเหนือจากตลาดหมึกพิมพ์สำหรับพรินเตอร์ภายใต้แบรนด์ โคแม็กซ์ ซึ่งทำตลาดมานาน 13 ปี และมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด35%
อีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นงบการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าในกลุ่มซีแมช ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์หมึกพิมพ์โคแม็กซ์ และสินค้าไลฟ์สไตล์สำหรับอุปกรณ์ดิจิตอล 'วอกซ์' เพื่อสร้างชื่อให้กับแบรนด์ของคนไทยในต่างประเทศ รวมไปถึงนำสินค้าครบทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดังกล่าวไปจำหน่ายในต่างประเทศ
ทั้งนี้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดไทย กลุ่มซีแมชได้เข้าซื้อกิจการบริษัท ฟูลคัลเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ทำธุรกิจจำหน่ายหมึกพิมพ์และอุปกรณ์เสริมสำหรับพรินเตอร์แบรนด์ 'ฟรีเจ็ต' จากนักลงทุนชาวไต้หวัน 100% ด้วยเงิน50 ล้านบาทซึ่งจะทำให้กลุ่มซีแมชมีส่วนแบ่งในตลาด 70% โดยจะยังคงทีมงาน และใช้แบรนด์ฟรีเจ็ตในตลาดเหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทมีช่องทางจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากฟูลคัลเลอร์มีจุดแข็งเรื่องช่องทางขายในร้านเครื่องเขียนที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 1,300 ร้านค้า รวมกับช่องทางไอทีทำให้มีช่องทางทั้งสิ้น 1,500 ร้านค้า
'ฟรีเจ็ต มีส่วนแบ่งตลาด 25% เป็นอันดับ 2ในตลาด ถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของโคแม็กซ์ในตลาดหมึกพิมพ์ที่เทียบเคียงหมึกแท้ในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท'
นอกจากนี้เพื่อแก้ไขปัญหาที่หมึกเทียบเท่าถูกกีดกันในการทำตลาดภาครัฐ กลุ่มซีแมชได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจประเทศจีน นำเข้าเลเซอร์พรินเตอร์แบรนด์ใหม่ 'แพนทัม' โดยได้รับสิทธิทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายรุ่นที่เป็นขาวดำก่อน 2 รุ่นราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท ถือเป็นทางออกของกลุ่มซีแมชที่จำเป็นต้องผลิตหมึกพิมพ์สำหรับแบรนด์โดยตรง ไม่ใช่แค่เป็นผู้ผลิตหมึกพิมพ์เทียบเท่าอีกต่อไป
นายพีรศักดิ์ กล่าวว่า เหมือนเป็นการแก้โจทย์ในเรื่องของเครื่องพิมพ์ราคาถูกแต่หมึกพิมพ์ราคาสูง โดยจะมีหมึกพิมพ์ภายใต้แบรนด์แพนทัม วางจำหน่ายด้วย รวมไปถึงหมึกพิมพ์เทียบเท่าภายใต้แบรนด์ฟรีเจ็ต และ โคแม็กซ์ โดยจะมีราคาถูกกว่าหมึกแท้ 20% โดยจะพยายามรักษาช่องว่างดังกล่าวเอาไว้ ไม่ว่าหมึกแท้จะลดราคาลงมามากแค่ไหน
'คาดว่า ปีนี้กลุ่มซีแมชจะมีรายได้ 600 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้ 450 ล้านบาท โดยหมึกพิมพ์ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักอยู่ประมาณ 60% โดยปีหน้าน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท'
Company Related Link :
Zemasch
ที่มา: manager.co.th