"ไคลี มิโนค"จัดเต็มอลังสุดเอาใจแฟนเพลงสาวแท้-สาวเทียม

[Nick]

     ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต Kylie Minogue's Aphrodite 2011 Live in Bangkok ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา งานนี้อลังการกว่าทุกครั้ง เหล่าเพศที่สามแห่ชมเพียบ
       
       นับเป็นการกลับมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยอีกครั้งสำหรับนักร้องดีวาสาวชื่อดัง ไคลี มิโนค ที่งานนี้มาพร้อมกับงานโชว์จากผลงานสตูดิโออัลบั้นอันดับที่ 11 อย่าง Aphrodite ที่เนรมิตเวที ฉาก แสง สี ให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเป็นโอเดสซีแห่งรัก มีการประดับเสาและหลังคาโรมันให้อารมณ์ความเป็นกรีกโบราณชวนหลงใหล
       
       คอนเสิร์ตครั้งนี้อลังการด้วยการแบ่งการแสดงโชว์ออกเป็น 7 องค์ด้วยการ โดยแต่ละองค์นั้นไคลี จะมาในชุดคอสตูมสุดอลังการที่สร้างสรรค์โดยดีไซเนอร์ชื่อดังก้องโลกอย่าง Dolce & Gabbana รวมถึงเสื้อผ้าของเหล่าแดนเซอร์ของเธอด้วย
       
       โดยไคลี เปิดฉากด้วยบทเพลงซิงเกิลล่าสุดอย่าง Aphrodite เธอมาพร้อมเปลือกหอยสีทองใหญ่ยักษ์อลังการ เธอสวมชุดสีขาวทองประหนึ่งเทพธิดากรีกชวนตะลึง ซึ่งเพียงแค่เธอโผล่ขึ้นมากลางเวทีก็ทำเอาทั้งฮอลล์กรี๊ดกันกระหน่ำ และตะลึงไปกับการโชว์ โดยงานนี้ยังมีทีมแดนเซอร์ และนักกายกรรมมาร่วมสร้างเสียงฮือฮาห้อยโหนปีนป่ายได้อย่างสวยงาม พร้อมกับของประกอบฉากบนเวทีที่สุดอลังการด้วยรถม้า พิณยักษ์รูปคน ก่อนที่เธอจะต่อด้วยเพลง The One และเพลง WOW บทเพลงสุดสนุกที่คุ้นหูแฟนเพลงชาวไทย
       
       งานนี้นอกจากไคลีจะขนเพลงในอัลบั้มใหม่มาโชว์มากมายไม่ว่าจะเป็น Cupid Boy, Get Outta My Way, Looking For An Angel, Can't Beat The Feeling, Put Your Hands Up และ All The Lovers เธอยังนำเพลงฮิตจากอัลบั้มเก่ามาร่วมโชว์มากมายเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ได้ทำการบ้านมาอย่างดีว่าแต่ละประเทศเพลงไหนของเธอที่ฮิตในประเทศนั้นๆ พร้อมกับนำบางบทเพลงมาเรียบเรียงใหม่เป็นพิเศษเพื่อเพิ่มสีสันให้กับงานโชว์ของเธอโดยเฉพาะ

       
      อย่างในเพลง Slow เธอก็ไม่พลาดที่จะหยิบเพลงนี้มาฝากแฟนๆให้ได้ขยับตาม แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้เจ้าตัวเปิดเพลงนี้ด้วยจังหวะโซลแจ๊ซ ที่มาพร้อมกับเสียงร้องสุดเซ็กซี่เย้ายวนชวนถวิลหา พร้อมท่าเยื้องย่างสุดเซ็กซี่ของดีวาสาวบนเวที แต่ไม่นานคนที่มารอแดนซ์ในเพลงนี้ก็ไม่ผิดหวัง เพราะหลังจากปล่อยให้คนเคลิบเคลิ้มกับลีลาและน้ำเสียงได้ไม่นานเธอก็เปลี่ยนเป็นจังหวะเป็นแดนซ์สุดสนุกให้ทุกคนลุกขึ้นขยับตามเช่นเดิม
       
       แต่เพลงที่ทำให้ทุกคนในฮอลล์พร้อมใจกันลุกขึ้นและส่งเสียงกรี๊ดกันดังสนั่นคงจะเป็นเพลงอะไรไปไม่ได้นอกจาก Can't Get You Out Of My Head ที่ไม่ว่าจะมองไปตรงไหนในฮอลล์ก็มีแต่ความสนุก ก่อนจะตามติดด้วยบทเพลง In My Arms อีกหนึ่งบทเพลงที่คุ้นหูกันดีสำหรับแฟนๆชาวไทย
       
       อีกหนึ่งการแสดงที่น่าตะลึงเช่นกันคงหนีไม่พ้นเพลง Looking For An Angel ที่งานนี้มีเทวดาหนุ่มสวมปีกใหญ่ยักษ์สีขาวลอยปรากฏขึ้นอยู่กลางเวที เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ชม ก่อนที่จะเข้าสู่เพลง There Must Be An Angel , Love At First Sight และ Can't Beat The Feeling และปิดท้ายด้วยเพลงช้าสุดไพเราะที่แม้ในงานนี้เธอจะทั้งร้องทั้งเต้นไปหลายเพลง แต่กับการร้องเพลงช้าซึ้งๆอย่าง If You Don't Love Me ก็เรียกได้ว่าเธอเปล่งประกายความเป็นดีวาออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเสียงร้องของเธอ ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ในบัลลาดสุดเศร้าเพลงนี้ ทำเอาทั้งฮอลล์ถึงกับเงียบกริบและอินไปกับเพลงนี้ได้อย่างมาก
       
       ความสนุกของคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อไคลีพาแดนซ์กันต่อกับ Better The Devil You Know และ Million Dollar ก่อนจะให้ทั้งฮอลล์ช่วยกันยกมือขึ้นเต้นไปกับเพลง Put Your Hands Up ซึ่งหลังจบเพลงนี้เจ้าตัวก็ลากลับลงหลังเวทีไป
       
       แต่งานนี้แฟนๆก็อังกอร์ พากันเรียกไคลี ให้กลับขึ้นเวทีอีกครั้งและไคลี ก็ไม่ปล่อยให้แฟนเพลงรอเก้อ กลับมาอย่างอลังการด้วยเค้กก้อนโตกับเพลง On A Night Like This และปิดท้ายโชว์ด้วยผลงานจากอัลบั้มใหม่กับเพลง All The Lovers ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเค้กแต่งงานก้อนยักษ์ที่ตั้งตระหง่านบนเวทีโดยมีเหล่าแดนเซอร์ โยกย้ายอยู่โดยรอบ พร้อมโบกมือลาแฟนๆชาวไทยให้กลับบ้านไปอย่างอิ่มเอมด้วย

ที่มา: manager.co.th