มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญเกี่ยวกับกฎระเบียบ ว่าด้วยจำนวนหนังที่จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ "สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์" หรือ Best Picture ของ "ออสการ์" อีกครั้ง โดยในการแจกรางวัลออสการ์ครั้งต่อไป จำนวนหนังที่จะเข้าชิงรางวัลสูงสุดจะไม่ถูกกำหนดตายตัว แต่สามารถยืดหยุ่นระหว่าง 5 ถึง 10 เรื่องตามแต่ความเหมาะสม
สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ ได้ประกาศเมื่อช่วงคืนวันอังคารที่ 14 มิ.ย. ว่าได้มีการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงกฎเกี่ยวกับจำนวนของหนัง ที่จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ซึ่งเดิมกำหนดให้มี 10 เรื่องต่อปี ไปเป็นการไม่จำกัดจำนวนตายตัว แต่ต้องมากกว่า 5 เรื่องและไม่เกิน 10 เรื่อง ทำให้ต่อไปนี้จะไม่มีใครทราบล่วงหน้า ว่าจะมีหนังที่ได้ชิงรางวัลสูงสุดกี่เรื่อง จนกว่าจะถึงการประกาศรายชื่อจริง
โดยหนังที่จะสามารถเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ ต้องได้รับเสียงโหวตจากสมาชิกของสถาบันอย่างน้อย 5% ขึ้นไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง ของการขยายให้มีหนังเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 10 เรื่องจากเดิม 5 เรื่อง มาตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
บรูซ เดวิส ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันฯ ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า "จากการศึกษาข้อมูล เราพบว่าสมาชิกของสถาบันฯ มักจะแสดงความชื่นชมหนังเกินกว่า 5 เรื่อง แต่สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ควรจะยกย่องหนังที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษจริง ๆ เท่านั้น ซึ่งถ้ามีหนังเพียง 8 เรื่องที่สมควรได้รับเกียรตินั้น ก็ไม่ควรจะมีการผูกมัด ให้ต้องเลือกหนังมาในจำนวนที่ตายตัว"
นักดูหนังอาจจะคุ้นเคย กับการระบบที่มีผลงานถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จำนวน 5 เรื่องมานานหลายสิบปี แต่จริง ๆ แล้วมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหนังในรอบสุดท้ายของรางวัลดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ออสการ์ครั้งแรกมีหนังถูกเสนอชื่อเข้าชิง Best Picture อยู่ 3 เรื่อง, ในปี 1932 มีหนังถูกเสนอชื่อเข้าชิง 8 เรื่อง และระหว่างปี 1936 - 1943 มี 10 เรื่อง
แต่หลายสิบปีที่ผ่านมาออสการ์ใช้หลักหนัง 5 เรื่องเป็นมาตรฐานมาโดยตลอด แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นจำนวนที่น้อยเกินไป และปิดโอกาสไม่ให้หนังหลาย ๆ แนวได้สัมผัสการการลุ้นรางวัลออสการ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการพลาดโอกาสชิงรางวัล Best Picture บนเวทีออสการ์ของหนัง The Dark Knight เมื่อปี 2008 ทั้ง ๆ ที่คนดูและนักวิจารณ์กล่าวชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปี เพราะผลงานของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ยังมีพื้นฐานเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งไม่ใช่แนวทางโปรดปรานของเวทีประกวดหนังอยู่แล้ว
จนในปี 2009 จึงมีการขยายรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลหนังยอดเยี่ยมเป็น 10 เรื่อง และทำให้หนังที่ปกติไม่น่าจะมีโอกาสได้เข้าชิงอย่าง The Blind Side, District 9 หรือ Up ได้ร่วมลุ้นรางวัลออสการ์สาขา Best Picture ด้วย
ถึงกระนั้นกฎหนัง 10 เรื่องก็ยังถูกวิจารณ์เช่นเดียวกันว่า ทำให้ออสการ์ "หมดความขลัง" และหนังที่ได้รับการเสนอชื่อบางเรื่องก็ "มีคุณภาพไม่ถึงขั้น" กลายเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธ์ของคำว่า “หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์” ไปโดยปริยาย
ซึ่งกติกาใหม่ที่จะไม่มีการกำหนดจำนวนหนังตายตัวนี่ เป็นความพยายามที่สถาบันฯ ยืนยันว่าต้องการจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลงาน มากกว่าจะเป็นปริมาณหนังนั่นเอง
สำหรับออสการ์ครั้งที่ 84 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2012 จะมีการประกาศรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขาต่าง ๆ ในวันที่ 24 ม.ค. 2012 ต่อไป
ที่มา: manager.co.th