“เอริกะ ซาวาจิริ” ได้ประกาศถึงแผนการกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ด้วยการเซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่น นักแสดงสาววัย 25 ปี ยังยืนยันว่าเธอพร้อมจะปรับปรุงตัว และเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อวงการบันเทิงญี่ปุ่น ที่เธอเคยบอกว่า “ล้าสมัย” เพื่อการทำงานที่ราบรื่นต่อไป
Oricon ได้ยืนยันว่านักแสดงสาวคนดัง เอริกะ ซาวาจิริ ได้เซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่นอย่าง Avex Entertainment เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสัญญาเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมาแล้ว แต่ ซาวาจิริ เลือกที่จะประกาศข่าวดังกล่าวในอีก 1 เดือนต่อมา ก็เพราะว่าต้องการให้เรื่องการหย่าร้างของเธอ กับอดีตสามี ทาคาชิโร่ ซึโยชิ เสร็จเรียบร้อยก่อนนั่นเอง
ซึ่งทั้งสองฝ่ายเรียกการเซ็นสัญญาครั้งนี้ว่าเป็นการทำงานร่วมกันในฐานะ “พันธมิตรทางธุรกิจ” เพราะขณะนี้ ซาวาจิริ ก็ยังมีสัญญาอยู่กับเอเยนซี่แห่งหนึ่งที่สเปน ขณะที่ Avex Entertainment จะรับผิดชอบงานของเธอในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก
ก่อนหน้านี้ ดาราสาวผู้อื้อฉาวเคยตกเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก หลังแสดงความคิดเห็นว่าวงการบันเทิงแห่งแดนอาทิตย์อุทัยเต็มไปด้วย “ความล้าสมัย” ที่ดารานักร้องต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของต้นสังกัด จนแทบจะไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ต้องการได้เลย ทั้งในแง่ของชีวิตส่วนตัว และเรื่องงาน
“ฉันคิดว่าระบบที่ควบคุมดารานักแสดงไม่ให้มีชีวิตปกติ และไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้เลยคือปัญหาของวงการบันเทิงในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ความจริงมันเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเลย ฉันว่าระบบแบบนั้นมันเก่าเกินไปแล้ว พวกผู้จัดการก็แก่เกินกว่าที่จะสามารถแก้ไขอะไรได้” ซาวาจิริ กล่าวไว้เมื่อปีก่อน
โดยดาราสาวผู้เคยมีอนาคตสดใส มาแรงเป็นดาวเด่นในวงการบันเทิง ต้องพบกับมรสุมแห่งข่าวฉาวมากมายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การถูกวิจารณ์ว่าปฏิบัติไม่เหมาะสม ไม่ให้ความร่วมมือในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Closed Note, มีปัญหากับต้นสังกัดหลังรับงานนอกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และข่าวเรื่องการแต่งงานกับ ทาคาชิโร่ ซึโยชิ ศิลปินหนุ่มใหญ่ที่มีอายุห่างจากเธอถึงร่วม 20 ปี ก่อนที่ชีวิตสมรสจะจบลงด้วยการหย่าร้าง
ซึ่งล่าสุดในการหวนคืนวงการอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ซาวาจิริ ยืนยันว่าเธอจะพยายามเปลี่ยนแปลงทัศนคติเกี่ยวกับวงการบันเทิงของญี่ปุ่น เพื่อการทำงานในอนาคตจะได้ไม่มีปัญหาอะไรชึ้นมาอีก
“ฉันอยากจะทำงานหลาย ๆ ด้านในวงการบันเทิงอีกครั้ง แต่พยายามจะโฟกัสไปที่งานแสดงเป็นหลัก และวางแผนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตัวเอง เพื่อที่ฉันจะได้กลับมาเป็นนักแสดงที่ญี่ปุ่นอีกครั้งค่ะ”
ที่มา: manager.co.th