“โบ สุนิตา” อยากมีลูกคนที่สอง แต่หวั่นภัยบัติพิธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อย เผยตอนนี้ทำหน้าที่แม่บ้านเหนื่อยกว่าที่คิด แต่เหนื่อยบนความสุข สุดปลื้มลูกสาว “น้องฮานิ” เริ่มฉายแววศิลปินถอดแบบพ่อแม่แล้ว และหากลูกชอบและมีโอกาสก็อยากผลักดันเข้าวงการ
หายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไปใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวมาหลายปีแล้วสำหรับสาว “โบ สุนิตา จรรยาธนากร” เจ้าตัวเผยว่า ทำหน้าที่แม่บ้านเหนื่อยกว่าที่คิด แต่ความเหนื่อยอยู่บนพื้นฐานของความสุข บอกลูกสาวน้อง “ฮานิ” เริ่มฉายแววความเป็นศิลปินถอดแบบพ่อแม่แล้ว
"ตอนนี้น้องอายุ 1 ปี 8 เดือนแล้ว เป็นเด็กเลี้ยงง่ายค่ะ ก็เริ่มพูดเริ่มคุยบ้างแล้ว พูดเป็นคำๆ บ้างแล้วประมาณ 10 กว่าคำแต่จะพูดช้านิดนึง ก็มีปาป๊า มาม้า แต่ว่าเรียกแม่เขาจะไม่ยอมทำ โบว่าเขาทำได้ แต่เขาไม่ยอมทำ เขาจะเป็นคนที่เก็กมาก อย่างคำว่าแม่ เรียกได้แต่เขาไม่ทำ จะทำเป็นนิ่ง จะทำเป็นเฉย แต่จะไปเรียกคุณยาย เรียกชื่อน้า เรียกชื่อเพื่อนบ้าน แต่ไม่ยอมเรียกว่าแม่เขาจะเรียกว่าโบเลย เราเลี้ยงลูกเป็นเพื่อนอยู่แล้วค่ะ ลูกจะเรียกอะไรก็ไม่ว่าค่ะ เดี๋ยววันข้างหน้าเขาก็เรียกเองค่ะ รอเวลาเขาหน่อยแต่เขาจะไปเร็วในเรื่องอื่นมากกว่า เช่น กล้ามเนื้อมือ การวิ่ง การเดิน เขาจะถนัดมาก”
“ชีวิตแม่บ้านเลี้ยงลูกเหนื่อยมากนะคะ แต่มันเหนื่อยบนความสนุก บ้านนี้เลี้ยงลูกเองไม่มีพี่เลี้ยงเพราะจะได้เห็นเขาตลอดเวลาทุกวัน โบกับคุณยายเป็นหลัก คุณเล็กเขาก็จะไปทำงานหาเงิน แต่ถ้าคุณพ่อเขามีวันหยุดก็จะอยู่กับลูกทันทีหรือไม่ก็จะมีแพลนล่วงหน้า เช่นวันนี้จะไปซาฟารีเวิลด์ วันนี้จะไปว่ายน้ำกันอะไรกัน ก็พยายามหากิจกรรมที่ดีสำหรับครอบครัว"
“แววความเป็นนักร้องของเขามีให้เห็นทุกวันเลยค่ะ คือเขามีแววค่อนข้างเร็วมาก โดยเฉพาะเพลงเต้นๆ ออกแนวฝันดีฝันเด่นนิดนึง ไม่ใช่โบสุนิตานะ ก็จะเต้นเก่งมาก จะพยายามเลียนแบบ โดยเฉพาะวงเกิร์ลกรุ๊ปนี่ชอบมาก เกาหลีสุดๆ และชอบทำท่าแบ๋วๆ ตาม เขาทำไม่เป็นแต่เขาชอบมากค่ะ คือถ้าเพลงเร็วๆ ขึ้นมาเขาจะขยับขาตามทันที อนาคตข้างหน้าก็คงต้องดูที่ความชอบของเขาเป็นหลัก ถ้าเขามีแววทางนี้แล้วเขามีโอกาสก็อยากให้เขาลอง แต่ถ้าเขาไม่ชอบก็จะไม่ดัน โบว่าปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า"
เผยมีแพลนเตรียมมีทายาทคนที่สองภายในปีนี้แต่หวั่นภัยธรรมชาติคุกคาม จึงขอแตะเบรกไว้ก่อน
"จริงๆ แล้วมีแพลนที่จะมีนะ แต่ถ้ามีคนเดียวก็ไม่เป็นไร คือที่บ้านโบค่อนข้างจะกังวลเรื่องภัยธรรมชาติกันมันเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มันเริ่มมาโซนเอเชียเข้ามาเรื่อยๆ จีน พม่า แผ่นดินไหวสะเทือนมาถึงเมืองไทยกันน่ากลัวมากก็ขอดูไปก่อนสักพักดีกว่า คือเราก็มานั่งคิดๆ ถ้ามีอีกคนแล้วมันจะยังไงมันน่ากลัว ก็เลยดูสถานการณ์กันไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้เราคิดกันอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันและเรื่องลูกเรื่องอะไรด้วยที่จะต้องคิดไปถึงวันข้างหน้า ถ้ามันไม่มีอะไรให้กังวลก็ตั้งใจว่าจะมีอีกคนภายในปีนี้ให้ได้ค่ะ”
ที่มา: manager.co.th