"เจ เจตริน" นำทัพศิลปิน-ดารา-นักแสดงร่วมงาน “Sing for South” ช่วยน้ำท่วมใต้ นำเสื้อยืดมาจำหน่ายเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากคนดังในวงการบันเทิงคับคั่ง ด้าน "ไมค์ พิรัชต์" ถึงกับน้ำตาแตก หลังไปยืนขายเสื้อยืดแล้วเห็นคนไทยบางคนเดินผ่านไปโดยไม่สนใจใยดี หรือไม่แม้จะคิดช่วยบริจาคเงิน บอก ถ้าไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้สึก วอนอยากให้คิดถึงคนที่กำลังลำบากบ้าง
ต่างร่วมมือร่วมใจมาช่วยงาน “Sing for South” ที่มีแกนนำอย่าง “เจ เจตริน วรรธนะสิน” ณ ลานพาร์คพารากอน ซึ่งงานนี้มีการจัดแสดงคอนเสิร์ต และขายเสื้อยืดตัวละ 350บาท เพื่อนำรายได้จากการขายเสื้อมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคใต้ งานนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเหล่าบรรดาศิลปินที่ต่างตบเท้ามาร่วมงาน อาทิ วงนูโว, ใหม่ เจริญปุระ , ป๊อด Modern, นิโคล เทริโอ, โบ สุนิตา, ลิปตา ,สินเจริญ ฯลฯ รวมไปถึงเหล่าดาราและนางแบบ งานนี้เจได้เปิดเผยว่ารายได้ทั้งหมดนั้น จะเป็นคนดูแลจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดและอยากนำเงินส่งให้ถึงมือผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุด
“เมื่อวันก่อนไปขายเสื้อที่แฟชั่นไอส์แลนด์เป็นโครงการปันน้ำใจจากแฟชั่นไอส์แลนด์ และผมก็ไปช่วยกันขายเสื้อได้มาประมาณ 560,000 บาท เงินก้อนนี้ก็ถือเป็นกำลังใจให้ แล้วเงินก้อนนี้ผมจะลงไปช่วยทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีเลย และจะนำเงินไปลองกระจายว่าจะสามารถช่วยพื้นที่ไหนได้บ้าง อย่างอำเภอคุนพิน หรืออำเภอศรีไชยา หรืออำเภออื่นๆ ต้องตรวจสอบ แต่เงินก้อนนี้อยากให้ถึงมือชาวบ้านมากที่สุด”
“รวมถึงวันนี้ด้วย SING FOR SOUHT แล้วก็มีสปอนเซอร์รายละ 1 แสนบาท ก็ได้มา 4 แสนแล้ว แล้วก็นำเสื้อมาขาย 2 พันตัว เงินต่างๆเหล่านี้ผมจะดูแลทุกบาททุกสตางค์ด้วยตัวเองทั้งหมด วันนี้ได้ศิลปินมาช่วยกันทั้งหมด ก็ต้องขอบคุณด้วยความจริงงานนี้ไม่ใช่งานของผม เป็นงานของพวกเรามากกว่า รวมถึงสื่อมวลชนด้วย พวกเราไม่ได้ทอดทิ้งเราช่วยเหลือคนญี่ปุ่นแล้ว เราต้องช่วยเหลือคนไทยให้มากกว่า”
ด้านนักร้องสาว “ใหม่ เจริญปุระ” ขอเป็นแรงใจให้พี่น้องที่ประสบอุทกภัย ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นคนใต้เหมือนกัน แถมงานนี้ยังให้กำลังใจเป็นภาษาใต้อีกต่างหาก
“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่รู้สึกเสียใจด้วย เพราะตัวใหม่เองก็เป็นคนใต้ด้วย แต่ถึงเราไม่ใช่คนใต้จะเป็นคนภาคเหนือหรืออีสานเราก็คนไทยด้วยกัน ญาติพี่น้องคนใต้ของใหม่ก็ยังมีอยู่แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่หาดใหญ่แต่ยังไม่ท่วม เราเห็นสภาพตอนนี้เราเห็นใจมาก ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คนใต้ทุกคนเชื่อว่าไม่ใช่แค่ใหม่เพื่อนๆดาราศิลปินนักแสดงหรือแม้กระทั้งผู้สื่อข่าวกันเองก็ช่วยเหลือส่งกำลังและแรงใจให้ อย่าเพิ่งขวัญหนีดีฟ่อทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
ขณะที่นักร้องหนุ่ม "ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" ถึงกับน้ำตาคลอ ตัดพ้อรู้สึกเสียใจกับบางคนที่เดินผ่านไปแบบไม่สนใจใยดี ทั้งๆ ที่ตนเองและเพื่อนๆ ศิลปินดาราช่วยขายเสื้อเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ บอกบางคนซื้อเสื้อหรูๆ ใส่เพื่อตัวเองยังทำได้ แค่ซื้อเสื้อช่วยเหลือชาวใต้แค่ 350 บาท ไม่ได้หรือไง
"ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้หรือในอนาคตมันเป็นเรื่องของพวกเราทั้งหมด มันไม่มีแบ่งแยกเพศหรือแบ่งแยกสถานะพวกอยู่ในสถานะมนุษย์คนธรรมดามันเป็น สิ่งที่เราต้องช่วยกัน ไม่รู้สึกสะเทือนใจกันบ้างเหรอครับเวลาเห็นข่าวคนไม่มีจะกินไม่มีไฟฟ้าใช้ คือโอเคเข้าใจว่าคนกรุงเทพหลายๆอาจจะไม่ได้ลำบากขนาดไม่มีอะไรจะกิน แต่ผมเคย จริงๆผมก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเยี่ยงดาราแต่ผมใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราสมมุติเราไม่มีบ้านอยู่ คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ทุกวันไม่มีให้ใช้ โทรศัพท์ บีบีไม่มีให้ใช้ ข้าวที่เคยกินทุกวันไม่มีให้กิน กินอยู่ข้างถนนคุณจะรู้สึกยังไงเมื่อน้ำมาถึงตัวคุณ กว่าจะรู้สึกตัวก็สายไปแล้ว เราควรที่จะป้องกันมากกว่ารักษา แล้วผมก็ค่อนข้างเสียใจกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาที่ไม่สนใจใยดีคิดว่าไม่ใช่ เรื่องของตัวเอง มันคือเรื่องของคุณที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วลองคิดดูถ้าเกิดขึ้นกับคุณ แล้วประเทศอื่นไม่เคยคิดช่วยคุณเลยคุณจะรู้สึกยังไง(น้ำตาคลอ)"
"เสื้อแค่ 350 บาทมันแพงเหรอครับถามจริงๆ แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินเข้าห้างซื้อเสื้อตัวหนึ่งที่แพงๆ เพื่อตัวเอง แล้วส่วนร่วมที่กำลังลำบากไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ภาคใต้ก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นกับภาคใต้มันเกิดขึ้นทั่วโลก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สนใจ โลกคือที่ที่เราอยู่ และกำลังจะหายไปทุกคนไม่เอะใจกันบ้างเหรอ หรือว่าต้องให้ความรู้กันมากกว่านี้เกี่ยวกับเรื่องของการรณรงค์โลกร้อน เพราะโลกร้อนพูดกันมากี่ปีแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจทำไมไม่มีใครจัดการจริงๆ เสียทีรอให้เกิดขึ้นก่อนหรือไงแล้วค่อยมาจัดการ"
"ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะพูดได้มากน้อยแค่ไหนเพราะผมอายุ 21 แต่ผมอาจจะคิดได้มากกว่า คนอื่นนิดหน่อย โอเค หลายๆ ตนอาจจะด่าผมว่าคุณนะเหรอคิดได้ แต่ตอนนี้ผมเชื่อในตัวผมว่าผมคิดได้ดูได้จากการกระทำของผมที่ผมทำอยู่ ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ผมทำเพื่อส่วนร่วมสิ่งที่เราควรจะทำคืออะไร อยู่ตรงไหนจุดไหน"
ที่มา: manager.co.th
