ลิลี่ คอลลินส์
ผู้สร้างได้ยืนยันการเลือกสาวน้อย "ลิลี่ คอลลินส์" ให้มารับบทนำเป็นเจ้าหญิงแสนสวยในหนัง "สโนว์ไวท์" ภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มใหญ่ ที่จะมี “จูเลีย โรเบิร์ต” รับบทเป็นราชินีผู้ชั่วร้าย และยังเป็นหนึ่งในหนังจากเทพนิยาย ที่กำลังเป็นกระแสในฮอลลีวูดอยู่ในเวลานี้
Variety ได้ยืนยันว่านักแสดงสาว ลิลี่ คอลลินส์ จะมารับบทเป็น สโนว์ไวท์ ในหนังของบริษัท Relativity Media ที่ดัดแปลงมาจากนิทานอมตะของพี่น้องตระกูลกริมม์
สาววัย 22 ปี เป็นลูกสาวของศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ ฟิล คอลลินส์ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยมีผลงานที่หลาย ๆ คนได้ผ่านตาอย่าง The Blind Side มาแล้ว
ผู้สร้างได้เปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่อง Snow White ฉบับนี้จะมีความร่วมสมัย ให้บรรยากาศของหนังแอ็กชั่นตลก ซึ่งนอกจากคอลลินส์แล้ว หนังจะมี จูเลีย โรเบิร์ต รับบทเป็นราชินีผู้ชั่วร้าย และอาร์มี่ แฮมเมอร์ แห่ง The Social Network เป็นเจ้าชายตัวเอกของเรื่อง โดยหนังจะมีกำหนดเปิดกล้องในเดือน พ.ค. เพื่อเข้าฉายในวันที่ 29 มิ.ย. 2012
Snow White and the Huntsman
ซึ่งนับว่าในปี 2012 แฟนหนังจะได้มีโอกาสดู สโนว์ไวท์ ถึงสองเรื่องกันเลยทีเดียว เมื่อสองสตูดิโอใหญ่แห่งฮอลลีวูดเกิดใจตรงกัน ในการสร้างหนังที่ดัดแปลงมาจากนิทานคลาสสิคของพี่น้องกริมม์เรื่องนี้ โดยนอกจากเรื่องที่มี ลิลี่ คอลลินส์ รับบทนำแล้วยังจะมี Snow White and the Huntsman จาก Universal Pictures ด้วย
โดยหนังฉบับที่เรียกว่า สโนว์ไวท์กับนายพรานนี้ จะมี คริสเตน สจ๊วร์ต รับบทเป็น สโนว์ไวท์, ชาร์ลิซ เธียรอน เป็นราชินีตัวร้าย ขณะที่บทนายพรานตัวนำอีกตัวของเรื่อง เคยมีข่าวการทาบทาม วิคโก้ มอร์เตนเซน เอาไว้ แต่นักแสดงผู้โด่งดังจากหนัง The Lord of The Rings ได้บอกปัดข้อเสนอดังกล่าวไปแล้ว จึงต้องมีการตามหานักแสดงต่อไป ซึ่งขณะนี้ผู้สร้างได้วางแผนไว้ว่า Snow White and the Huntsman มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 21 ธ.ค. 2012
เจ้าหญิงนิทรา
ในเวลาเดียวกันโครงพัฒนาภาพยนตร์เรื่อง Sleeping Beauty ก็กำลังเริ่มเดินเครื่อง และขณะนี้หนังได้สาวน้อยดาวรุ่งพุ่งแรง เฮลี สไตเฟลด์ ที่โด่งดังสุด ๆ จากหนังคาวบอย True Grit มาสวมบทบาทเป็น เจ้าหญิงนิทรา ที่ผู้สร้างยืนยันว่าจะได้แสดงอะไรมากกว่าการนอนอยู่เฉย ๆ บนเตียงอย่างแน่นอน
ซึ่งขณะนี้โปรเจ็คหนัง Sleeping Beauty ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินการสร้าง ที่ยังไม่ได้การเปิดเผยถึงรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงเรื่องที่ว่าใครจะมากำกับหนังเรื่องนี้แต่อย่างใด
โดยหนังมี ลินด์ซีย์ เดฟวิน มารับผิดชอบในส่วนของบท ซึ่งเธอกล่าวถึงเรื่องราว และนางเอกวัยใสที่จะมารับบทนำของเรื่องว่า "จะเป็นการมอบมุมมองใหม่ ให้กับเทพนิยาย ที่จะเปิดโอกาสให้ สไตเฟลด์ ได้ทำอะไรมากกว่าแค่นอนหลับ รอให้เช้าชายมาทำลายคำสาบของแม่มดผู้ชั่วร้ายแน่นอน ในหนังฉบับนี้เราจะบอกเล่าเรื่องราวจากมุมมองของเธอ โดยเฉพาะโลกในความฝัน ที่เจ้าหญิงต้องหาทางหลบหนีออกมาจากคำสาบเอง"
บ้านขนม, แจ็ค ผู้ฆ่ายักษ์ และปีเตอร์ แพน
ยังมีหนังประเภทดัดแปลงมาจากเทพนิยาย และนิทานคลาสสิคอีกจำนวนมาก ที่สตูดิโอต่าง ๆ กำลังปั้นโครงการอยู่ในขณะนี้
Hansel & Gretel: Witch Hunters เป็นหนังที่จะเล่าเรื่องในอีก 15 ปีต่อมาของเหตุการณ์ใน “บ้านขนม” เมื่อสองพี่น้อง แฮนเซล กับ เกรเทล ที่รอดชีวิตมา ได้เปลี่ยนตัวเองกลายเป็นนักล่าฆ่าหัว ที่มีเป้าหมายในการกำจัดเหล่าแม่มดให้สูญพันธ์ โดยหนังเป็นโครงการที่ถูกพูดถึงมาพอสมควรแล้ว มีชื่อของ เกมม่า อาร์เทอร์ตัน, เจเรมี่ เรนเนอร์ และ เฟมเก้ เจนเซน อยู่ในรายชื่อของนักแสดงนำ
Jack the Giant Killer ของ Warner Bros., New Line และ Legendary Pictures มีกำหนดเข้าฉายในปี 2012 เล่าเรื่องของชาวนา ผู้ต้องรับภารกิจช่วยเหลือเจ้าหญิง ซึ่งถูกอาณาจักรยักษ์ลักพาตัวไป หนังจะมี ไบรอัน ซิงเกอร์ กำกับ และนำแสดงโดย นิโคลาส โฮลต์, เอลีนอร์ ทอมลินสัน, ยวน แม็คเกรเกอร์, สแตนลีย์ ทุชชี่, บิล ไนก์ฮี และ เอียน แม็คเชน
Oz: The Great and Powerful ผลงานของ แซม ไรมี่ ที่จะเป็นปฐมบทของเรื่องราวใน “พ่อมดออซ” กับเรื่องราวของนักมายากลหนุ่ม (เจมส์ ฟรังโก้) ที่เดินทางด้วยบอลลูนขนาดยักษ์ จนถูกพายุทอนาโดพัดไปตกยังดินแดน "ออซ" ที่เต็มไปด้วยแม่มดผู้วิเศษ ขณะที่ มิล่า คุนิส จะสวมบทบาทเป็นหนึ่งในแม่มดฝ่ายดี ที่เข้าสู่ด้านมืด หลังจากถูกตัวละครของ ฟรังโก้ สบัดรัก
นอกจากนั้นยังจะมีการสร้างหนังเกี่ยวกับ ปีเตอร์ แพน โดยมีการวางตัว แชนนิ่ง ตาตั้ม ไว้ในบทนำด้วย และจะเป็นการเล่าเรื่องราว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในหนังสือที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีเช่นเดียวกัน
ซึ่งกระแสการนำเทพนิยายมาขึ้นจอใหญ่ เป็นหนังคนแสดง ด้วยเทคนิคพิเศษตระการตา หรือไม่ก็ตีความเสริมมุมมองใหม่เข้าไปนั้น เริ่มต้นมีให้เห็นตั้งแต่ปีก่อนแล้ว กับ Alice In Wonderland ของ ทิม เบอร์ตัน ที่ทำเงินไปมหาศาลกว่า 1,000 ล้านเหรียญฯ ทั่วโลก ขณะที่ในปีนี้ก็มี Beastly และ Red Riding Hood ที่ดัดแปลงมาจาก "โฉมงามกับเจ้าชายอสูร" และ "หนูน้อยหมวกแดง" ตามลำดับ
ที่มา: manager.co.th
