“แอฟ” โต้วิวาห์ “สงกรานต์” สิ้นปีนี้ บอก แฟนหนุ่มยังไม่เคยขอแต่งงานเลย ส่วนกรณีที่ฝ่ายชายโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คว่า วันดี 17 เดือน 11 เจ้าตัวปัดไม่ทราบหมายถึงฤกษ์อะไร แต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นเรื่องงานมากกว่า บอก ตั้งแต่กลับมาจากนั่งสมาธิที่เนปาล ยังรู้สึกอิ่มบุญไม่หาย ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอินเดียต่อ
โดนจับตามองอีกคู่ว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีเสียที สำหรับนางเอกสาว “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” กับหวานใจไฮโซ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ที่งานนี้มีคนเห็นว่าสงกรานต์แอบโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า วันดีวันที่ 17 เดือน 11 ทำให้หลายคนตั้งข้อสันนิฐานว่าเป็นฤกษ์วิวาห์ของทั้งคู่หรือเปล่า แต่พอถามไปยังสาวแอฟ เจ้าตัวก็ถึงกับปฏิเสธเสียงสูงว่าแฟนหนุ่มยังไม่เคยขอแต่งงานเลย
“สิ้นปีนี้จะสละโสด ยังไม่มีค่ะ(เสียงสูง) สละคนเดียวได้ไหม(หัวเราะ) ยังไม่มีอะไรเลย สงกรานต์เขาก็ไม่เคยพูดว่าจะหมั้นจะแต่งอะไรเลยนะ กับคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้ ที่สงกรานต์โพสต์ในเฟซบุ๊คว่าวันดี 17 เดือน 11 เป็นวันแต่งงานหรือเปล่า อันนี้แอฟไม่ทราบเลย เพราะว่าแอฟไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ค แต่ถ้าถามก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องงานมากกว่านะ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เผย หลังจากที่ไปนั่งสมาธิ ที่ประเทศเนปาลมารู้สึกอิ่มบุญ พอกลับมาก็ช่วยมาประชาสัมพันธ์ให้
“ที่ไปเนปาลก็ดีมากๆ เลย ได้มีโอกาสไปทำบุญไหว้พระนั่งสมาธิ ในสถานที่ที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ประเด็นคือไปเพื่อที่กลับมาบอกบุญ อยากให้ทุกคนมาร่วมบริจาคกันบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าที่ลุมพีนีสถาน แต่แอฟไม่ได้เป็นประธาน ตอนนี้คนที่ประธานคือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ส่วนตัวแอฟหลักๆ ก็คือการที่ไปดูงานแล้วก็กลับมาบอกบุญประชาสัมพันธ์”
“คุณแม่ของสงกรานต์ไปด้วยท่านแฮปปี้มาก ได้ไปทำบุญเราก็มีความสุขนานกว่าทำอย่างอื่น ท่านก็ชอบทุกบุญเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งเนปาลทั้งอินเดีย พอไปแล้วท่านก็ได้ให้ความรู้กับแอฟเยอะ ทำให้แอฟอยากไปอินเดียด้วยเพราะว่าแอฟไม่เคยไป พอเราได้ไปเนปาลเราก็เลยอยากที่จะไปต่ออีก เพราะว่าในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชนเราก็ควรมีสี่สถานที่ที่เราควรไปชีวิตหนึ่งที่ควรไปคือสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน”
“คือตอนแรกยังคิดว่าวันวาเลนไทน์ไม่ได้ไปฉลองที่ไหน แต่เราได้ไปนั่งสมาธิแทน พอกลับมาแล้วความสุขความสงบตรงนั้นมันยังอยู่ มันอยู่ได้นานกว่าเราจะไปสนุกชั่วครั้งชั่วคราว ไปทานข้าว ไปก็ไม่ได้ลำบาก อย่างแรกที่ไปเลยเราคิดว่าเราโชคดีมากเลยที่เกิดมาเป็นคนไทย คือรู้เลยว่าทำไมถึงต้องช่วยชาติอื่นก่อน คืออย่างน้อยๆ พวกเขาก็เป็นศาสนาเดียวกับเรา”
ที่มา: manager.co.th