Author Topic: ซันยึดนโยบายแยกบริหารออราเคิล  (Read 959 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ซัน เผยยึดนโยบายแยกบริหาร 2 บริษัท รอดีลควบรวมออราเคิลเสร็จ คาดสมบูรณ์ซัมเมอร์ปีนี้ ย้ำพาร์ทเนอร์-ลูกค้า-พนักงาน ยังมั่นใจเดินหน้าลุยโปรเจค

นางรัมภา มนูญศิลป์ กรรมการผู้จัดการซัน ไมโครซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงนี้การบริหารงานระหว่างซัน และออราเคิลในไทยยังยึดรูปแบบแยกบริหารงานชัดเจน และคงนโยบายตามที่แต่ละบริษัทกำหนดไว้เดิม ยังไม่ปรับเปลี่ยน ตัด ลด หรือโยกย้ายส่วนงานใดๆ ออกไป ต้องรอจนกว่าบริษัทแม่จะประกาศการควบรวมกิจการสมบูรณ์ ประมาณซัมเมอร์นี้ของสหรัฐฯ


 ส่วนซันในไทยยังดำเนินงานตามแผนการเดิม ทั้งโปรเจ็คการขยายตลาดส่วนต่างๆ และการเดินหน้าโมเดล "เอสอีพี (ซัน อิควิตี้ พาร์ทเนอร์)" ซึ่งเร็วๆ นี้จะประชุมร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อหาทางรับมือสภาพเศรษฐกิจที่ทรุดตัวทั่วโลก


 เธอระบุว่า เดือนมิ.ย.นี้จะสิ้นสุดไตรมาสแรกของบริษัท ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่ยังเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท และส่วนใหญ่ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ แต่ซันยังเชื่อว่า ผลประกอบการไตรมาสนี้จะยังคงเติบโตได้บ้าง แต่อาจไม่เท่ากับปีที่ผ่านมา


 "ณ วันนี้ยังไม่สิ้นสุดกระบวนการของการควบรวม เราก็ยังเดินหน้าต่อไป พนักงานของซันทุกคนก็ยังเชื่อมั่นในตัวบริษัท และก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ส่วนพาร์ทเนอร์เราก็ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะเราค่อนข้างโชคดีว่า โพรดักส์ของเรา และออราเคิลทับซ้อนกันน้อยมาก ทั้งบางตัวเช่น ซัน โซลาริส ก็ยังใช้ได้ดีบนแพลตฟอร์มของออราเคิล ดังนั้นการควบรวมจึงเป็นผลดีกับเรามากกว่า และจากที่ซีอีโอของออราเคิลประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ก็ยังยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์เดิมๆที่ซันมีอยู่ ได้แก่ มายเอสคิวแอลก็จะยังคงทำตลาดต่อไป แต่อนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรนั้นต้องรอให้บริษัทแม่ประกาศไดเรคชั่นที่ชัดเจนก่อน โดยระหว่างนี้เราก็ทำงานทุกอย่างเหมือนเดิม" นางรัมภา กล่าว


 พร้อมกันนี้เธอเผยว่า เร็วๆ นี้บริษัทกำลังพิจารณาขยายพาร์ทเนอร์ระดับ "แอพพลิเคชั่น พาร์ทเนอร์" มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการกับลูกค้า จากเดิมที่มีกลุ่มคอมมอน พาร์ทเนอร์ช่วยทำตลาดอยู่แล้ว


 นอกจากนี้ล่าสุดซันยังได้เดินหน้าโครงการ "โอเพ่น ไจฟ (Open Jive)" งานประกวดออกแบบแอพพลิเคชั่นโอเพ่นซอร์สเชิงธุรกิจระดับภูมิภาค สำหรับนักศึกษา เพื่อต่อยอดการใช้ซอฟต์แวร์ระบบเปิดเชิงพาณิชย์ โดยปีนี้เน้นหัวข้อการนำโอเพ่นซอร์สช่วยแก้ปัญหาเชิงธุรกิจ ซึ่งสมัครเข้าร่วมได้ผ่านเว็บไซต์ http://th.sun.com/openjive ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้


 นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย เผยว่า ผลงานของนักศึกษาจากเวทีดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากศูนย์บ่มเพาะของซอฟต์แวร์พาร์ค เพื่อต่อยอดโซลูชั่นออกสู่ตลาดได้จริง เนื่องจากแนวโน้มการใช้ซอฟต์แวร์ช่วงนี้ธุรกิจต่างๆ เริ่มต้องการตัวเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะโอเพ่นซอร์ส ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า


 ขณะที่ผลสำรวจจากบริษัทฟรอสต์ โรดแมป คาดการณ์ว่า ภายในปี 2563 การใช้โอเพ่นซอร์สในองค์กรต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้น เป็นสัดส่วน 40% ของซอฟต์แวร์ทั้งโลก เนื่องจากโอเพ่นซอร์สหลายกลุ่มเริ่มเสถียรมากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่ายได้หลักหลายสิบล้านบาท


ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)