Author Topic: กูเกิลจัดระเบียบเสิร์ช พลิกฟ้าโลกออนไลน์  (Read 988 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


     การศึกษาล่าสุดในธุรกิจค้นหาข้อมูลออนไลน์หรือเสิร์ชเอนจิน พบการจัดระเบียบเสิร์ชเอนจินของกูเกิล (Google) ให้มีคุณภาพดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบเปลี่ยนแปลงโลกออนไลน์ครั้งใหญ่ ที่เห็นชัดเจนในขณะนี้คือเว็บไซต์ใหญ่หลายแห่งที่ติดอันดับผลการค้นหาหน้าแรกกลับถูกลดอันดับลง ขณะที่เว็บไซต์เครือข่ายสังคม ร้านค้าปลีก และข่าว กลับมีผลการค้นหาที่ดีขึ้น นักวิเคราะห์มั่นใจทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านผลประโยชน์ในธุรกิจโฆษณาออนไลน์มูลค่าหลายล้านเหรียญในอนาคต
       
       กูเกิล ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินอเมริกันออกแถลงการณ์แจ้งปรับเปลี่ยนระบบการจัดดัชนีค้นหาข้อมูลหรืออัลกอริทึมในเว็บไซต์กูเกิลดอทคอมเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จุดประสงค์หลักคือการพัฒนาให้ผลการค้นหาข้อมูลบนกูเกิลมีคุณภาพมากขึ้น ด้วยการตัดทางโตเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา "คุณภาพต่ำ" เพราะเว็บไซต์เหล่านี้มักมีเนื้อหาเพียงแค่ให้ระบบของกูเกิลเสิร์ชพบแล้วล่อลวงให้ผู้ใช้กูเกิลเปิดหน้าเว็บที่มีแต่โฆษณา เบื้องต้นกูเกิลคาดว่าการปรับอัลกอริทึมครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงผลการค้นหาราว 12% ของการค้นหาบนกูเกิลในสหรัฐฯ ก่อนที่กูเกิลจะขยายไปกูเกิลภูมิภาคอื่นต่อไป
       
       อามิต สิงหัล และแม็ตต์ คัตส์ ส่วนหนึ่งของทีมวิศวกรกูเกิลยอมรับในบล็อกของบริษัทว่าการปรับระบบครั้งนี้จะทำให้หลายเว็บไซต์ได้รับอันดับที่สูงขึ้นในหน้าผลการค้นหาของกูเกิล สวนทางกับหลายเว็บไซต์ที่จะได้รับอันดับที่ต่ำลง โดยให้ข้อมูลว่าระบบอัลกอริทึมใหม่ของกูเกิลจะให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่เป็นเจ้าของเนื้อหาดั้งเดิม เช่น เว็บไซต์ที่เป็นเจ้าของงานวิจัย รายงาน และการวิเคราะห์อื่นๆ เหล่านี้จะมีอันดับผลการค้นหาที่ดีขึ้น
       
       ล่าสุด ประชาสัมพันธ์กูเกิลระบุว่าได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้ในทางที่ดี โดยเป็นการวัดผลจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งกูเกิลระบุว่ามีทีมงานนอกกูเกิลหลายร้อยรายที่คอยตรวจตราพฤติกรรมผิดสังเกตของผู้ใช้ เช่น การกดปุ่มย้อนหลังหรือ back อย่างเร็วหลังจากได้เห็นหน้าผลการเคลื่อนไหว ซึ่งแปลได้ว่าผู้บริโภคไม่พอใจกับผลการค้นหาที่ได้รับ
       
       อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบจากบางเว็บไซต์ เนื่องจากที่ผ่านมา หลายเว็บไซต์ดิ้นรนปรับแต่งเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อให้ติด 1 ใน 5 อันดับผลการค้นหาของกูเกิล เพราะชาวออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะเชื่อถือลิงก์ที่ปรากฏในอันดับต้นๆของหน้าเสิร์ช ความเป็นตายร้ายดีของเว็บไซต์หลายแห่งเหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับอันดับ ซึ่งมีผลต่อปริมาณการกดลิงก์จากหน้าผลการค้นหาของกูเกิล การลดอันดับในหน้าผลการค้นหาจึงอาจทำให้เว็บไซต์เหล่านี้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะรายได้จากการโฆษณาออนไลน์ที่อาจตกลง
       
       บริษัทวิจัย Sistrix GmbH ในเยอรมนีคือบริษัทล่าสุดที่พยายามศึกษาว่าเว็บไซต์ใดที่มีอันดับการค้นหาที่ดีขึ้นและเว็บไซต์ใดได้รับอันดับการค้นหาที่ลดลง จึงทดลองค้นหาข้อมูลมากกว่า 1 ล้านครั้งโดยใช้คำค้นหาพื้นฐานเช่น "credit" เพื่อค้นหาบริการสินเชื่อการเงิน และ "real estate" เพื่อค้นหาข้อมูลซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ปรากฏว่าเจ้าของเว็บไซต์หลายรายที่ถูกอ้างถึงในผลการศึกษายอมรับว่า การที่เว็บไซต์ของตัวเองถูกปรับลดอันดับนั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
       
       เดนิส กรอสซ์ ประธานบริษัท Conjecture Corp. ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เว็บไซต์ WiseGeek.com ให้ความเห็นว่าการที่บทความใน WiseGeek ถูกลดอันดับในหน้าผลการเสิร์ชของกูเกิล (จาก 2 ไปเป็น 5) นั้นเป็นความไม่ยุติธรรม ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งที่มีเนื้อหาบทความคุณภาพต่ำกว่า โดยบอกว่าแม้บริษัทจะรู้ว่าเว็บไซต์ของตัวเองไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีความมั่นใจว่าเนื้อหาบทความของบริษัทมีคุณภาพ
       
       กรอสซ์ย้ำว่าที่ผ่านมา WiseGeek ชำระค่าจ้างนักเขียนมากกว่า 10 เหรียญต่อบทความ และจะไม่อนุมัติให้เผยแพร่บทความหากบทความนั้นไม่ได้มาตรฐาน โดยขณะนี้ WiseGeek มีบทความมากกว่า 124,000 ชิ้น
       
       เจ้าของเว็บไซต์ WiseGeek.com จึงเรียกร้องให้กูเกิลระบุแนวทางที่ชัดเจน เพื่อให้เว็บไซต์ได้ปรับตัวและเพิ่มคุณภาพเนื้อหา ซึ่ง WiseGeek ก็จะปรับตัวเพื่อให้มีอันดับการค้นหาข้อมูลที่ดีเช่นเดิม เรื่องนี้ประชาสัมพันธ์กูเกิลยืนยันว่า เจ้าของเว็บไซต์สามารถติดต่อเพื่อรับคำชี้แจงจากกูเกิลได้โดยตรงหลายช่องทาง หนึ่งในนั้นคือการติดต่อผ่านเว็บไซต์ webmaster central ของกูเกิล
       
       อีกเว็บไซต์ที่การสำรวจของ Sistrix พบว่าถูกลดอันดับจากอัลกอริทึมใหม่ของกูเกิลคือ TheFind.com เว็บไซต์ให้บริการแนะนำการซื้อสินค้าออนไลน์ และ Associated Content เว็บไซต์ให้บริการข้อเขียนหลากหลายที่ยาฮูเพิ่งประกาศซื้อไปเมื่อปีที่ผ่านมา
       
       สำหรับเว็บไซต์ที่ Sistrix พบว่ามีอันดับการค้นหาที่ดีขึ้นคือเว็บเพจจากเครือข่ายสังคมเช่น LinkedIn.com และ Facebook.com ยังมีเว็บไซต์ข่าวทั้งของสำนักข่าวไทม์ (Time) ฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) และนิวยอร์กเดลีนิวส์ (New York Daily News) รวมถึงเว็บไซต์ร้านค้าปลีกอย่างวอลมาร์ท (Wal-Mart) ทาร์เก็ต (Target) และอีเบย์ (eBay) และเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ของกูเกิลเองอย่างยูทิวบ์ (YouTube) ก็ได้รับการเพิ่มอันดับเช่นกัน
       
       จอห์น แคนทาเรลลา (John Cantarella) ประธานฝ่ายข่าวดิจิตอลของไทม์ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะส่งผลดีต่อบริษัท โดยบริษัทยินดีที่การเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่การอ้างอิงที่มาของรายงานข่าวคุณภาพที่ต้นฉบับ
       
       ยังไม่มีรายงานความเห็นจากประชาสัมพันธ์อีเบย์และผู้บริหารเว็บไซต์ที่มีอันดับการค้นหาข้อมูลที่ดีขึ้นเพิ่มเติม คาดว่าภายในปีนี้จะมีการวิเคราะห์ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของกุเกิลในวงการโฆษณาออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
       
       Company Related Link :
       Google

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)