“อ๊อฟ เอเอฟ6" ยก คดีโดนจับยาไอซ์เป็นบทเรียนและความซวย ยัน จะทำตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

[Nick]

"อ๊อฟ เอเอฟ6" โผล่ออกงาน เคลียร์คดีโดนจับยาไอซ์-ถ่ายคลิปสาวในห้องน้ำ ปิดคดีไปแล้ว ยัน ไม่ได้ทำ พ้อ ห้ามความคิดใครไม่ได้หากจะติดภาพไอ้ขี้ยา ฝากขอโทษแฟนคลับ สัญญาจะทำตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นทั้งบทเรียน และเป็นความซวยของตัวเอง เจ้าตัวลั่น พร้อมกลับมาทำงานแล้ว ปลื้มผู้ใหญ่ยังให้โอกาสประเดิมคอนเสิร์ตใหญ่รับขวัญ บอก เตรียมบวช 25 เม.ย.นี้
       
       เป็นคดีครึกโครมเมื่อเดือนก่อน สำหรับศิลปินนักล่าฝัน "อ๊อฟ ชาญณรงค์ หอมชิต" หรือ "อ๊อฟ เอเอฟ6" ที่ตกเป็นคดีความข้อหามีอุปกรณ์เสพยาไอซ์ไว้ในครอบครอง ซ้ำยังมีสาวร้องทุกข์ถูกหนุ่มอ๊อฟแอบส่องถ่ายคลิปขณะเข้าห้องน้ำ แต่สุดท้ายเมื่อตรวจปัสสาวะแล้วกลับไม่พบสารเสพติด ส่วนกรณีปีนห้องน้ำถ่ายคลิปนั้น เจ้าตัวก็ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นการเข้าใจผิดเพราะอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ตนปวดหนักและห้องน้ำชายเต็ม จึงต้องเข้าห้องน้ำหญิงแทน ทำให้เกิดการเข้าใจผิด
       
       หลังจากเกิดเรื่องราว ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอเจ้าตัวครั้งแรก ที่งานแถลงข่าวคอนเสิร์ต "กรุงศรี เอเอฟ คอเมโชว์ มัส โก ออน” เจ้าตัวก็เลยถือโอกาสเปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เป็นทั้งบทเรียน และเป็นทั้งความซวยของตนเอง
       
       "ตอนนี้ก็เคลียร์หมดทุกอย่างแล้วครับ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องคดีของทางตำรวจมากกว่า ก็เลยไม่ต้องไป ตอนนี้ก็บริสุทธิ์ แล้วก็ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น จริงๆ ผมก็มองว่ามันก็ไม่ควรเลยครับ แล้วก็ถ้ารู้หรือเห็นปุ๊บ โดนจับแน่นอน สมมุติว่ามีของ ผมติดคุกแน่นอน แล้วผมจะไม่ขอพูดว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะคดีความมันได้จบไปแล้ว เอาเป็นว่าต่อไปจากนี้ถ้าเห็นอ๊อฟทำงาน ก็อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ ส่วนผมก็จะตั้งใจทำงานต่อไป แล้วเรื่องสาวคนนั้น ที่ออกมาโวยวายว่าผมไปส่องเขาตั้งแต่นั้นก็ไม่เจอแล้วครับ ก็ถ้ามีโอกาสก็อยากจะขอโทษเขาอีกทีหนึ่งครับผม"
       
       "เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนทำให้เรามีสติ ระวังรอบคอบมากขึ้น ก็เตือนตัวเองตลอดเวลาอย่างที่พ่อกับแม่บอกไว้ เหตุมันเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ สำหรับคนที่เขาอาจจะมองว่าผมเป็นไอ้ขี้ยาไปแล้วนั้น ผมคงห้ามอะไรไม่ได้มันแล้วแต่จะคิด คงห้ามความคิดใครไม่ได้ ทำได้คือจิตใจเราต้องแข็งแกร่ง ต้องไม่อ่อนแอเพราะถ้าเราอ่อนแอพ่อกับแม่จะอ่อนแอไปกับเราด้วย เราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราก็ทำได้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นหนักกว่าเราเยอะ ผมเองก็อยากจะขอโทษแฟนๆ ไว้ ณ ที่นี้เลย ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต่อไปอ๊อฟก็จะพยายามทำให้ดีขึ้นๆ เรื่อยๆ”
       
       "กับเรื่องที่ผมหลุดข้อหาออกมาง่ายดาย จนบางกระแสคิดว่ามีการใช้เส้นอะไรรึเปล่า ผมเองก็อยากจะบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากนะครับ ถ้าผมทำจริงคงไม่มีใครช่วยอะไรผมได้ มันเป็นคดีอาญาที่หนักพอสมควรเลย กับเรื่องตรงนี้ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องผิดพลาดในชีวิตนะ แต่ผมมองว่ามันเป็นบทเรียนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ แต่จะว่ามันเป็นความซวยของผมก็ได้นะ มันมองได้ทุกทางเลย แล้วแต่จะมอง”
       
       “ตัวผมเองไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ทางครอบครัวผมจะเป็นหนัก หลังจากเกิดเรื่องผมก็พาท่านไปพักผ่อนให้ท่านจิตใจสบาย ผมเองก็ไปพักผ่อนกับเขาด้วย ตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมที่จะออกไปเดินเจอผู้คนอย่างไม่รู้สึกอะไรแล้ว จริงๆ มันอาจจะเป็นการคิดไปเองก็ได้ ว่าเขามองเราแปลกไปจากเดิมรึเปล่า ผมก็ทำได้แค่ยิ้มทักทายตอบสายตาเขาไป”
       
       ลั่น ตอนนี้พร้อมทำงานแล้ว ปลื้มผู้ใหญ่ยังให้โอกาสกลับมารับงานประเดิมคอนเสิร์ต
       "เดี๋ยวยังไงคงต้องรอดูอีกทีว่าจะพร้อมกลับมาเริ่มงานเมื่อไหร่ ยังไงก็อยากให้แฟนๆ ลองติดตามดูแล้วกันครับว่าอ๊อฟจะกลับมาในรูปแบบอะไร แต่ยังไงก็คิดว่าน่าจะกลับมาแน่นอน อย่างที่มาวันนี้อย่างแรกที่เปลี่ยนคือตัดผมสั้นแล้ว”
       
       “ตอนนี้ก็มีคอนเสิร์ตคอมเมดี้ แล้วอย่างงานนี้ก็เป็นงานสำคัญ แล้วก็เป็นงานใหญ่ที่อ๊อฟจะได้กลับมา ก็ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสได้มาแสดงร่วมกับเพื่อนๆ ด้วยครับ ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างทำใจให้สบาย พร้อมเมื่อไหร่ก็กลับมา ผู้ใหญ่ก็ใจดีครับ ให้เราไปพัก ไปทำจิตใจให้ดีขึ้น พร้อมกลับมาลุยงาน ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ด้วยครับ ผมว่าถ้ามันเกิดเรื่องแบบนี้แล้วมันก็ต้องทำใจครับ ถ้าเกิดมันจะไม่มีงาน ผมว่าอยู่ที่ผู้ใหญ่จะคุยกันมากกว่า ตัวผมคงต้องยอมรับ”
       
       “หลังจากเสร็จงานนี้ก็คิดว่าจะบวช ก็ดูฤกษ์เอาไว้แล้ว 24 เมษายนที่จะถึงนี้ แต่ว่าต้องดูอีกทีว่าจะมีงานเข้ามาหรือเปล่า แล้วต้องดูการตัดสินใจจากครอบครัวด้วย ด้วย ก็ถ้าไม่ได้บวชวันนั้นก็จะเลื่อนไปเป็นปลายปี ประมาณเดือนพฤศจิกายนครับ ก็ดูว่าไม่ในกรุงเทพก็ต่างจังหวัด ถ้าต่างจังหวัดก็อาจจะที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ครับ”


ที่มา: manager.co.th