ในงานแถลงข่าวเอไอเอส วิชัน 2011 มีการโชว์ส่วนประกอบของ DNA ที่เป็นรากฐานความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เน็ตเวิร์ก และแอปพลิเคชัน
เอไอเอสตอกย้ำกลยุทธ์ Quality DNAs เข้มข้นทุกรูปแบบ ประกาศทุ่ม 1 หมื่นล้านบาท ลงทุนขยายเครือข่าย 3G HSPA ในกทม. และหัวเมืองใหญ่ 1,884 สถานีฐาน พร้อมติดตั้งไวร์เลสบรอดแบนด์ และไว-ไฟปูพรมบริการด้านสื่อสารข้อมูลไตรมาส 2 ปีนี้
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า กลยุทธ์การรุกตลาดโทรคมนาคมของเอไอเอสปีนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ หมายถึงคุณภาพในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่คุณภาพเครือข่ายไปจนถึงคุณภาพการให้บริการ สืบเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนไปจะเห็นได้จากการเติบโตการใช้งานโมบายดาต้าของเอไอเอสในปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 100%
"จริงๆ แล้ว เอไอเอสได้เน้นเรื่องคุณภาพมาหลายปีแล้ว แต่ในปีนี้จะหมายถึงความเข้มข้นของคุณภาพในทุกมิติ ทั้งนี้เป็นผลพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในเครือข่ายมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตของโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊กในเมืองไทยในปีที่แล้วเติบโตเป็นอันดับสองของโลก"
แนวโน้มดังกล่าวดูได้จากการเติบโตในส่วนของเอไอเอส ช่วง 3 ไตรมาส (ปี2553) ยังเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 53.4% ด้วยการเติบโตในภาพรวมถึง 7.5% โดยมีลูกค้าและการใช้งานทางด้านวอยซ์เพิ่มขึ้น 9-10% และ SMS ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งาน โมบายล์ ดาต้าเติบโตกว่า 100% โดยที่มีผู้ใช้มากกว่า 7.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2552
สำหรับปี 2554 คาดว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมน่าจะเติบโตอีกประมาณ 3-5% ซึ่งเชื่อว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือจะยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แม้แต่การใช้งานพื้นฐานด้านเสียง และจะมีความต้องการเพิ่มเติมขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานโมบายล์ อินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก สมาร์ทดีไวซ์ รวมถึงแอปพลิเคชันในทุกๆ ระบบปฏิบัติการ โดยคาดว่าการแข่งขันของโอเปอเรเตอร์จะเป็นไปอย่างรุนแรงในแกนของโทเทิล โซลูชัน ซึ่งถือว่าจะเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าได้เพิ่มเติมขึ้นจากที่ผ่านมา
"เราได้ดำเนินการเพื่อตอบรับเทรนด์การแข่งขันดังกล่าวโดยตลอด จึงทำให้ปี 2554 เรามีความพร้อมในการให้บริการด้วยรูปแบบของโทเทิลโซลูชันอย่างเต็มที่ ภายใต้แนวทางการทำงาน Quality DNAs ซึ่งจะทำให้เอไอเอสยังคงความเป็นผู้นำ"
นายมาร์ค ชอง ชิน ก๊อก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส กล่าวว่า คุณภาพซึ่งถ่ายทอดมาจากองค์ประกอบรากฐานของความเป็นเอไอเอส นับเป็นหัวใจหลักในการส่งมอบบริการจากทุกมิติ ผ่านดีไวซ์ เน็ตเวิร์ก แอปพลิเคชัน รวมถึงคัสตอมเมอร์ เซอร์วิสสู่ผู้ใช้บริการ
โดยเฉพาะในส่วนของเน็ตเวิร์ก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระแสการใช้งานโมบายล์ อินเทอร์เน็ตเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นจึงทำการปรับเปลี่ยนเครือข่ายบนเทคโนโลยี 2G ให้พร้อมรับการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตรวมทั้งนำเทคโนโลยี EDGE Plus เข้ามาพัฒนาเพิ่มเติม
ในปีนี้ เอไอเอสจะใช้งบลงทุนด้านเครือข่าย 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งการขยายพื้นที่การให้บริการ, เพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานของเครือข่าย 2G เดิมที่ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่ให้บริการของ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 900 MHz ที่ให้บริการตั้งแต่ปี 2551จำนวน 133 สถานีฐานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
"คาดว่าจะใช้งบลงทุนขยายเครือข่าย 3G HSPA สำหรับจำนวนสถานีฐาน 1,884 แห่ง ประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมภายในไตรมาสที่สอง บริเวณกรุงเทพฯ ชั้นใน และจังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา หัวหิน ภูเก็ต หาดใหญ่ และเชียงราย หลังจากนั้นในไตรมาสที่ 3 ก็จะทยอยขยายพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ ชั้นนอก นครปฐม และขอนแก่น"
นอกจากนี้ เอไอเอสจะเพิ่มเติมเทคโนโลยีเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบไลฟ์สไตล์การใช้งานในลักษณะของ Fix Wireless เพิ่มเติม ด้วยเทคโนโลยีไวร์เลส บรอดแบนด์ถึงบ้าน ที่จะมีให้ความเร็วสูงสุดถึง 8 เมกะไบต์ต่อวินาที โดยจะพร้อมให้บริการภายในไตรมาส 1 ภายใต้คอนเซ็ปต์ 1 ซิม ทุกเครือข่าย
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด เอไอเอสกล่าวว่าเทคโนโลยีไวร์เลส บรอดแบนด์ จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากนัก ซึ่งจะเริ่มทดลองให้บริการในบางพื้นที่ก่อน หลังจากนั้นถึงจะเปิดให้บริการในเชิงแมส ซึ่งจะเห็นกิจกรรมการตลาดอย่างจริงจังภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
Company Related Link :
AIS
ที่มา: manager.co.th