> กรุงเทพประกันภัย ประเดิมซื้อเป็นรายแรก
เมโทรซิสเต็มส์โชว์ “กรุงเทพประกันภัย” ลูกค้ารายแรกซื้อซอฟต์แวร์ ECM ซอฟต์แวร์จัดเอกสารและระบบการทำงาน หลังเมโทรฯ ได้รับแต่งตั้งจากอีเอ็มซีให้เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ขายซอฟต์แวร์ ECM โดยเมโทรฯ ชูกลยุทธ์ต่อยอดขายสินค้าชนิดใหม่ให้ลูกค้าเดิมเจาะกลุ่มธุรกิจธนาคาร ประกันภัยและไฟแนนซ์
นายยงยุทธ ศรีวันทนีย์กุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังได้รับแต่งตั้งให้ขายซอฟต์แวร์ Enterprise Content Management ( ECM ) จากบริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด ว่าได้รับการว่าจ้างจาก กรุงเทพ ประกันภัย ซื้อระบบบริหารจัดการระบบใหญ่ทั้งระบบ โดยเฟสแรกจะเริ่มวาง ระบบ ECM ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล เนื่องจากต้องการวางระบบเคลมเงินประกันจากลูกค้า เพื่อให้ การบริหารงานมีขั้นตอนการทำงานที่ลดลงและมีความถูกต้องแม่นยำสูงมากขึ้น
โดยระบบ ECM นี้ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับภาวะที่ต้องลดต้นทุนในการประกอบการ ซึ่งหากใช้ซอฟต์แวร์ชุดนี้จะทำให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างเด่นชัด โดยเมโทรฯ พร้อม พิสูจน์ให้แต่ละบริษัทที่สนใจเห็นว่าหากปรับใช้ซอฟต์แวร์ชุดนี้แล้วผลสัมฤทธิ์ในการทำงานจะมีมากขึ้นอย่างไร
เมโทรฯ ถือเป็นเอกชนรายที่ 4 ที่ได้รับแต่งตั้งจากอีเอ็มซีให้ทำหน้าที่ขายซอฟต์แวร์ ECM ที่ก่อนหน้านี้เอกชนที่ได้รับแต่งตั้งประกอบด้วย กลุ่มซีดีจี ฟูจิซีร็อกซ์ และเน็ส แต่ละรายต่างเจาะทำตลาดเฉพาะเจาะจงแตกต่างกันออกไป
นายยงยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าของเมโทรฯเริ่มทำตลาดด้วยการขายพ่วงลุกค้ากลุ่มเดิมที่มีประมาณ 8,000 ราย โดยเริ่มแรก เจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้าใจและรู้จักระบ ECM ที่มีอยู่ประมาณ 5% จากจำนวนลูกค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากเมโทรฯ เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจได้ รวมทั้งจะเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าประกันภัย ธนาคารและไฟแนนช์ เนื่องจากยังมีเม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก
โดยลูกค้าแต่ละรายไม่ใช่องค์กรขนาดใหญ่ เพราะกลุ่มนี้ล้วนเข้าใจและมีแผนในการนำระบบบริหารการทำงานเข้ามาใช้งานแล้ว ดังนั้นเมโทรฯ จึงเน้นเจาะลูกค้าระดับกลางถึงล่าง เช่น กลุ่มธนาคารเลือกเจาะธนาคารยูโอบี ธนาคาร ทิสโก้ และธนาคารธนชาต
ทั้งนี้ เมโทรฯ มองเห็นโอกาสในการขายระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบการทำงานและเอกสาร ซึ่งในอนาคต จะมีความจำเป็นต้องใช้ในองค์กรมาก เพราะซอฟต์แวร์ชุดนี้จะช่วยลดปริมาณการใช้เอกสารจากการพิมพ์ในรูปของกระดาษ ให้กลายเป็นการเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นรูปแบบของการจัดเก็บเอกสารในยุคหน้า
ก่อนหน้านี้ไอดีซีเคยประเมินว่าในปี 2553 เอกสารและข้อมูลข่าวสารในรูปแบบดิจิตอลที่บุคคลสร้าง ไม่ว่าจะเป็น การเขียน การทำสำเนาและจัดเก็บมีมากถึง 70% ของปริมาณเอกสารที่จดทำขึ้นทั่วโลก จะต้องถูกจัดเก็บและบริหารโดยองค์กร ดังนั้น การที่เมโทรฯ เริ่มมองหาตลาดซอฟต์แวร์โซลูชั่นนี้จึงสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ที่มา: siamturakij.com
