นายมนาเทศ อันนวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ซัมซุงมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือของซัมซุงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2552 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงถึง 11% ภายใต้รายได้สูงถึง 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรจากการดำเนินงาน กว่า 8.2 แสนเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ซัมซุงยังสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อ แม้ตลาดโดยรวมจะอยู่ในภาวะผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจ
หัวหน้ากลุ่มสื่อสารการตลาดและองค์กร บ.ไทยซัมซุงฯ กล่าวต่อว่า การเติบโตของกำไรในไตรมาสแรกของปี 2552 ของซัมซุงนั้น เป็นผลจากการที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาสที่ 1 ที่ซัมซุงเน้นทำตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยเจาะทุกกลุ่มครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับกลางจนถึงไฮเอนด์ ทำให้ซัมซุงสามารถเพิ่มราคาขายต่อเครื่องได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจว่า ผู้บริโภคจะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทัชโฟน สมาร์ทโฟน และโทรศัพท์มือถือที่สามารถรองรับระบบเครือข่าย 3G ได้ ขณะเดียวกัน ซัมซุงก็มีความพร้อมในการนำเสนอทัชโฟนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการได้หลากหลายรูปแบบ
นายมนาเทศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประเทศไทย ซัมซุงมีนโยบายที่จะสร้างกระแสใหม่ให้วงการโทรศัพท์มือถือ โดยการเปิดตัว "แมสทีจ ทัชโฟน" (Masstige Touch-phone) ทัชโฟนดีไซน์สวยที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานมัลติมีเดียที่สมบูรณ์แบบ ราคาประมาณ 9 พันบาท "ซัมซุง สตาร์" (Samsung Star) โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน พร้อมลูกเล่น Online Widgets ให้การใช้งานโทรศัพท์เป็นเรื่องสนุกและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับคู่ค้า เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภค คาดว่า กิจกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้ "ซัมซุง สตาร์" ได้รับความนิยมอย่างแน่นอน เนื่องจาก บริษัทฯ เชื่อว่า การพัฒนาด้านการออกแบบ (Design) นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค จะสร้างการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประเภทโทรศัพท์มือถือให้แก่บริษัทฯ ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยให้ซัมซุงสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา: thairath.co.th
