เอ็มเอสไอ เดินเกมรุกตลาดไทยเต็มตัว ล่าสุดเร่งฟอร์มทีมงานท้องถิ่น พร้อมหาพันธมิตรเตรียมตั้งสำนักงานอย่างเป็นทางการ คาดอีก 2-3 เดือนเปิดตัวได้
รายงานข่าวจากวงการพีซีไต้หวัน กล่าวว่า บริษัท ไมโคร-สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (เอ็มเอสไอ) ผู้ผลิตเมนบอร์ด กราฟฟิก การ์ด และพีซีรายใหญ่ของโลกจากไต้หวัน กำลังเตรียมแผนเปิดสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนี้ กำลังเร่งหาทีมงานท้องถิ่น และพาร์ตเนอร์ ช่วยขยายตลาดในประเทศ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้
รายงานข่าว ยังระบุด้วยว่า การตัดสินใจเปิดสำนักงานในไทยครั้งนี้ถือเป็นการบุกตลาดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว จากก่อนหน้านี้ บริษัทเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดแถบยุโรป เกาหลี และจีน ซึ่งการขยายตลาดครั้งนี้ ไทยจะเป็น 1 ใน 2 ประเทศแรกของเอ็มเอสไอในพื้นที่นี้ร่วมกับมาเลเซีย เนื่องจากความต้องการในตลาดค่อนข้างสูง และก่อนหน้านี้บริษัททำตลาดผ่านพันธมิตรในประเทศ แต่ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม ช่วงเริ่มต้นบริษัทคาดว่าจะใช้ทีมงานไม่เกิน 5-6 คน โดยมีผู้บริหารจากไต้หวันร่วมด้วย ซึ่งจะทำตลาดผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มรวมกว่า 40 รุ่น ทั้งมาเธอร์บอร์ด วีจีเอ การ์ด ออลอินวัน พีซี และโน้ตบุ๊ค โดยบริษัทจะตั้งราคาขายเทียบเท่ากับตลาดทุกประเทศ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ค ที่จะทำราคาตั้งแต่ 1.5 - 4 หมื่นบาท ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะส่งตรงจากโรงงานของบริษัทในจีน
“เห็นด้วยว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ธุรกิจเริ่มโตช้าลง แต่ก็เชื่อมั่นว่า ด้วยตัวสินค้าที่แข็งแกร่ง และมีของใหม่ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์ในตลาด เช่น พีซี ไฮบริด ซึ่งใช้หน่วยความจำทั้งแบบเอสเอสดี (SSD) และฮาร์ดดิสก์ (HDD) ในเครื่องเดียว รวมทั้งความโดดเด่นในตลาดโลกจะทำให้เอ็มเอสไอสามารถขยายตัวในตลาดใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง” รายงานข่าว ระบุ
อัสซุสเทคไม่หวั่น
ขณะที่นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค (คอมพิวเตอร์) ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาของเอ็มเอสไอในไทยไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากบริษัทนี้ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายบางรายในประเทศแล้ว แต่อาจปรับเปลี่ยนบ่อย
นอกจากนี้ตลาดมาเธอร์บอร์ดของอัสซุสก็ถือว่าแข็งแกร่งมากในตลาดโลก กล่าวได้ว่าตลาดมาเธอร์บอร์ดของเอ็มเอสไอ รวมกับแบรนด์กิกะไบต์จึงจะเท่ากับตลาดของอัสซุส
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้บริษัทคงยังไม่มีแผนการตั้งรับใดๆ เนื่องจากเชื่อว่า ทั้งบริษัทและคู่แข่งต่างก็มีวางตำแหน่งแบรนด์คนละทาง คือ อัสซุสเน้นสินค้าคุณภาพสูง และราคาพรีเมียมกว่า ส่วนเอ็มเอสไอยังมีบทบาทไม่ชัดเจนนัก โดยเฉพาะกลุ่มโน้ตบุ๊ค และเน็ตบุ๊ค
"มี Player ใหม่ๆ เข้ามาก็ช่วยเพิ่มสีสันให้ตลาดดี ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งแม้สินค้าจะใกล้เคียงกันแต่เราก็ชัดเจนว่า เน้นพรีเมียมกว่า และเชื่อว่า ในทางตรงข้ามน่าจะส่งผลดีกับเรามากขึ้น เพราะคนซื้อก็จะสามารถเปรียบเทียบกันได้ชัดเจนขึ้น" นายพรเทพ กล่าว
นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสวีโอเอ กล่าวว่า กระแสข่าวการตั้งสำนักงานของเอ็มเอสไอในไทย ส่งผลกระทบต่อบริษัทแน่นอน เนื่องจากจัดว่าเป็นคู่แข่งในฐานะผู้ร่วมทำธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน ซึ่งบริษัทคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ตลาดปีนี้คาดว่าจะแข่งขันกันรุนแรง เพื่อชิงฐานลูกค้ากันระหว่างเวนเดอร์มากกว่าทุกปี
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เอสวีโอเอ ได้เริ่มปรับทิศทางการทำตลาด โดยสร้างฐานลูกค้าใหม่กลุ่มเธิร์ด เทียร์ ครอบคลุมพื้นที่ที่ไอทียังเข้าไม่ถึง เช่น ระดับอำเภอ และตำบล ในเมืองเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำตลาดแข่งขันกับพีซีกลุ่มอินเตอร์แบรนด์
ที่มา: bangkokbiznews.com
