“เมย์” เผยกลัวผีมาก จะไหว้ขอขมาทุกครั้งก่อนเข้าฉากถ่ายหนัง "ศพเด็ก 2002 ศพ" เปรย "พจน์ อานนท์" ผู้กำกับชอบเอาภาพถ่ายติดวิญญาณมาให้ดู แต่ตนพยายามไม่ดู รับมีจิตตกขณะแสดงอยากถอนตัว แต่ด้วยสปิริตรับงานมาแล้วต้องทำให้ดีที่สุด
ถึงขั้นผวาไปตามๆ กัน สำหรับกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “ศพเด็ก 2002 ศพ” ที่สร้างอิงจากเรื่องจริง ที่เป็นข่าวฮือฮากรณีพบศพเด็กทารก 2002 ศพที่คลินิกทำแท้งนำไปทิ้งไว้ที่วัดไผ่เงิน และเมื่อผู้กำกับ "พจน์ อานนท์" ทำเรื่องดังกล่าว ทำให้นักแสดงและทีมงานเจอวิญญาณเด็กตามหลอนถึงกองถ่าย จนทั้งหมดต้องวิ่งโร่ไปทำบุญกันยกใหญ่ เมื่อสอบถาม 1 ในนักแสดงของเรื่องอย่างสาว “เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร” ถึงเรื่องขนพองสยองเกล้าว่า เจอเหตุการณ์อะไรบ้าง เจ้าตัวเผยไม่พยายามดูภาพที่ผู้กำกับถ่ายติดวิญญาณมา เพราะเป็นคนกลัวผีมาก หวั่นทำให้แสดงไม่ได้
“เวลาที่เมย์เล่นหนังผี เมย์จะไม่ค่อยพยายามดูว่าเราจะเจอกับอะไรหรือเปล่า แต่กับพี่พจน์เขาจะเป็นไง ฉะนั้นเมย์เลยไม่รู้ว่าเจอจริงไหม เจออะไรบ้างตรงนี้เมย์ไม่รู้ แต่จากที่กองถ่ายเจอกัน คือ เขาไปถ่ายติดตรงโน้นตรงนี้ แล้วพี่พจน์จะตื่นเต้นเรียกเมย์ให้เข้าไปดูด้วย เมย์ก็จะเป็นว่า...ถ้าพี่จะให้หนูเล่นหนังเรื่องนี้ พี่อย่ามาบิ้วหนู ฉะนั้นตรงนี้เมย์ไม่ขอรับรู้ด้วย แต่รูปในกองที่เขาถ่ายมาได้กัน ตรงนั้นเมย์เห็นแล้ว”
“ก่อนที่เมย์จะเข้าแต่ละฉาก เมย์ก็จะยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง ต้องบอกก่อนว่าเมย์เล่นหนังผีมาหลายเรื่องก็จริง แต่ตัวเมย์เป็นคนกลัวผี ก่อนรับเล่นเรื่องนี้เมย์เองก็ค่อนข้างที่จะศึกษา แค่ชื่อเรื่องเองมันก็น่ากลัวอยู่แล้ว เมย์เลยไม่อยากไปตอกย้ำความสะเทือนใจเรื่องอย่างนี้ เพราะกรณีนี้มันค่อนข้างที่จะเป็นสิ่งที่สะเทือนใจคนไทย แต่พออ่านบทหนังเรื่องนี้แล้วเมย์เองก็รู้สึกว่า มันไม่ค่อยได้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาก เป็นแค่ชื่อเรื่องแล้วเขาเองก็ต้องการสะท้อน ก็เลยตัดสินใจรับเพราะบทก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เวลาถ่ายทำถามว่ากลัวไหม กลัวมาก (เสียงสูง) แล้วก็ไหว้ทุกครั้ง สำหรับพี่พจน์อาจจะไหว้เรียกนะ แต่ส่วนของเมย์นั้นไหว้ขอโทษเขาทุกครั้งเลย ไม่ว่าจะเล่นฉากไหน เมย์จะไหว้ขอขมาตลอด”
รับมีจิตตกขณะแสดง เคยคิดถอนตัวแต่ไม่ทำ เพราะรับงานมาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“เมย์ก็จะอธิษฐานในใจบอกเขาว่าขอโทษนะ เดี๋ยวเมย์จะเล่นอย่างนี้ๆๆ นะ มันคือการแสดงนะคะ เพราะหนังผีถ่ายตอนกลางคืนตลอดเลยค่ะ บางทีต้องเล่นฉากผีเข้าตอนตี 3 ครึ่ง ในขณะที่ผู้กำกับก็นั่งถ่ายแต่บีบีซูมเข้ามันอยู่นั่นแหละ (หัวเราะ) เขาดูตลอดจนเดี๋ยวนี้เมย์แทบไม่ค่อยจะอยากคุยกับพี่พจน์แล้ว เพราะเมย์รู้สึกว่าเดี๋ยวเมย์จะกลัวไปด้วย ยอมรับว่าพอเห็นภาพแล้วเมย์เองก็รู้สึกจิตตกไปบ้างในบางครั้ง แต่เวลาที่จิตตกก็จะพยายามโทรหาผู้จัดการ หรือโทรหาคนที่ให้กำลังใจเรา เพราะเราไม่ได้อยากจะมาลบหลู่อะไรตรงนี้ เรามาเล่นหนัง ซึ่งหนังทุกเรื่องมันก็จะมีส่วนของเรื่องจริงอยู่บ้าง แต่เราไม่มีเจตนาที่จะมาเกาะกระแสหรือมาลบหลู่อะไร ฉะนั้นคนอื่นจะเป็นยังไงเมย์ไม่รู้ แต่เมย์จะยกมือไหว้ขอโทษเขาตลอดทุกครั้ง”
“มีกลัวถึงขั้นถอนตัวไหม คือถึงจะมีอารมณ์นั้นก็คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เราอยู่วงการนี้มานาน10 กว่าปีแล้ว เรารับงานแต่ละครั้ง เมื่อเรารับไปแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด จะมาถอนตัวเพราะเรื่องแค่นี้มันก็ไม่ใช่ ถึงแม้เราจะกลัวแค่ไหน ก็ต้องทำมันให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังถ่ายทำไปแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เอง”
ที่มา: manager.co.th