กับหนุ่ม "กฤษณ์" หวานใจตัวคั่นเวลา
“หญิงแม้น” รับคบ “กฤษณ์” หนุ่มรุ่นน้องเป็นแค่ตัวคั่นเวลาก่อนกลับเรียนนอก ยังไม่ใช่แฟน ไม่เถียงฝ่ายชายน่ารัก เทคแคร์ดี และเป็นสุภาพบุรุษจนใจอ่อน แต่หวั่นรักแท้แพ้ระยะทางเหมือนตอนเลิก “พายุ” เลยขอโฟกัสเรื่องเรียนก่อน
หลังจากสลัดรักนักร้องหนุ่ม “พายุ คลาร์ค” ไปเรียบร้อย ตอนนี้ดูเหมือนเซเลบสาวไฮโซ “หญิงแม้น ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล” จะปล่อยตัวใช้ชีวิตสาวโสดเต็มที่ แถมฮอตไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ที่เพิ่งกลับมาจากไปเรียนต่อที่อเมริกาใหม่ๆ ก็ควงหนุ่มนักเรียนนอกที่ชื่อ “ชัย” ออกงานอวดโฉมไปทีนึงแล้ว แต่หลังๆ มานี้กลับกลายเป็นหนุ่มหน้าละอ่อนคนใหม่ที่คอยตามประกบไม่ห่าง
โดย “หญิงแม้น” ก็ยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำว่า หนุ่มคนนี้เป็นรุ่นน้องที่อายุอ่อนกว่า ชื่อว่า “กฤษณ์” ซึ่งถือว่าเป็นคนรู้ใจที่สุดในตอนนี้ แต่ยังไม่เลื่อนสถานะให้เป็นแฟน เพราะตนกำลังจะกลับไปเรียนต่อแล้ว คงทำให้สานสัมพันธ์กันได้ยาก
“หนุ่มที่เห็นมาด้วยกันก็เป็นคนพิเศษชื่อ น้องกฤษณ์ ค่ะ แต่ก็ยังไม่ใช่แฟน แค่คุยๆ อยู่ คืออยู่ด้วยแล้วมีความสุขดี แต่อย่างที่บอกไปว่ายังไม่พร้อมที่จะมีแฟน ก็คงยังไม่เริ่มที่จะเป็นแฟนกับใคร เพิ่งรู้จักกันได้เดือนกว่าๆ เอง แต่เขาก็นิสัยดีค่ะ น่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ก็ค่อนข้างแฮปปี้นะคะ หนูอยู่ด้วยแล้วสบายใจแล้วก็โอเคที่จะเปิดเผย เขาเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ อย่างเราไปทำงานที่ไหนเขาก็ตามไปอยู่เป็นเพื่อนเราตลอด แต่จริงๆ หนูอยู่เมืองไทยอีกประมาณอาทิตย์เดียวก็จะกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ ก็คงต้องแยกกัน ซึ่งถ้ากลับไปก็คงไม่ได้พัฒนาอะไร เหมือนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักได้เจอกัน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีๆ ของชีวิตที่ได้เจอคนที่ดีคนนึงค่ะ”
“ที่ไม่สานต่อเพราะว่าด้วยความรักและระยะทางมันคงไม่เวิร์ค ถ้าหนูต้องไปเรียนถึงอเมริกา แล้วเขายังอยู่ที่นี่คงจะไปด้วยกันได้ยาก ต้นเดือนธันวาคมนี้หนูจะกลับไปเรียนแล้ว ส่วนเขาก็เรียนอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้เขาก็เป็นเพื่อนคนพิเศษ ถ้าเขาตามจีบหนูเรื่อยๆ เหรอ หนูว่าระยะทางคงเป็นอุปสรรคค่ะ แต่ตอนนี้หนูก็คุยกับเขาคนเดียว ก็ถือว่ายังโสดนะ แต่ก็ยอมรับว่าคนนี้เขาก็น่ารัก เป็นคนพิเศษ แต่ว่าไม่ใช่แฟน”
“น้องเขาเพิ่ง 18 ค่ะ แต่ทางบ้านเขาก็รับรู้ว่าคุยๆ กันอยู่ ไม่ได้รีบร้อน น้องเขาก็เด็ก หนูก็เด็ก แต่ก็เหมือนกับหนูได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขาในหลายๆ เรื่อง คือเขาก็ดูแลเทคแคร์เราดีด้วย เพราะหนูเป็นคนที่ใจอ่อนเวลาผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษมากๆ มาคอยดูแล เปิดประตูให้ ถือกระเป๋าให้ มานั่งรอ ไปรับไปส่งอะไรแบบนี้หนูก็ชอบ ยอมรับว่าใจอ่อน”
ยอมรับคบเพื่อคั่นเวลาจริงๆ ส่วน “พายุ” คงยังไม่รู้เรื่องระหว่างตนกับ “กฤษณ์” และคงไม่บอกถือเป็นเรื่องส่วนตัว
“คบไว้เป็นตัวคั่นเวลาเหรอ โห สงสารเขา แต่คั่นไหมก็อาจจะคั่นก็ได้(หัวเราะ) เพราะหนูก็กลับมาเหมือนเป็นช่วงปิดเทอมสั้นๆ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นตัวสำรองของใคร เพราะหนูกลับมาแป๊บเดียวก็เลยยังไม่อยากได้ความสัมพันธ์ระยะยาว ยังไม่อยากมีแฟน เพราะว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องเรียน ยิ่งเรียนเมืองนอกด้วย ระยะทางมันก็ทำให้เรามีปัญหากันได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังไม่มีแฟนแน่นอน”
“ไม่ได้เข็ดเรื่องความรักค่ะ มีความรู้สึกดีๆ ก็คุยกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่ได้ขวนขวาย ตอนนี้อยากรีบเรียนให้จบมากกว่า เรื่องความรักไว้เป็นเรื่องรอง คงเพราะตอนนี้หนูโตขึ้น อย่างเมื่อก่อนเด็กๆ คำว่าแฟนมันใช้ง่าย คุยกันแป๊บเดียวก็เป็นแฟนแล้ว แต่เดี๋ยวนี้โตขึ้นก็เป็นเพื่อนกันไปก่อนดีกว่า เพราะพอมีข่าวออกไปอย่างนี้คนก็จะคิดไปไกล แต่จริงๆ ไม่มีอะไร เรายังมีระยะห่างความเป็นเพื่อน อย่างหนูก็มีเพื่อนผู้หญิงหลายคน เพื่อนผู้ชายหลายคน ก็คงไม่ได้เรียกว่าเลือกมากขึ้นหรอกค่ะ เรียกว่าใช้เวลากับตัวเองมากขึ้นมากกว่า เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เพราะว่ารีบคบกันก็รีบเลิกกัน”
“กับพายุก็ยังได้คุยกันบ้างค่ะ แต่เรื่องพวกนี้หนูไม่ค่อยได้เล่าให้ฟังเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องทั่วไปมากกว่า อย่างพายุเขาก็จะถามว่าจะกลับอเมริกาเมื่อไหร่ ถ้ากลับมาอีกทีก็คงเป็นช่วงปีหน้าไม่รู้จะเมื่อไหร่ และที่เลิกกับพายุก็เพราะระยะทางนี่แหละ เพราะเราอยู่กันคนละเมือง ตัวหนูเป็นคนที่แบบรักแท้แพ้ใกล้ชิด หนูเป็นคนที่หวั่นไหว ถ้าอะไรที่อยู่ใกล้ๆ ตัวมันดีกว่า ก็คงไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้น แต่เราเลิกกันด้วยดีนะคะ ถอยกันคนละก้าว แต่เขาคงไม่รู้มั้งว่าหนูมาคุยกับน้องกฤษณ์ เพราะไม่ได้เล่าอะไรให้เขาฟังมาก อีกอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัว หนูว่าพายุเองก็คงไม่อยากรู้ ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องทั่วไปมากกว่า”
“ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้คุยกับพายุอีกเลยค่ะ เพราะเขาไม่ได้กลับมาด้วย แต่ถึงกลับไปก็อยู่กันคนละเมือง ไกลกันยิ่งกว่ากรุงเทพฯ-เชียงใหม่อีก แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากเจอค่ะ เพราะว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่เขาติดตามข่าวหรือเปล่า ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเขาไม่ค่อยได้อ่านข่าวบันเทิงเท่าไหร่ แต่ถ้าจะทราบก็คงจะเป็นเพื่อนๆ ไปถามเขามากกว่า หนูว่าก็คงมีเล่าให้เขาฟังบ้าง แต่ถ้าเขาถามหนูก็คงต้องบอกตามความเป็นจริง เพราะหนูก็ไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว ไม่กลัวนะคะว่าจะมองหน้ากันไม่ติด เพราะหนูเชื่อว่าความจริงใจเป็นสิ่งไม่ตาย หมายถึงว่าหนูจริงใจกับเขา มีอะไรหนูก็พูดกับเขาตรงๆ ถึงเขาจะโกรธแต่ว่าวันนึงเขาก็ต้องหาย หนูก็รอเพราะยังอยากเป็นเพื่อนกับเขาอีก”
ที่มา: manager.co.th