ผู้กำกับชาวสหรัฐฯ "เออร์วิน เกิร์ชเนอร์" สิ้นลมแล้วในวัย 87 ปี ผู้กำกับรุ่นใหญ่อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงระดับตำนานเหมือนคนทำหนังอีกหลาย ๆ คน แต่อย่างน้อยเขายังได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับหนัง Star Wars ตอนที่ดีที่สุดที่ชื่อว่า 'The Empire Strikes Back'
เอเอฟพีรายงาน ข่าวการสูญเสียครั้งล่าสุดของวงการภาพยนตร์เมื่อ เออร์วิน เกิร์ชเนอร์ ผู้กำกับชื่อดังได้เสียชีวิตลงในวัย 87 ปี เอเดรียน่า ซานตินี ลูกสาวของเขากล่าวว่าพ่อต้องเผชิญกับอาการป่วยมาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก่อนสิ้นลมลงเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่บ้านใน ลอสแอนเจลิส
ตลอดการทำงานกว่า 40 ปี เกิร์ชเนอร์ มีผลงานการกำกับภาพยนตร์เพียง 15 เรื่อง หนังที่พอจะเป็นที่รู้จักอยู่บ้างก็คือ Never Say Never Again หนังสายลับ เจมส์ บอนด์ ที่ไม่ได้มี EON Productions ต้นตำรับเป็นผู้สร้าง รวมถึงภาคต่อของหนังไซไฟ RoboCop 2 นอกจากนั้นยังเคยฝากฝีมือการแสดงไว้ในภาพยนตร์เรื่อง The Last Temptation of Christ ของ มาร์ติน สกอร์เซซี
แต่ภาพยนตร์ที่ทำให้ชื่อของเขาได้รับการจดจำมากที่สุดก็คือ Star Wars: The Empire Strikes Back ตอนที่ 2 ของหนังสงครามอวกาศสุดดัง ซึ่งหลายฝ่ายยกย่องให้เป็นตอนที่ดีที่สุดในหนังชุดนี้ เป็น Star Wars ที่เต็มไปด้วยความเครียด ฮัน โซโล ถูกแช่แข็งในคาร์บอนไนต์ ขณะที่ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ก็ได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้ว ดาร์ธ เวเดอร์ คือพ่อของเขา
เกิร์ชเนอร์ เกิดที่ ฟิลาเดลเฟีย เพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 1923 โดยเติบโต และได้รับการศึกษามาโดยมีพื้นฐานทางศิลปะหลากหลายแขนง เริ่มต้นเรียน ไวโอลิน และวิโอล่า ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่มาจึงเข้าศึกษาต่อในสาขาศิลปะ ที่มหาวิทยาลัยเทมเพิล ใน เพนซิลเวเนีย, ย้ายไปอยู่นิวยอร์กและได้เรียนเขียนภาพกับศิลปินชื่อดัง ฮานส์ ฮอฟมันน์ และเข้าเรียนการถ่ายภาพที่ วิทยาลัยศิลปะและการออกแบบ ที่ลอสแอนเจลิส
เกิร์ชเนอร์ มีผลงานภาพยนตร์ และสารคดีมากมาย เคยเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายทำหนังสารคดีให้กับรัฐบาล นอกจากนั้นเขายังเข้าเป็นอาจารย์ในสาขาภาพยนตร์ และถ่ายภาพที่มหาวิทยาลัย เซาท์เธิร์น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งลูกศิษย์คนหนึ่งที่เขาได้พบที่นั่นก็คือ จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้าง ชื่อดังนั่นเอง เกิร์ชเนอร์ พูดถึงลูกศิษย์คนนี้ว่า "ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็เห็นแววแล้วว่าเขาเป็นนักเรียนที่ดูพิเศษ เป็นคนมีวิสัยทัศน์"
ต่อมาเมื่อ ลูคัส ได้สร้างตำนาน Star Wars ขึ้นในปี 1977 จนได้สร้างหนังภาคต่อ จึงได้ตัดสินใจติดต่อให้ เกิร์ชเนอร์ มารับหน้าที่กุมบังเหียนงานเบื้องหลังในหนังภาคสอง "มีผู้กำกับหนุ่ม ๆ ไฟแรงมากมายทำไมถึงเลือกผม?" เกิร์ชเนอร์ ถามหลังได้รับการทาบทามซึ่ง ลูคัส ตอบกลับไปว่า "เพราะคุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้กำกับหนังฮอลลีวูด แต่คุณไม่ใช่คนของฮอลลีวูด" ซึ่งต่อมา ลูคัส เพิ่มเติมว่า อาจารย์ของเขาคนนี้น่าจะสร้างภาพยนตร์ที่ให้ความสำคัญกับตัวละคร และเรื่องราว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหนังเรื่องหนึ่ง ๆ มากกว่าจะสนใจเพียงเทคนิคพิเศษ และความหวือหวา
Empire Strikes Back ได้กลายเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งวงการภาพยนตร์มามากว่า 30 ปีแล้ว เออร์วิน เกิร์ชเนอร์ พูดถึงผลงานชิ้นนี้ของตนเองในการให้สัมภาษณ์กับ Variety เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า "ผมคิดว่าในตอนนั้นนักวิจารณ์อยากได้แค่หนัง Star Wars เรื่องใหม่ แต่ผมกลับคิดว่าหนังภาค 2 มีศักยภาพมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่การเดินซ้ำรอยเดิม ผมจึงตอบรับงานครั้งนั้น ผมรู้ว่าหนังจะต้องดำมืดมากกว่าเดิม ลึกซึ้งมากกว่าหนังภาคแรก ต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียว กว่านักวิจารณ์พวกนั้นจะเข้าใจในหนัง และมองว่ามันมีอะไรมากกว่าเป็นหนังที่มีเรื่องราวเหมือนกับการ์ตูนอย่างที่พวกเขาคิด"
ในตอนนั้น เกิร์ชเนอร์ ยังตอบปฏิเสธข้อเสนองานกำกับ Star Wars: Return of the Jedi เพราะรู้สึกว่าตนเองเพียงพอแล้วกับหนังชุดนี้ "หลังจากทำงานมา 2 ปี 9 เดือนกับ Empire มันพรากเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตผมไป ผมรู้สึกว่าประสบการณ์กับหนังชุดนี้ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว และอยากจะก้าวต่อไปข้างหน้าเสียที"
ในการให้สัมภาษณ์กับ Variety เกิร์ชเนอร์ ยังพูดถึง จอร์จ ลูคัส อดีตลูกศิษย์ และเจ้านายของเขาว่า "จอร์จ เป็นผู้อำนวยการสร้างที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำงานด้วยครับ"
ที่มา: manager.co.th