นายแบบหนุ่มคนดัง "หรวนจิงเทียน" ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับอาชีพนักแสดง ด้วยการคว้ารางวัลม้าทองคำสาขานักแสดงนำชาย จากภาพยนตร์เรื่อง Monga ได้สำเร็จ, ขณะเดียวกันหนังสะท้อนภาพชีวิตครอบครัวชาวไต้หวัน When Love Comes กลายเป็นผู้คว้ารางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
งานแจกรางวัลทางภาพยนตร์ที่ถูกยกย่องให้เป็น 'ออสการ์' สำหรับหนังภาษาจีน ม้าทองคำ ครั้งที่ 47 ได้จัดขึ้นในกรุงไทเปเมื่อค่ำคืนของวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นงานที่รวบรวมคนบันเทิงจากทั้ง ไต้หวัน, ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ มาร่วมลุ้นรางวัล ซึ่งสุดท้ายเป็นประเทศเจ้าภาพอย่างไต้หวันที่คว้ารางวัลสำคัญ ๆ ไปมากที่สุด
When Love Comes ผลงานของผู้กำกับ ฉางเส้าจือ ซึ่งเล่าเรื่องของครอบครัวชาวไต้หวัน กลายเป็นงานที่คว้ารางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง รวมถึงรางวัลในสาขากำกับศิลป์, ถ่ายภาพ และขวัญใจมหาชนด้วย
หนังความยาว 107 นาทีเล่าเรื่องของครอบครัว ที่ผู้เป็นบิดาเป็นเขยแต่งเข้าบ้านของฝ่ายหญิง แต่เมื่อภรรยาไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ เขาจึงได้รับอนุญาตให้มีหญิงอีกคน เรื่องราวของหนังมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ลูกสาวของบ้าน ผู้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหานานัปการในชีวิต ทั้งจากความวุ่นวายในครอบครัว และปัญหาเฉพาะหน้ากับการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็นแม่คนได้หรือไม่
นักแสดงหนุ่มคนดังแห่งปีของไต้หวัน อีธาน หรวนจิงเทียน พิสูจน์อีกครั้งว่า 2010 คือปีของเขาอย่างแท้จริง หลังจากขโมยหัวใจสาว ๆ ทั้งเกาะไต้หวัน, มีผลงานโดดเด่นทั้งในวงการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ล่าสุดเขาสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชาย ในรางวัลใหญ่ที่สุดอย่าง ม้าทองคำ จากหนังเรื่องแรกของตัวเอง Monga
สำหรับ Monga หนังนักเลงวัยรุ่นตัวแทนชิงรางวัลออสการ์ของไต้หวันประจำปีนี้ ยังคว้ารางวัลเทคนิคพิเศษทางเสียงไปอีกสาขา แต่หนังไม่ได้เข้าชิงในสาขาใหญ่ ๆ อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หรือแม้กระทั่งผู้กำกับยอดเยี่ยมแต่อย่างใด โดยภาพรวมของม้าทองคำในปีนี้ คณะกรรมการยังคงให้ความสำคัญไปที่งานเล็ก ๆ ที่เล่าเรื่องชีวิตของคนธรรมดา มากกว่างานฟอร์มยักษ์แฟนตาซีตามสมัยนิยม
หนังเล็ก ๆ ที่ฮิตระเบิดในไต้หวันอีกเรื่อง Seven Days in Heaven ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อกับลูก โดยเฉพาะในมุมมองเกี่ยวกับความตายแบบวัฒนธรรมไต้หวัน คว้ารางวัลในสาขานักแสดงสมทบชาย ไปครอง
สำหรับสาขาสารคดี รางวัลตกเป็นของหนังความยาว 82 นาที Hip Hop Storm ที่ถ่ายทอดชีวิตของนักเต้นสองรุ่น ซึ่งต้องต่อสู้เพื่อความฝันแม้จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ขณะที่ผู้กำกับไฟแรง เหอวี่ติง รับรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่แห่งปีจากหนังตลก Pinoy Sunday ที่หยิบประเด็นแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโดดเดี่ยวทางอารมณ์ ของเหล่าแรงงานเข้าเมืองในไต้หวันมาเล่าด้วยลีลาขบขัน
ดาราสาวชื่อดัง เหาเล่ย คือผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่อีกคนในงานวันนั้น โดยการคว้ารางวัลสมทบหญิง ในหนังที่เธอเองเป็นผู้สร้างเอง นอกจากนั้นยังส่งให้ จงหมงหง คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครองจากผลงาน Fourth Portrait ที่เล่าเรื่องของเด็กชาย ผู้ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวภายหลังบิดาเสียชีวิต ซึ่งการปรากฏตัวของแม่ผู้ห่างเหินไปนาน กลับทำให้ทุกอย่างย่ำแย่ลง ภายใต้การใช้ชีวิตกับแม่ผู้แทบไม่มีความรักให้, พ่อเลี้ยงใจยักษ์ และบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา เด็กน้อยพบว่าการวาดภาพเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเขา
นักแสดงสาว ลู่หลี่ปิง เอาชนะคู่แข่งแข็ง ๆ คนอื่นคว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนัง City Monkey ขณะที่ฝ่ายนักแสดงสาวหน้าใหม่ หลี่เชี่ยนนา ผู้โด่งดังมาจากแวดวงโทรทัศน์กับรายการประเภทค้นฟ้าคว้าดาว ก็แจ้งเกิดในวงการหนังได้สำเร็จด้วยรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากบทนางโชว์ใน Juliet
สำหรับหนังฟอร์มใหญ่ทุนสร้างสูงจากฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ดูจะไม่ค่อยได้รับความสนใจในเวทีมอบรางวัลครั้งนี้นัก มีเพียง Ip Man 2, Detective Dee และ Bodyguards and Assassins ที่คว้ารางวัลในด้านเทคนิค มาเรื่องละหนึ่งรางวัลเท่านั้นที่พอจะมีบทบาทในการแจกรางวัลอยู่บ้าง
นอกจากนั้นในงานครั้งนี้ยังมีการมอบรางวัลเกียรติยศให้กับ ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างรุ่นใหญ่ สวีลี่กง ซึ่งได้ผู้กำกับยอดฝีมืออย่าง อังลี และไช่หมิงเหลียง มาทำหน้าที่ประกาศชื่อและมอบรางวัลในครั้งนี้ ... "สำหรับพวกเราเขาไม่ใช่เพียงเจ้านาย แต่ยังเป็นครู, เพื่อนที่ดีที่สุด และเป็นแฟนหนังที่ทุ่มเททุกอย่าง" อังลี กล่าวสดุดีผู้ผู้อำนวยการสร้าง ที่ช่วยเหลือในการสร้างงานอย่าง Eat Drink Man Woman, The Wedding Banquet และ Crouching Tiger, Hidden Dragon ให้กับเขา
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: When Love Comes
ผู้กำกับยอดเยี่ยม: จงหมงหง (The Fourth Portrait)
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: หรวนจิงเทียน (Monga)
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: ลู่หลี่ปิง (City Monkey)
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: หวูเผิงฟน (Seven Days in Heaven)
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: เหาเล่ย (The Fourth Portrait)
ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม: เหอวี่ติง (Pinoy Sunday)
นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม: หลี่เชี่ยนนา (Juliets)
บทดั้งเดิมยอดเยี่ยม: หลิวเจีย, เกาซาน (Judge)
บทดัดแปลงยอดเยี่ยม: ฉุนเหวินซู, หลิวเจีย (Deep in the Clouds)
เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม: เซียงอวี้หนาน (Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame)
กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม: เฝิงเวยหมิน (When Love Comes)
แต่งหน้า และออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม: ดอร่า อู๋ (Bodyguards and Assassins)
กำกับคิวบู๊ยอดเยี่ยม: หงจินเป่า (Ip Man 2)
ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม: เพย์แมน ยาซดาเนี่ยน (Spring Fever)
ตัดต่อยอดเยี่ยม: ฟรอเรนซ์ แบซซัน, โรบิน เวิง, เจิ้งเจี้ยน (Spring Fever)
เทคนิคพิเศษทางเสียงยอดเยี่ยม: ตู้ดูจื่อ (Monga)
ถ่ายภาพยอดเยี่ยม: ฉางเฉิน (When Love Comes)
หนังสารคดียอดเยี่ยม: Hip Hop Storm
หนังสั้นยอดเยี่ยม: Magabahai
อนิเมชั่นยอดเยี่ยม: ไม่มีผู้ได้รับรางวัล
ขวัญใจคนดู: When Love Comes
รางวัลนักวิจารณ์นานาชาติ FIPRESCI: The Fourth Portrait
หนังโดดเด่นแห่งปี: The Fourth Portrait
คนทำหนังแห่งปี: หลีลี่ (Monga)
รางวัลความสำเร็จตลอดชีวิตการทำงาน: สวีลี่กง
รางวัลพิเศษสำหรับผู้อุทิศตัวแก่วงการ: ซุนเยี่ย
ที่มา: manager.co.th