"แคนดี้" เสียว! เล่นอีโรติกให้ “นิกกี้พริ้ม” จับจริง เมินเสียงด่าเอาตัวแลกเงิน

[Nick]

"แคนดี้" คอนเฟิร์ม เล่นจริงโนสแตนด์อินในหนังอีโรติกใหม่ของ “ทรนง” ยอมให้ “นิกกี้” จับจริงโดนจริง เมินเสียงด่าเอาตัวเข้าแลกเงิน มองเป็นการทำงานเปล่าลักลอบทำกันหลังฉาก รับแบบไม่อายเงินขาดมือเลยเล่นหนังเรื่องนี้ เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงดูแม่
      
       ก่อนหน้านี้เคยถ่ายแบบสุดหวือหวามาแล้วจนเป็นกระแสดัง ล่าสุดดาราสาว “แคนดี้ ชุติมา เอเวอร์รี่” ตอกย้ำความแรงเพิ่มดีกรีเซ็กซี่เข้าไปอีก ด้วยการตกลงปลงใจรับงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ "ทรนง ศรีเชื้อ" ในชื่อเรื่อง "กามาแห่งรัก" ที่สาว "แคนดี้" ยอมลงทุนเล่นจริง ให้เจ้าพ่อนู้ด 9 นิ้ว “นิกกี้ สุระ ธีรกล” จับจริงโดนจริง โดยที่ไม่หวั่นข้อครหาเอาตัวเข้าแลกเพื่อเงิน
      
       "ภาพยนตร์เรื่อง กามาแห่งรัก ค่ะ เพิ่งเริ่มถ่ายทำก็คงอีกพักใหญ่ๆ บทแรงค่ะคอนเฟิร์ม เพราะว่ามันก็มีหนังอีโรติกกันยกแพ็คที่รู้ๆ กันอยู่ ก็เล่นจริงจับจริงค่ะ ก็โดนจริงเล่นจริง ไม่มีสแตนด์อิน ซึ่งอาเขาวางแผนมาพักใหญ่แล้ว แต่ว่าเขาเพิ่งจะได้มาเริ่มทำในช่วงนี้ ถ้าไม่ผิดที่วางไว้ก็น่าจะเป็นช่วงวาเลนไทน์ที่ได้ฉาย ก็ไม่กังวลเรื่องอะไรแล้ว เพราะว่าเรื่องแรกที่เล่นมันก็หลายปีแล้วค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ในการจับเนื้อต้องตัวก็ไม่ได้ต่างไปจากเรื่องแรกเท่าไหร่ ส่วนเรื่องกบว.จะตัดไม่ผ่านเซ็นเซอร์ มันไม่ใช่เรื่องของนักแสดงค่ะ มันเป็นเรื่องของเขา เราไม่สามารถรู้ขอบเขตของเขาได้ เขาจะรักจะเกลียดจะทำอะไรก็เรื่องของเขา หน้าที่ใครหน้าที่มัน"
      
       "ถามว่ากลัวคนมองว่าใช้ตัวเพื่อการหาเงินหรือเปล่า ก็ไม่กลัวแล้วค่ะ มันเป็นอะไรแค่เส้นบางๆ ระหว่างคำว่าประเพณีกับงาน ซึ่งยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่เราทำอยู่ เราทำอยู่หน้าฉาก เราไม่ได้ไปทำอะไร ลึกลับหลังฉากที่ไหน และถ้าเปรียบเทียบงานสมัยนี้มันออกสู่สากลมากขึ้น หนังต่างประเทศเล่นแรงกว่าเราอีกทำไมไม่เห็นว่า แล้วฝรั่งก็ไม่ได้หยาบกร้าน ไม่ได้มีความเป็นผู้ดีกันสักคนเลย ฝรั่งเขาก็รักนวลสงวนตัวได้ถ้าพูดถึงดาราต่างประเทศ มันก็สูสีกัน ก็คือเราต้องเปิดกว้างมากขึ้น"
      
       กล้ารับตรงไปตรงมาแบบไม่มีอาย เพราะเงินขาดมือเลยตกลงรับเล่นหนังเรื่องนี้
      
       "เรื่องขาดเงินเลยยอมรับงานนี้ ก็ยอมรับ 50 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่ถึงกับว่าขาดเงิน คือยังคงมีอยู่ แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องดูแลคนที่บ้าน ตอนนี้เหลือคุณแม่อยู่คนเดียวก็จริง แต่ท่านก็เหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว อายุก็ 68 แล้ว ดี้ก็อยากทำให้ท่านมีอะไรที่ท่านอยากได้ ทุกสิ่งอย่างดี้ก็ต้องให้ แต่ดีที่แม่ไม่ดูข่าวบันเทิง แม่ก็คงไม่รู้หลายๆ งานที่ดี้ไปออก ก็แต่งหน้าแต่งตัวให้หลบสายตาได้ ก็หวังว่าท่านจะจำไม่ได้ อย่างมารับเล่นหนังแม่ก็ไม่รู้ค่ะ ถ้าหนังออกไปแม่ก็ไม่ไปดูหนัง เขาจะคุยกับแค่คนที่ทำงานด้วยสมัยเก่าตอนที่พ่อยังอยู่ ท่านก็จะกลายเป็นที่ปรึกษาไปเลย"
      
       "ซึ่งงานด้านเซ็กซี่คุณแม่ท่านไม่สนับสนุนตั้งแต่แรก คุณแม่เป็นคนจีนหัวโบราณมาก ตอนแรกที่เข้ามาวงการบันเทิง ถึงขนาดโดนญาติๆ แม่มาพารานอยด์ใส่ ลูกเต้นกินรำกินเป็นที่รังเกียจ เขาพูดกันแบบนี้เลย ซึ่งดี้เองก็ต้องออกห่างจากญาติแม่ไว้ เรารับความพารานอยด์ไม่ได้ด้วยความที่เซ้นซิทีฟ เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร เราไม่ได้หวังว่าใครจะมาเข้าใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ ฉันทำหน้าที่ของฉันก็พอแล้ว และหวังว่าญาติคงไม่มาบอกแม่นะคะ"


ที่มา: manager.co.th