“อาร์เอส” เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2553 รายได้รวมกว่า 640 ล้านบาท และกำไรรวม 68 ล้านบาท เผยธุรกิจเพลงดิจิตอลยังมาเป็นอันดับหนึ่ง เชื่อสิ้นปีผลกำไรพุ่งอีก บอกปีหน้าเพิ่มช่องทีวีดาวเทียมอีก 1 ช่อง
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) ได้เปิดแถลงข่าวแจงการดำเนินงานของบริษัทฯไตรมาส 3 ปี 53 ที่อาคารเชษฐโชติศักดิ์ 1 ย่านลาดพร้าว 15 โดยเผยว่าผลประกอบการรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะทำรายได้รวมกว่า 640.09 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 68.06 ล้านบาท พุ่งจากปีก่อนในช่วงเดียวกันคิดเป็นร้อยละ 30 ทั้งมั่นใจรายได้รวมทั้งปีขึ้นตรงเป้าที่ 2,900 ล้านบาทแน่ เพราะแค่ 9 เดือนแรกได้ไปแล้วกว่า 2,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเผยรายได้หลักของไตรมาสมาจากธุรกิจเพลงและดิจิตอล ที่ปีก่อนอยู่ที่ 233 ล้านบาท แต่ปีนี้เพิ่มอยู่ที่ 263.3 ล้านบาท เพราะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากดิจิตตอล โปรดักส์ในแคมเปญ ซุปเปอร์เหมา *339 ซึ่งปัจจุบันมียอดสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านสมาชิก เพราะปัจจุบันบริษัทฯไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องการขายซีดีอีกต่อไป แต่มุ่งเน้นสื่อด้านดิจิตอลอย่างเต็มตัว
ส่วนด้านธุรกิจสปอร์ตหลังจากที่ได้เป็นผู้ถือสิทธิ์ 2010 FIFA WORLD Cup ทำให้มีรายได้เข้ามาประมาณ 20% เป็นตัวเลขอยู่ที่ 122.92 ล้านบาท แต่ในปีนี้สำหรับฟุตบอลยูโรบริษัทฯไม่ได้ทำต่อ เนื่องจากได้รับความเสียหายเยอะพอสมควรจากยูโรปี 2008 ขาดทุนไปถึงกว่า 100 ล้านบาท แม้ปีนี้จะยื่นขอเสนอเป็นผู้ซื้อสิทธิ์ แต่ก็ต้องปล่อยให้เจ้าอื่น เพราะต้นทุนสูงกว่าของเดิมที่เคยซื้อมา
สำหรับธุรกิจมีเดียหรือทีวีดาวเทียม “นางพรพรรณ” กล่าวว่าในปี 54 นี้ มีแผนที่จะเปิดให้บริการช่องทีวีดาวเทียมเพิ่มอีก 1 ช่อง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 ช่องคือ สบายดี ทีวี และ YOU Channel ซึ่งทั้ง 2 ช่องก็ติด TOP 3 ของช่องเคเบิ้ลทีวี ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอยู่แล้ว แต่ช่องใหม่ที่จะเปิดนั้นมีความแตกต่างแน่นอน แต่ยังคงเน้นความเป็นบันเทิงอยู่ โดยเผยว่าจะมีการร่วมมือกับบริษัทอื่น แต่ไม่ใช่เป็นการร่วมทุน โดยเบื้องต้นเตรียมใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท ส่วนสื่อธุรกิจวิทยุแม้ตอนนี้เหลืออยู่เพียงคลื่นเดียวคือ คูล 93 ฟาเรนไฮต์ แต่ก็ยังคงครองแชมป์การเป็นคลื่น Easy Listening อันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ “นางพรพรรณ” ยังได้สรุปผลการดำเนินการโดยรวมทั้งหมด ด้านตลาดเพลงและดิจิตอลรายได้โดยรวมอยู่ที่ 790 ล้านบาท คิดเป็น 32% ด้านมีเดียอยู่ที่ 460 ล้านบาท คิดเป็น 23% ทางด้านธุรกิจโชว์บิซหรือคอนเสิร์ต ถือว่าไม่มีการเติบโตและเป็นตัวเดียวที่รายได้ลดลง ส่วนทางด้านภาพยนตร์ในปีนี้ถือว่าน้อย ได้แค่ 30 ล้าน ลดลงจาก 130 ล้านในปี 52 และกีฬาได้ 580 ล้าน ซึ่งบริษัทคาดว่าตลอดทั้งปี 53 ทางอาร์เอสจะมีการเติบโตโดยรวมที่ 50% หรือ คิดเป็นมูลค่า 2,900 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ที่มา: manager.co.th
