Author Topic: “บอล เชิญยิ้ม” แตกหักอดีตเมียซัดกันเละ ฝ่ายหญิงขอ 5 แสนตั้งตัว ขู่ฟ้องถ้าไม่ให้ ตลกดังลั่น  (Read 1235 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

“บอล เชิญยิ้ม” แตกหักอดีตเมียซัดกันเละ ฝ่ายหญิงขอ 5 แสนตั้งตัว ขู่ฟ้องถ้าไม่ให้ ตลกดังลั่นยอมติดคุก แฉเคยถูกเอามีดไล่แทง   



“บอล เชิญยิ้ม” ควงเมียเก่าประกาศเลิกกันอย่างเป็นทางการ ก่อนโต้เถียงซัดกันไปมาไม่มีใครยอมใคร ฝ่ายหญิงเผยเหตุที่ออกมาเพราะตลกดังไม่รักตนแล้ว และกำลังจะแต่งงานใหม่ ลั่นขอเงินเลี้ยงดูเพิ่มเป็นเดือนละ 2 หมื่น โอนบ้านให้เป็นชื่อลูกเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมเงินก้อนทำกิจการ 5 แสน ถ้าไม่ให้จะฟ้องร้อง ด้าน “บอล” แฉอดีตเมียยับแอบเอาบีเอ็มไปขาย ตนต้องตามใช้หนี้แทน แถมยังเอามีดไว้ใต้หมอนและเคยไล่แทง ลั่นจะส่งเสียเลี้ยงดูลูกอย่างดีจนวันตาย แต่ไม่ให้เงินเมียเก่าตามที่ขอ บอกยอมติดคุกเพราะไม่มีให้
       
       ตกเป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ เกี่ยวกับกรณีของตลกชื่อดัง “บอล เชิญยิ้ม” หรือ “ชัชชัย จำเนียรกุล” ที่ประกาศกำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวคนใหม่ “ยูริ สุกานดา พุทธคุณรักษ์” ในปีหน้า พร้อมเผยได้เลิกภรรยาอย่าง “หนู ปานชีวา โพธิ์เกษม” ที่แต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนาน 15 ปีมาปีกว่าแล้ว จากนั้นฝ่ายหญิงได้ออกมาโต้เถียงว่า เตียงยังไม่หักหรือเลิกกับบอลเลย แต่ถ้าฝ่ายชายจะไปแต่งเมียใหม่ ก็ขอเงินก้อนไว้เลี้ยงดูลูก 2 คน ซึ่งเกิดจากทั้งคู่ และเอาไว้ตั้งตัวเปิดร้านทำกิจการ พร้อมขู่ถ้าไม่ให้จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูต่อไป
       
       ล่าสุดทั้ง “บอล” และ “หนู” ได้ยอมมาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในรายการตี 10 ซึ่งมีการบันทึกเทปที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 ช่วงเย็นวานนี้ (15 พ.ย.) โดยตลกดังได้พา “ยูริ” แฟนใหม่มานั่งดูมอนิเตอร์ชมการบันทึกเทปตั้งแต่ต้นยันจบรายการด้วย เปิดประเด็นคำถามแรก “วิทวัส สุนทรวิเนตร์” พิธีกรประจำรายการได้ถาม “หนู” ถึงสาเหตุที่มาในวันนี้ เพราะต้องการประกาศเลิก “บอล” อย่างเป็นทางการใช่หรือไม่ เจ้าตัวได้ตอบคำถามทั้งน้ำตา จากนั้นทั้ง “บอล” และ “หนู” ต่างก็อารมณ์ขึ้นโต้เถียงกันตลอดทั้งรายการ
       
       หนู : “ก็ (นิ่งเงียบไปนาน)”
       
       บอล : “ก็พูดมาเลย คุณก็พูดมา ผมจะได้พูดของผม เขาจะได้รู้ว่าเป็นยังไงกันบ้าง เราอยู่กันยังไง”
       
       หนู : “ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว (ร้องไห้) ก็ไม่ต้องทนแล้ว”
       
       บอล : “อยู่กันมา 15 ปีผมรักไหม ผมรักเขาและลูก สิ่งที่เขาเคยเป็นยังไงมา ชีวิตเขาเคยพังมา และมาอยู่กับผม ถามว่าผมไม่รักเขาเหรอ เขาเคยมีแผลมา อันนี้ผมไม่ได้ว่าเขานะ เขาเคยมีลูกมา ผมก็ยืดอกรับเขาและช่วยเลี้ยงดูลูกเขาด้วย จนผมมามีลูก ถามหน่อยว่าผมไม่ดีเหรอ ผมไม่รักเขาเหรอ และที่อยู่มาล่ะการปฏิบัติที่เขาปฏิบัติต่อผม ผมปฏิบัติต่อเขา มันเป็นยังไงกันบ้าง”
       
       “ถามว่าทะเลาะกันไหม ทะเลาะครับ บ่อยไหม บ่อยมาก ถามว่าผมเจ้าชู้ไหม โอเคนอกกายมีบ้างผู้ชายครับ แต่ผมไม่เคยละเลยครอบครัวที่ เรารู้ว่าเหมือนเราออกมาหาอาหาร ครอบครัวเรารออยู่ อิ่มไหม ผมให้อิ่มตลอด แต่สิ่งที่ผมได้รับคืนมาคืออะไร เขามาด่าผมอย่างโน้นอย่างนี้ ทำไมมึงไม่กลับอีกเหรอป่านนี้ กลับไปดึกเอามีดไว้ใต้หมอน ไม่เคยโกรธหนูนะ”
       
       หนู : “มันเป็นเรื่องปกติค่ะ และหนูก็ไม่เคยทำ ถ้าไม่ปกติเขาก็ไม่อยู่กับหนูขนาดนี้หรอกค่ะ ทุกครั้งทะเลาะกันหนูไม่เคยด่าพ่อว่าแม่ คือเราก็คุยตามประสาของเราเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ทะเลาะกันนะคะ”
       
       บอล : “ผมก็อะไร....มีมีดใต้หมอน บางทีผมต้องอุ้มลูกสาวมากันไว้”
       
       “วิทวัส” พยายามพูดให้ “หนู” เข้าใจว่า ที่บอกว่าในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า 14 ปีที่ผ่านมาไม่ได้รัก แล้วในเมื่อ “บอล” ดูแลดีไม่มีปัญหา แล้วอะไรคือปัญหาทำให้ความรักที่บ่มมา 15 ปีพังทลาย เมียเก่าตลกดังรีบชี้แจงว่า
       
       หนู : “บอลจะเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ถามว่าหนูรักเขาไหม หนูรักเขา ไม่ว่าเขาจะทำผิดกี่ครั้งหนูก็รักเขา คือหนูให้โอกาสเขาตลอด ชีวิตครอบครัวมีทุกคน การใช้ชีวิตครอบครัวคือทุกคนมีความคิดไม่เหมือนกัน ของหนูอาจคิดอีกอย่าง แต่คนอาจคิดอีกอย่าง ทำยังไงก็ได้ให้ลูกเรามีความสุข ให้ครอบครัวมีความสุข หนูถึงยอมถึงขนาดนี้ แล้วที่มันมามีปัญหาก็อย่างที่ข่าวลงเรื่องผู้หญิง”
       
       บอล : “พอผมประกาศแต่งงาน เขาไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นแต่มีเชื้อ พอดีรักษาหายเลยไม่เป็นแล้ว (หัวเราะ) คือที่เป็นข่าวเพราะผมคุยกับพี่นักข่าว เขาถามช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกว่าเพิ่งได้บ้านใหม่ เดี๋ยวจะเลี้ยงพระขึ้นบ้านใหม่ปีหน้า และคบกับแฟนใหม่ คุยดูกันอยู่ ก็อาจจะแต่งปีหน้า แต่ยัง ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นขนาดนี้ เพราะที่ผมพูดออกไปถามว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงผมจะพูดทำไม หมายความว่าผมเลิกกับเขาแล้ว เขาเป็นคนบอกผมเองว่ากูไม่เอามึงแล้ว และบ้านหลังนี้กูก็ไม่อยู่ด้วย อายคนแถวนี้ ขายๆ ไปเลยไม่อยู่หรอก เขาพูดกับผมจริงไหมหนู (หันถามหนู)”
       
       หนู : “คนเราความเป็นพ่อคน ในเมื่อเขาบอกว่าเลี้ยงลูกไม่ให้อดให้อยาก ให้ลูกมีความสุข หนูถามหน่อยว่าพ่อทุกคนยอมขายบ้านไหม ถ้าเมียพูดแบบนี้ เขาบอกว่าจะขาย คือเขาพูดว่าบ้านขายได้แล้ว หนูก็บอกว่าขอบ้านหลังนี้ให้ลูกได้ไหม”
       
       บอล : “เดี๋ยวก่อนนะคุณโทรมาตอนที่ไอ้นั่นแล้ว ตอนที่คุณบอกว่าฉันขอนะ จะได้อยู่กับลูก”
       
       หนู : “ที่อยู่เนี่ยมีหลานอยู่ด้วย หลานนั่งฟังอยู่ พอเขาพูดเสร็จ ก็บอกทำไมพี่บอลทำกับน้องแบบนี้”
       
       บอล : “คือทะเลาะกันปังๆๆๆ เสร็จปั๊บ เขาบอกบ้านหลังนี้กูไม่อยู่แล้ว มึงขายๆ ไปเลย กูอายคนแถวนี้เขา กูไม่อยู่หรอก พูดเองนะ (หันชี้หนู) ถามว่าผมขายไหม ผมไม่ขายหรอกครับ ผมกัดฟันมาเหลืออีกประมาณ 6 แสนกว่าบาทก็หมดแล้ว ผมจะขายเพื่ออะไร แล้วผมต้องออกจากบ้านมา มาระเหเร่ร่อนกว่าจะได้บ้านหลังใหม่ ผมติดแบ็คลิสต์หมดเลยทุกธนาคาร กว่าผมจะมีบ้านก็ขอบคุณไทยพาณิชย์มาก”
       
       “ที่ติดแบ็คลิสต์เพราะรถบีเอ็ม ผมต้องเป็นหนี้เพราะพี่สาวเขาเอารถบีเอ็มไปขายให้คนอื่น ซึ่งเป็นญาติแฟนเก่าเขา จนทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นหน้าเลย แต่ผมต้องมารับใช้ 3 แสนกว่า ทนายบอกผมโทรหาคุณหนู เขาไม่เคยรับสายผมเลย ที่ผมโทรหาคุณบอลเพราะมันไม่ไหวแล้ว จนวันหนึ่งหมายศาลมาติดหน้าบ้านยึดทรัพย์ ผมน้ำตาร่วงเลย 3 แสนกว่านี่เหรอสิ่งที่คุณบอกมึงไม่ต้องยุ่ง รู้จักอะไรกับพี่กู แล้ววันนี้เป็นไง ถามทนายได้เลย ทนายบอกมีอะไรให้ผมช่วยคุณบอลโทรบอกเลยนะ 3 แสนกว่าทนายไปยืนรอผมหน้าธนาคารครับ ผมไปเบิกเงิน 3 แสนกว่า ซึ่งผมทำงานมาทั้งชีวิต มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผมรับรู้ด้วยเลย แต่ผมต้องรับใช้ 3 แสน กับเงินที่ตอนนั้นเขาจะหาทนายไปรับฟ้องไอ้คนที่เอารถไป ผมก็ต้องช่วยพี่เขาออก นี่ก็บอกไม่ต้องมายุ่ง เดี๋ยวฉันจัดการเอง ถ้าไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เป็นปีๆ ครับจนวันหนึ่งหมายศาลมาจริงไหมหนู (หันถามอดีตภรรยา)”
       
       หนู : “ถูกต้อง หนูก็จะบอกว่าที่มีเรื่องรถบีเอ็ม เพราะเขาก็ไปมีผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน คือเขาไปจะไม่ค่อยหันกลับมาดูลูกดูเมียเลย พี่สาวบอกว่าเอารถบีเอ็มขาย พี่สาวก็ไปขายให้ คือทางนี้ไปก็ไม่ได้มาดูว่าเราอยู่ยังไง และด้วยความที่อยู่รอดของน้อง อยากให้น้องกับหลานมีเงินกิน มีอะไรกิน พี่สาวก็เลยเอาไปขายให้ แล้วเงินที่เหลือเนี่ยก็เอามาให้น้องให้หลานไว้ใช้ แต่ไม่คิดว่าการที่พี่สาวเราไปทำแบบนี้ให้ กลับกลายเป็นว่าเขาผิดเขาเลวในสายตาของเขา เพราะเขารักน้อง”
       
       บอล : “แต่คำคำหนึ่งที่คุยกับผม ผมก็โทรกลับไปหาพี่สาวเขา ผมก็ถามพี่...ตอนนี้หมายศาลมาติดหน้าบ้านผมแล้วจะทำยังไง เขาบอกจะให้ทำยังไง พี่ไม่มีให้หรอก ผมก็อ้าว...พี่ 3 แสนกว่า เขายึดทรัพย์ผมแล้ว”
       
       หนู : “รู้สึกว่าเรื่องจะเกิดปี 2549”
       
       บอล : “ซึ่งผมแยกกันแล้ว”
       
       หนู : “แยกกันแล้วและกลับมาอยู่ด้วยกันอีก”
       
       พิธีกรได้ซักต่อว่า ตกลง “บอล” ได้ส่งเงินส่งเสียลูกบ้างไหม ตลกดังกล่าวว่า
       
       บอล : “ผมเลิกกันทุกครั้งที่ออกจากบ้าน คือพอรู้ว่าผมมีผู้หญิงใหม่ เราก็จะเลิกกันแยกกัน ออกจากบ้านทุกครั้ง แม้กระทั่งครั้งนี้ผมยังงงว่า คุณมาตีมึนได้ยังไง คุณเป็นคนบอกเองว่ากูไม่เอามึงแล้ว เขาเป็นคนบอกผมเอง เขาส่งข้อความมาขมาผมว่า ฉันมาขอโทษ ผมก็บอกหนูครั้งนี้ฉันไม่เอาแล้วนะ เราเคยคุยกันแล้ว ผมอุตส่าห์เอาเขากลับมา เขาไปขายกิฟท์ช้อป จนอาผมโทรมาบอกว่าลูกสภาพจิตใจไม่ดี ให้มาดู ผมก็กลับไปอยู่ กลับเอาเขามา เพราะเห็นลูกแล้วสภาพมันไม่ใช่ แต่ผมส่งเงินส่งเสียให้เขาตลอด”
       
       หนู : “ก็ส่งตลอดค่ะ แต่เงินที่เขาให้มาไม่พอ เขาให้เดือนละ 1 หมื่นบาทและค่าเรียนพิเศษลูกต่างหาก 5 พัน”
       
       บอล : “ผมให้ 1 หมื่นจริง นี่ของลูกที่เกิดจากผม แล้วก็แสนนึง บอลให้หนูไหม (หันถามหนู หนูตอบให้) แล้วรถวีออส บอลดาวน์ให้หนูไหม”
       
       หนู : “ก็ใช่ แต่หนูต้องผ่อนเองเพราะตอนนี้ไม่มีงานทำ”
       
       บอล : “ก่อนหน้านี้หนูบอกแสนนึง หนูจะไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ถูกไหม เราก็โอนให้”
       
       หนู : “คือเขาโอนให้แสนนึงจริง ส่วน 1 หมื่นบาทเราต้องเลี้ยงลูก พอดีหนูตั้งศาลพระภูมิด้วย ตั้งศาลก็ 3-4 หมื่นละ”
       
       บอล : “แล้วตั้งศาลบอลช่วยไหม (หันหน้าถามซีเรียส)”
       
       หนู : “ก็โอนมาให้ 1 หมื่นบาท แต่เงิน 1 หมื่นบาทที่ให้ไป มันไม่พอค่าใช้จ่ายสำหรับเรา เพราะหนูเติมน้ำมันด้วย ค่าน้ำค่าไฟเราออกเอง ทุกอย่างค่าแม็กเน็ต ไม่ว่าลูกจะมีงานเกี่ยวกับอุปกรณ์อะไร เราจะเป็นคนสำรองออกไป แล้วค่ารายวันที่ลูกจะต้องใช้จ่ายทุกวัน ตอนนี้หนูเลยต้องเอาเงินตัวนี้มาสำรองออกไปๆ ทุกเดือน เพิ่งจะ 4 เดือนนี่เอง”
       
       บอล : “4 เดือนได้ยังไง”
       
       หนู : “ก็คุณไปบอกรายการว่า หนูกับเขาเลิกกันมาปีกว่าแล้ว” (บอลเถียงกลับ...ก็คุยกันแล้ว ก็บอกอยู่เพื่อลูก)
       
       “วิทวัส” ได้ถามย้ำว่า ตกลงเลิกหรือไม่เลิกกันมาปีกว่าแล้ว เพราะตรงนี้คือประเด็นที่ทำให้เป็นข่าว และต่างคนต่างตอบไม่ตรงกัน?
       
       หนู : “หนูยอมรับว่า 4 เดือนค่ะที่พูด แต่เขาเป็นคนไปบอกรายการ ตีท้ายครัว ว่าเลิกกันมาปีกว่า คือรายการบอกอยากมาเปิดบ้าน เขาก็พูดบอกว่าผมขอให้เอาลูกเอาเมียออกได้ไหม เงินตรงนี้ผมจะเอาให้ลูก หนูก็เลยงงว่าเลิกกันปีกว่าได้ไง เพราะในเมื่อหนูกับเขาเพิ่งจะอัดรายการตอนเดือนก.พ. เพราะหนูก็ไม่สามารถไปเฟคทำยังรักเขาอยู่ได้ ถ้าเกิดเราเลิกกันจริงๆ”
       
       “ดังนั้นเราเลิกกันจริงๆ ตอนเขาออกจากบ้านเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาค่ะ เธอฟังฉันนะ (หันคุยกับบอล) เดือนพ.ค.ที่เขามีเคอร์ฟิว เธอพาฉันกับลูกไปเซเว่น เธอยังไปนั่งที่เซเว่นบอกว่าลูกผมหิวข้าว ขอผมซื้อไส้กรอกได้ไหม”
       
       บอล : “ก็ผมกลับไปดู กลับไปเยี่ยมลูก คือผมจะไปนอนบ้านวัดเชิงหวายบ้าง ระเหเร่ร่อนไปเปิดโรงแรมนอนบ้าง และก็ยังกลับไปดูลูกบ้าง ก่อนหน้านี้เราเคยเลิกกันทีแล้วกลับมาอยู่ด้วยกัน แล้วก็บอกไม่เอาเหมือนเดิมแล้วนะ แล้วเขาก็เหมือนเดิม ถามว่าประคองไหม ประคองแล้วประคองอีกเพื่อลูกจริงๆ”
       
       หนู : “หนูก็ไม่อยากพูดอะไรมากแล้ว ในเมื่อเขาเป็นลูกผู้ชาย เขากล้าทำก็ต้องกล้ารับ ส่วนตัวหนูพูดความจริงทุกอย่าง หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าเขาพูดอย่างนี้แล้วสบายใจ ก็คือขอให้หยุดตรงนี้พอ ถ้าเขาคิดว่าตรงนี้เขาถูก หนูก็ไม่ว่าอะไร ก็ปล่อยให้เขาคิดไป”
       
       “บอล” แฉสุดทนที่อดีตภรรยาเคยว่าเรื่องโอนเงินให้แม่ แต่อีกฝ่ายยันไม่เคยพูดเช่นนั้น
       
       บอล : “ตอนแรกผมส่งมาตลอด จน ณ วันหนึ่งคุณออกมาว่าผมอย่างโน้นอย่างนี้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมที่ผ่านมาคุณไม่ออกมา พอคุณเห็นข่าวคุณกระโดดโลดเต้นตอนผมจะแต่งงาน ที่ผ่านมาผมช่วยคุณไหม ทำไมคุณไม่คิดล่ะว่า ผมดีกับคุณและลูก ช่วยมาตลอด และไม่คิดว่าเลิกกันเป็นเพื่อนกันไม่ดีกว่าเหรอ คุณไม่ควรออกมาทำกับผมอย่างนี้”
       
       หนู : “ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูทำทุกอย่างคือเราทนสุดๆ แล้ว ทุกอย่างเราทนมา ไม่งั้นเราไม่อยู่กันมา 15 ปีขนาดนี้หรอก เราคิดว่าพอรับได้ก็รับ แล้วเป็นอย่างนี้หลายครั้ง”
       
       บอล : “บางทีผมโอนเงินให้แม่ คุณพูดกับผมว่าไง แม่มึงขออีกแล้วเหรอ”
       
       หนู : “ฉันไม่เคยพูดเลยนะ เธอต้องถามอาเธอแล้วล่ะว่า อาเธอเป็นคนพูดหรือเปล่า”
       
       บอล : “เธอพูดกับฉันเองหนู (น้ำเสียงเข้ม)”
       
       หนู : “เธอจะมาพูดอย่างนี้ แล้วมาว่าคนโน้นคนนี้ไม่ได้”
       
       บอล : “ผมบอกคุณไม่มีสิทธิ์มาว่าแม่ผมนะ ผมใช้คุณโอนเงิน คุณบอกแม่ขออีกแล้วเหรอ โอนไปเลย ให้แม่มึงกินเหล้าให้ตายไปเลย คุณไม่มีสิทธิ์พูด พ่อคุณผมยังช่วยเลย เวลาพ่อตามาผมให้ตลอด 500 บ้าง 1000 บ้าง แม้กระทั่งลูกติดคุณมา สร้อยคุณเอาไปจำนำไว้ใช้จ่ายค่าเทอมให้ลูกคุณ ผมต้องไปไถ่ออกมาให้”
       
       หนู : “อันนี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง คือเราไม่ได้ดูแลลูกเราเลย แต่เรามาปรนนิบัติเขาอย่างเดียว งานเราก็ไม่ได้ทำ ทุกอย่างเราไม่ได้ทำหมด เราต้องมานั่งเลี้ยงลูกเขา นี่เป็นเหตุผลที่เราไม่ได้ดูแลลูกเราเลย เพราะหนูปฏิบัติต่อเขาอย่างเดียว แม้กระทั่งพ่อหนู หนูก็ไม่เคยดูแล จนทุกวันนี้เขาเจ็บยิ่งกว่าเราอีก ลูกที่เป็นของหนู หนูต้องมายืมเงินเขาไปจ่ายค่าเทอมอีก ถามว่าเขาช่วยไหม เขาช่วยแค่ครั้งเดียว (บอลสวนถาม...ครั้งเดียวเหรอ) คือเหมือนเรื่องนี้เขารังเกียจลูกหนูด้วย (บอลตอบกลับ...ถ้ารังเกียจคงไม่อยู่ด้วยเป็น 15 ปีหรอก) เพราะ15 ปีเขาไม่เคยมาวุ่นวายกับลูกหนูเลย” (บอลหัวเราะ)
       
       “วิทวัส” ได้สรุปว่าทั้งคู่เปรียบเสมือนแก้วร้าว สมานกันไม่ติดแล้ว และหนูต้องการประกาศแยกทางกับบอลแล้วใช่หรือไม่
       
       หนู : “ค่ะ เลิกแล้วจริงๆ”
       
       บอล : “ตอนแรกผมคิดว่าจะคบกันเพื่อลูกเถอะ เราเป็นเพื่อนกันเถอะ ที่ผ่านมาผมช่วยตลอด จนกระทั่งล่าสุดท่อน้ำแตก 7 พันกว่า ผมก็ช่วยก็โอนไปให้ เขาเดือดร้อนผมก็ช่วย ก็เป็นเพื่อนช่วยกันดีกว่า”
       
       หนู : “ก็เพราะมันเป็นหน้าที่ ที่เขาต้องดูแล”
       
       บอล : “ครับมันเป็นหน้าที่ ซึ่งผมก็ผ่อนบ้านให้เขาเดือนละ 21,000 แล้วก็ให้ลูกอีก 15,000”
       
       หนู : “ก็ในเมื่อเลิกกับเขาแล้ว เราก็อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่หนูไม่มีอะไร อยากเริ่มต้นใหม่กับลูก อยากไปดูแลพ่อให้ดีกว่านี้(ร้องไห้) (วิทวัสถามย้ำ...หนูเคยพูดว่า ถ้าบอลไม่ช่วยค่าเลี้ยงดูลูก จะให้ไปขายตัวก็ยอม) ค่ะ”
       
       บอล : “ผมไม่อยากให้เรื่องมันค้างคาอยู่อย่างนี้บอกตรงๆ ถ้าผมให้ได้ก็ให้ เรื่องลูกถ้าเลี้ยงไม่ได้ผมขอนะ ผมอยากได้ลูกมาอยู่กับผม อยากได้มาก ผมไม่ได้ตั้งใจดูถูกเขาว่า เขาจะเลี้ยงไม่ได้ เพราะเขาเองก็มีภาระเยอะ ไหนจะต้องดูแลลูกของเขาอีก”
       
       “คนอย่างผมเหรอจะไม่รักลูกผม ที่อยู่มา 15ปี ผมรักลูกมากครับ คราวก่อนผมถามลูกว่าสอบได้ที่เท่าไหร่ ลูกบอก 20-30 กว่า ผมก็บอกว่าโห....ขนาดเรียนพิเศษนะเนี่ย ก็เลยบอกว่าอยากได้มือถือไหม ลูกก็บอกว่าอยากได้ เอางี้ถ้าอยากได้ ถ้าได้เลขตัวเดียวถึงจะให้ ดังนั้นที่เขาบอกกับสื่อว่า ผมดูแลลูกไม่ดีไม่จริงครับ ผมรักลูกเพราะยังไงก็คือลูกผม ผมเต็มที่ เอาอย่างนี้ดีกว่าเรื่องลูกผมจะรับผิดชอบจนชีวิตจะหาไม่ ถึงผมไม่มีก็จะหามาจนได้ ลูกคือลูก มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่อยากมานั่งออกทีวี ให้คนดูเห็นเหรอ”
       
       พิธีกรถามบอลต่อว่า ที่อดีตภรรยาเคยพูดว่าตลอด 15 ปีที่อยู่ด้วยกันไม่เคยได้อะไรเลย ต่อจากนี้จะดูแลเขาอย่างไร?
       
       บอล : “ผมไม่ได้จดทะเบียนกับเขา เขาเคยขอร้องให้ผมจดทะเบียนกับเขา ผมก็คิดดูว่าเราเคยเลิกกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็กลับมาคบกันอีก ผมก็เลยคิดเยอะว่า เขาก็เคยมีลูกติดมา ถ้าวันนึงผมไม่อยู่ แล้วลูกผมล่ะ ทรัพย์สินผมล่ะ เขาจะเข้ากันได้ไหม ขนาดแฟนเก่ายังมาหาลูกได้ แล้วถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมาลูกผมไม่ตายเหรอ”
       
       หนู : “พ่อหนูสอนตลอดว่า ถ้าอะไรไม่ใช่ของๆ เรา สิ่งที่เขาทำมาก็ให้ลูกไป เขาไม่เอาของน้องอยู่แล้ว ทุกคนในบ้านไม่เอาของน้องอยู่แล้ว เรามาจากครอบครัวที่อบอุ่น เป็นครอบครัวใหญ่ รักพี่รักน้อง เพราะฉะนั้นของๆ คนอื่นเราไม่เอาหรอก”
       
       “แต่สิ่งที่หนูต้องการจากเขาคือ 15 ปีที่หนูเสียไป หนูดูแลเขา ดูแลลูกเขา จนละเลยความเป็นลูก ไม่เคยดูแลพ่อ (ร้องไห้) ทุกครั้งที่หนูมีปัญหาพ่อหนูเจ็บมากกว่า 10 เท่า ทุกคนที่บ้านเจ็บหมด พ่อบอกเสมอว่า นี่แหละลูก....คน ดังนั้นหนูขอ 15 ปีที่สูญเสียไปไม่รวมเงิน 1 แสนที่เขาให้มา”
       
       บอล : “พ่อคุณยังเคยว่าคุณเลย เวลาคุณโมโหแล้วไล่เอามีดมาแทงผม พ่อคุณยังว่าคุณเลยว่าทำไมทำอย่างนั้น วันที่คุณไล่ผมออกจากบ้าน แล้วเงินที่ดาวน์รถให้อีกแสนหนึ่งล่ะ”
       
       หนู : “แล้วคุณอยากให้ลูกสบายหรือเปล่าล่ะ”
       
       บอล : “มันแน่นอนอยู่แล้ว”
       
       หนู : “มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว ที่จะให้ลูกได้มีรถคอยไปรับส่ง เพราะว่าบ้านหนูจากหน้าปากซอยไปบ้านมันไกล เลยต้องใช้รถ ขนาดมอเตอร์ไซค์บอลยังเอาไปเลย บอลเขาพูดว่า ไว้ให้หนูซื้อของเข้าบ้าน”
       
       บอล : “ใช่ครับ ผมให้อาเป็นคนเอากลับไปเอง ซื้อไว้ให้เขาใช้ไปซื้อกับข้าว แต่ทีนี้ผมไม่อยู่แล้ว ภาระผมมันเยอะจัด เยอะมาก ผมก็เลยให้อาเอาไปผ่อนต่อ เพราะผมไม่ไหว เอาไปเถอะ”
       
       “บอล” โต้มีเงินเก็บ 10 ล้านตามที่อดีตภรรยากล่าวหา ลั่นมีเงินให้ตั้งตัวแค่ 1 แสนบาท พร้อมขออีกฝ่ายให้อนุญาตถ้าจะพาลูกไปเที่ยวบ้าง ด้าน “หนู” บอกเรื่องลูกให้เป็นข้อตกลงกันอีกที ส่วนเงินเลี้ยงดูลูกขอเพิ่มเป็นเดือนละ 20,000 บาท
       
       หนู : “คิดเอาไว้ว่าอนาคตข้างหน้าหนูก็ต้องเดินต่อไป ต่างคนต่างรักลูกอยู่แล้ว แต่ลูกต้องอยู่กับหนู หนูก็เลยคิดว่าจะทำยังไงให้ชีวิตหนูเดินต่อไปได้”
       
       บอล : “ลูกเดินต่อไปได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ผมมีกำลังส่งลูกอยู่ ยังไงลูกก็เดินได้ ซึ่งถ้าผมพูดไม่จริงขอให้ธรณีสูบ ยังไงผมก็ต้องส่งเสียลูก ไม่มีวันทิ้งลูกผม 2 คนเด็ดขาด จนกว่าผมจะนอนไม่ไหวแล้ว 30,000 กว่าที่จะต้องส่งเสียให้กับทางนี้ แล้วไหนของผมอีก ของแม่ผมอีก อาผมก็ช่วยหมด จนบางทีผมกัดฟันสู้ งานอะไรก็รับหมด แม่ผมก็ช่วยเต็มที่”
       
       หนู : “หนูยอมรับว่าเขาเป็นคนกตัญญูคนหนึ่ง แต่เขาก็ละเลยความเป็นสามีที่ดี แต่ต่อไปก็คงไม่มีคำว่าสามีอีกแล้ว ที่หนูต้องการคือหนูอยากมีชีวิตที่ดีของหนู ที่สูญเสียไป15 ปี พูดง่ายๆ ก็เรื่องเงิน หนูอยู่กับเขาไม่มีเงินเก็บ แม้แต่ประกันหนึ่งเล่มก็ไม่มี ลูกหนูทุกคนก็ไม่มีประกันเหมือนกัน ไม่มีความมั่นคงในชีวิต”
       
       บอล : “แต่ผมบอกได้เลย ถ้าตอนนี้ผมช่วยได้แค่แสนเดียว ผมไม่ได้มีเงินเยอะ ละครผมก็ไม่ได้เยอะ ถ่ายที 7-8 เดือน แล้วแต่ละเดือนสิ่งที่ผมต้องรับภาระก็มี แล้วถ้าเดือนไหนผมไม่มีงานล่ะ”
       
       หนู : “แล้วที่บอลไปพูดกับพี่สาวล่ะว่า พี่เชื่อไหม ผมมีเงินเป็น10 ล้าน เพราะพี่สาวหนูเปิดโฟนเลยได้ยิน เขาบอกหนูอยากได้อะไรผมจะให้”
       
       บอล : “(หัวเราะ) ไปไทยพาณิชย์กับผมเลย ไปเช็คดูเลยว่า ชัชชัย จำเนียรกุล มีเงินอยู่เท่าไหร่ คือผมบอกว่าต่อให้ผมมีเงิน 10 ล้าน ผมก็จะให้ ถ้าผมมีเงิน 10 ล้าน คงไม่ไปถ่ายสกู๊ปทีละ 8,000 หรอกครับ ผมเพิ่งไปถ่ายสกู๊ปมาครับ (หัวเราะ) ผมอยากให้คุณวิทวัสไปธนาคารกับผมตอนนี้ ไปดูได้เลยว่าผมมีเงินเท่าไหร่”
       
       หนู : “ถ้าเขาพูดมาอย่างนี้แล้วก็คงต้องเชื่อเขา เพราะว่าโกหกคนอื่นโกหกได้ แต่โกหกตัวเองโกหกไม่ได้ แต่ถ้าเขาโกหกแล้วสบายใจ ก็ให้เขาโกหกไป หนูไม่อยากจะพูดอะไรมาก”
       
       บอล : “ถ้าคิดว่ายังเป็นเพื่อนกันได้ก็เป็นเถอะ ผมคิดว่า1 แสนผมให้เต็มที่ ทำสุดกำลังผมแล้ว กำลังผมที่มีเท่านี้ ถ้ามีมากกว่านี้ก็ให้ บอกได้เลยครับว่าบอล เชิญยิ้มมีเงินไม่ถึง 10 ล้าน เรื่องจริงครับ และผมขอเลยว่า ถ้าผมอยากพาลูกไปเที่ยวก็ต้องให้ผมนะ ในเมื่อคุณอยากได้ลูก ผมทำหน้าที่ในฐานะคนเป็นพ่อ”
       
       หนู : “มันก็ต้องเป็นข้อตกลงกันอีก บอกได้เลยว่าเงินที่ให้ลูกมาแต่ละเดือน 15,000 มันไม่พอจริงๆ แล้ว 5,000 หนูไม่ยุ่งเลยเพราะเป็นค่าเรียนพิเศษอยู่แล้ว แต่เดือนละ 10,000 บาท เวลาพาลูกไปเดินห้าง ลูกอยากกินอะไรก็ต้องให้กินอยู่แล้ว”
       
       บอล : “ลูกอยากไปดูหนังผมก็โอนเพิ่มให้จริงไหม ผมทำงาน ผมก็ไม่รู้ว่าความต้องการลูกคืออะไรบ้าง”
       
       หนู : “คือหนูต้องการ 15,000 เฉพาะค่าเลี้ยงดูของลูก อีกต่างหาก 5,000 คือขอเพิ่มอีก 5,000 บาท เป็นทั้งหมดต่อเดือน 20,000”
       
       บอล : “แล้วค่าบ้านอีกนะ ผมกำลังคิดคำนวณว่าถ้าเดือนไหนผมช็อต แล้วมีปัญหาไม่มีเงินให้เขา จะกลายเป็นว่าผมเสียอีก เดี๋ยวเขาก็มาพูดอีก ที่ผมห่วงก็คือตรงนี้ 10,000 เด็ก 2 คน ไม่น่าจะเยอะนะ อย่าเพิ่งไปรวมค่ากิน ค่าเที่ยว เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน ถ้าเป็นตรงนั้นให้ผมช่วยทีละเปราะๆ ดีกว่า”
       
       หนู : “คือหนูคำนวณแล้วว่า ถ้าเป็นลูกชายจะใช้วันละ 100 กลับมาตอนเย็นก็ต้องหาข้าวให้กินอีก เช้า-เย็น สรุปเช้า 200 หนูไม่ได้ทำงาน ก็ต้องกินข้าวด้วย อย่างน้อยก็ต้อง 100-200 ใช้จ่าย 3 คน”
       
       บอล : “ถามว่าผมไหวไหม (ทำท่าคิด) เดือนละ20,000 ผมต้องผ่อนบ้านผมอีก หลังนี้ก็เอาให้ลูกผม”
       
       “บอล” เผยเหตุไม่ยกบ้านให้เป็นชื่ออดีตภรรยา เพราะกลัวเอาไปขายเหมือนเมื่อครั้งกรณีรถบีเอ็ม ด้าน “หนู” บอกให้ตลกดังเซ็นยกบ้านให้ลูกเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีทุกคนเป็นสักขีพยาน
       
       หนู : “อย่างบ้านหลังที่อยู่ ก็ไม่ได้เป็นชื่อหนู ทั้งๆ ที่หนูอยู่ดูแลบ้านมาตั้ง 5 ปี ไม่รู้เขากลัวว่าหนูจะเอาบ้านไปขายหรือยังไง”
       
       บอล : “ที่ไม่เปลี่ยนชื่อให้รู้ไหมเพราะอะไร ก็ขนาดรถบีเอ็มยังทำได้ 3 แสนกว่าคุณเคยทำมาแล้วไง คุณเคยเอาบีเอ็มผมไปขายมาแล้วไง ผมเลยไม่กล้าให้ ผมแค่รอบคอบว่ามันให้ไม่ได้จริงๆ ครับ ที่ให้เพิ่มอีกเดือนละ 5,000 ผมให้ได้แต่บ้านตอนนี้ ผมพูดตรงนี้เลยว่าบ้านหลังนี้ที่ให้ จะให้แค่เฉพาะลูกที่เกิดมากับผมเท่านั้นนะครับ (เน้นเสียง) ไม่มีคนอื่นนะครับ และไม่ขายด้วย เพราะเหลือไม่เท่าไหร่แล้ว”
       
       หนู : “แต่ตัวหนูกับลูกความมั่นใจมันไม่มีไง หลักประกันไม่มี ถ้าบ้านหมด ทุกอย่างหนูขอให้เป็นสักขีพยานต่อหน้าทุกคนในรายการ อยากให้เขาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเลยว่า เมื่อลูกอายุเท่านี้ๆ บ้านหลังนี้ต้องเป็นของเขา”
       
       บอล : “เหมือนเรามาแย่งบ้านกันเลยเนอะ ผมไม่เอาอยู่แล้วบ้านหลังนี้ ผมให้ลูก แต่ตอนที่คุณเอารถบีเอ็มไปขาย 3 แสน และมีหมายศาลมาแปะหน้าบ้าน คุณเคยช่วยผมไหม ผมคนเดียวเลย ทนายมารอเอาเงินที่หน้าบ้าน ทนายยังบอกกับผมว่าโธ่….คุณบอล ผมสงสารคุณจริงๆ เลย นี่ผมโทรหาเขา เขายังไม่รับสายเลย ผมอยากให้ทนายพูดจังเลย ทนายศุภชัยจ๋า พูดแทนผมด้วย”
       
       หนู : “ที่ออกมาก็เพราะเขาจะประกาศแต่งงานไง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยบอกเลยว่า เขาคบกับผู้หญิงคนนี้ๆนะ”
       
       บอล : “ผมโทรไปก็ไม่เคยได้ยินเสียงเขาเลย ได้คุยกับลูกตลอด”
       
       หนู : “ก็ถามลูกแล้วว่าพ่อจะคุยกับแม่ไหม ไบค์(ลูกชาย)ก็บอกว่าไม่เห็นพ่อพูดอะไรเลย หนูรู้ว่าทุกคนในห้องส่งแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด พี่เขาเก่ง”
       
       บอล : “ผมก็ถือว่า 15 ปี ผมประคองเต็มที่แล้ว ผมไม่เคยบกพร่องในการเลี้ยงลูก แต่เรา2คนอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่วันนี้มันไม่ไหวจริงๆ คุณวิทวัสครับ อีกหน่อยลูกก็ต้องโตอีก ค่าใช้จ่ายอีก อันนี้เป็นสิ่งที่ผมหนักใจ ตอนแรกคิดว่าถ้ามีการฟ้องร้องกัน ผมอยากจะได้ลูก แต่คุยกับเขาแล้วเขาไม่ให้”
       
       หนู : “ก็ลูกอยู่กับหนูตลอด หนูไปนอนที่อื่น หนูยังนอนไม่หลับ ชีวิตหนูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลูก”
       
       “หนู” สรุปค่าใช้จ่ายที่อยากได้จาก “บอล” ขอเงินก้อนที่มากกว่า 1 แสนแต่ไม่ถึงล้าน เพื่อจะเอาไปเปิดร้านทำกิจการ แต่ตลกดังขอปฏิเสธ
       
       หนู : “จะบอกเลยว่าเงิน 1 แสนที่เขาจะให้ ถ้าเอาไปเปิดร้านมันไม่พอแน่นอน หนูไม่ต้องการเป็นหลักล้านหรอก แต่ 15 ปีน่าจะได้มากกว่านี้”
       
       บอล : “ก่อนหน้านี้ก็แสนนึง แล้วเพิ่งไปดาวน์รถให้อีกแสนกว่า นี่ก็ 2แสนกว่าแล้วนะ(ถอนหายใจ)”
       
       หนู : “แต่หนูไม่มีเงินเก็บสักบาทเลย ถ้าย้อนกลับไป15 ปี หนูอาจจะมีเงินเก็บมากกว่านี้ ถ้าหนูได้ทำงานอาจมีเป็นล้านเลยก็ได้”
       
       บอล : “งั้นผมก็คิดได้ว่า ถ้าผมไม่เจอคุณ ก็อาจจะมีเงินเก็บเป็น10ล้านเลยก็ว่าได้ ก่อนจะพูดคิดก่อนสิ คุณมาเรียกร้องอะไรกับผมเยอะแยะ ผมเองก็อยากจะให้จบลงตรงนี้เลยครับ ไหนๆ ก็คุยแล้ว ที่ผมออกมาเพราะไม่อยากสาดกันไปมา ก็ถ้ามากกว่าแสนคงไม่มี ผมเพิ่งได้รับการอนุมัติจากธนาคารมา คือผมซื้อบ้านหลังใหม่ มันก็มีภาระ อีกเดือนละ 20,000 แล้วต้องผ่อนบ้านให้เขาอีก 21,000 ก็เป็น 41,000 แล้วรถที่ผมต้องใช้รายเดือนอีก”
       
       หนู : “ก็ถ้าหนูได้ทำงาน เขาก็ไม่ต้องมาเสียค่ากินอยู่ให้ลูกหรอก อะไรที่เล็กๆ น้อยๆ หนูก็จะออกเอง”
       
       ภายหลังอัดรายการเสร็จ “นางทิพย์ จุฑาทิพย์” ซึ่งเป็นอาของบอล ก็ได้เดินขึ้นมาบนเวทีด้วยอารมณ์โมโห พร้อมถือหลักฐานต่างๆ นำมาโชว์ให้ดูว่า ตลกดังได้มีการเลี้ยงดู และดูแลรับผิดชอบลูกกับเมียเก่าจริงๆ ด้าน “นายเบิ้ม โพธิ์เกษม” คุณพ่อของหนู ก็เดินขึ้นมาให้กำลังใจลูกสาวเช่นกัน จากนั้น “บอล-หนู” ได้มาสัมภาษณ์ และโต้เถียงกันต่อหน้าสื่อมวลชนต่อ ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
       
       บอล : “วันนี้ที่มาออกรายการก็อยากจะเคลียร์กันไปเลย ไม่ต้องค้างคาใจ ว่าเลิกกันแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวก็ยังไม่ได้คุยเพื่อปรับความเข้าใจอะไรกันเลย ไม่คุยครับ”
       
       หนู : “ก็เขาไม่เคยโทรมา ไม่เคยโทรเคลียร์กับเรา นอกจากเขาโทรหาลูก”
       
       บอล : “ใช่ครับ ก็จะให้ผมโทรไปคุยกับคุณทำไม ก็จบกันไปตั้งนานแล้ว ผมก็คุยกับลูกตลอด ก็เลิกกันแล้วจะคุยอะไร ยังโทรคุยกับลูกว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือก็ต้องสอบให้ได้เลขตัวเดียวนะ ให้พ่อได้ชื่นใจหน่อย ไหนๆ ก็เรียนพิเศษมาแล้ว”
       
       หนู : “หนูบอกกับลูกตลอดว่าอย่าไปหวังสิ่งของ ถ้าเราหวังของ เราจะทำๆ ถ้าปีไหนได้ก็ดี แต่ถ้าปีไหนไม่ได้ล่ะ เราไม่อยากให้ลูกหวังสิ่งของ อย่างโทรศัพท์พวกนี้”
       
       บอล : “ก็ไม่เห็นว่าเสียหายอะไร”
       
       หนู : “ก่อนหน้านี้ไม่ได้เจอกันเลย ไม่ได้เจอกัน 4 เดือน หลังจากที่เขาหายไป แต่รู้สึกเขาจะไปหาที่บ้าน แต่ไม่เจอกัน”
       
       บอล : “ที่ผ่านมาเราไม่เคยจะพยายามปรับความเข้าใจกัน เพราะเขาเป็นคนบอกเองว่ากูไม่ต้องการมึง ไม่เอาแล้ว กูไม่เอาแล้ว ไม่อยู่แล้วบ้านหลังนี้ เขาส่งข้อความมาขอขมาผม ใช่ไหมที่คุณไปพูดในรายการช่อง 9(ถามฝ่ายหญิง)”
       
       หนู : “ก็ใช่ ที่ผ่านมาก็คิดว่าบอลเป็นอย่างนี้ตลอด”
       
       บอล : “ผมถามหน่อยว่าก่อนหน้านี้ทำไมไม่ออกมา ที่เขาบอกว่าผมหายไป ผมไปต่างประเทศเหรอ ผมก็อยู่หน้าจอทีวีตลอด ผมไม่ได้ไปไหน ทำไมคุณไม่ออกข่าวล่ะ พอผมออกมาจะประกาศแต่งงาน แล้วก็ออกมากระโดดโลนเต้นมาอย่างนั้นอย่างนี้กับผม คุณทำทำไม(เสียงดัง)”
       
       หนู : “ก็เขาเป็นแบบนี้ทุกปี ที่เขาออกมาบอกว่าเลิกกันปีกว่าแล้วไม่จริงค่ะ”
       
       บอล : “ก็เลิกกันตั้งแต่ปี49 ก็ยังทำเอกสารสัญญาเรื่องลูกกัน แล้วผมก็เห็นเขาไปขายกิฟท์ช้อป ก็เลยเอาลูกก


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)