Author Topic: "แอปเปิล" ติดชาร์ตท็อป 5 แบรนด์มือถือโลก  (Read 1259 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ส่วนแบ่งตลาดแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก ประจำไตรมาส 3 ปี 2010 (ข้อมูลจากการ์ทเนอร์)

ผลการสำรวจล่าสุดจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ พบว่า 5 อันดับผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสนใจ โดยผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่างแอปเปิลสามารถแทรกตัวเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของโลกได้สำเร็จ คว้าอันดับ 4 ซึ่งเหนือกว่าผู้สร้างบีบีหรือแบล็กเบอรี่อย่างริมที่ได้อันดับ 5 ตามหลังโนเกีย ซัมซุงและแอลจีที่ยึดเก้าอี้ท็อป 3 อย่างเหนียวแน่น
       
       ที่สำคัญ การสำรวจยังพบว่าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลสามารถครองตำแหน่งโอเอสเบอร์สองที่ถูกใช้งานมากที่สุดในโลก เป็นรองก็เพียงระบบปฏิบัติการซิมเบียนของโนเกียเท่านั้น

แอปเปิลขึ้นแท่นเบอร์ 4
       
       การ์ทเนอร์ให้ข้อมูลว่า แอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟน (iPhone) ตลอดเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2010 มากกว่า 13.5 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วน 3.2% ของตลาดโทรศัพท์มือถือโลก คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 2.3% ในปี 2009 โดยแอปเปิลถือเป็นผู้ค้ารายเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับได้สูงที่สุดในกลุ่ม 8 อันดับแรก เนื่องจากแอปเปิลสามารถถีบตัวเองจากอันดับ 7 ในปีที่แล้ว มาอยู่อันดับ 4 ในปีนี้
       
       สิ่งที่น่าสนใจในไตรมาสนี้ คือความจริงที่ว่าแบรนด์ดังไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการซื้อที่เสมอไป เนื่องจากสัดส่วนตลาดในกลุ่ม"ผู้ผลิตรายอื่น"หรือที่การ์ทเนอร์ให้ชื่อเรียกว่า “Other” นั้นเพิ่มสัดส่วนขึ้นจาก 16.1% มาเป็น 33% ในปีนี้ สื่อมวลชนอเมริกันวิเคราะห์ว่า สัดส่วนตลาดที่ขยายตัวอย่างชัดเจนในขณะนี้เกิดขึ้นเพราะแบรนด์ย่อยซึ่งจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในราคาไม่แพงนั้นเคยครองตลาดได้เฉพาะในจีนเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันตลาดดังกล่าวเริ่มขยายไปยังประเทศตลาดกำลังเติบโตอย่างอัฟริกา อินเดีย อเมริกาใต้ รวมถึงรัสเซีย ทำให้สัดส่วนตลาดในกลุ่มนี้ขยายตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด
       
       ที่น่าเป็นห่วงคือโนเกีย ที่ส่วนแบ่งตลาดในวันนี้ลดลงจาก 36.7% เหลือเพียง 28.2% เท่านั้น แม้ว่าโนเกียจะสามารถจำหน่ายโทรศัพท์ได้มากกว่าปีก่อนถึง 4 ล้านเครื่อง (โนเกียสามารถจำหน่ายโทรศัพท์ 113.5 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาส 3 ปี 2009 แต่สามารถจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นเป็น 117.5 ล้านเครื่องในปีนี้)
       
       เช่นกันกับซัมซุงที่สามารถทำยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ล้านเครื่องในปีนี้ เพิ่มจาก 60.6 ล้านเครื่องเป็น 71.7 ล้านเครื่องอย่างสบาย คาดกันว่าเป็นผลจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ช่วยฉุดยอดจำหน่ายซัมซุงให้เพิ่มขึ้นอย่างน่าอิจฉา แต่ก็ยังไม่วายมีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 19.6% มาเป็น 17.2% ในไตรมาสล่าสุด

   

ส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก ประจำไตรมาส 3 ปี 2010 (ข้อมูลจากการ์ทเนอร์)

แอนดรอยด์ทะยาน "โอเอส"เบอร์ 2
       
       ไม่ใช่แต่มุมแบรนด์ผู้ผลิต การ์ทเนอร์ยังจัดอันดับระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนยอดนิยมในตลาดโลกด้วย โดยซิมเบียน (Symbian) ของโนเกียเป็นโอเอสเดียวที่สามารถนำหน้าแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล ขณะที่ไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิลสามารถครองอันดับ 3 ตามมาด้วยแบล็กเบอรี่ (BlackBerry) ของริม และอันดับ 5 คือวินโดวส์โมบายล์ (Windows Mobile) ของไมโครซอฟท์
       
       ไมโครซอฟท์สามารถครองส่วนแบ่งตลาดโอเอสได้เพียง 2.8% เท่านั้นในไตรมาสนี้ โดยแบล็กเบอรี่สามารถครอง 14.8% น้อยกว่าไอโอเอสที่ทำได้ 16.7% พระเอกของงานนี้ต้องยกให้แอนดรอยด์ที่สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดเป็น 25.5% ในไตรมาสนี้ ทำให้ซิมเบียนของโนเกียนำหน้าอยู่ร้อยละ 10 กว่าเท่านั้น โดยซิมเบียนมีส่วนแบ่ง 36.6%
       
       สำหรับภาพรวมตลาดโลก การ์ทเนอร์พบว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงขึ้นถึง 35% ในปีนี้ เบ็ดเสร็จ 417 ล้านเครื่อง เฉพาะตลาดสมาร์ทโฟน อัตราการเติบโตสูงถึง 96% ทำให้สัดส่วนตลาดสมาร์ทโฟนคิดเป็น 20% ของตลาดโทรศัพท์พกพาทั้งหมด
       
       Company Related Link :
       Nokia
       Samsung
       LG
       Apple
       RIM

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7262 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
6000 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
4965 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
3769 Views
Last post August 28, 2009, 09:43:46 AM
by IT
0 Replies
6872 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
4972 Views
Last post July 16, 2010, 10:18:47 PM
by Nick
0 Replies
4160 Views
Last post August 27, 2010, 04:28:08 PM
by Nick
0 Replies
6188 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
5864 Views
Last post October 21, 2010, 10:23:15 PM
by Nick
0 Replies
7827 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick