“ได๋” น้ำตาคลอถูก “กอล์ฟ” ตีตัวออกห่าง เหตุตนเองฉาวเกินข่าวซดเกาเหลา “พลอย” และไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ ทำอีกฝ่ายปวดหัวกับการต้องมาตอบคำถาม และมองกำลังถูกหลอกใช้ รับเสียใจไม่กล้าโทรไปปรับความเข้าใจ ปัดยังอาลัยอาวรณ์ “นาวินต้าร์” และมีกิ๊กใหม่เป็นเพื่อน “บีม ศรัณยู”
หลังจากอ้ำๆ อึ้งๆ และพยายามเลี่ยงสื่อตอบคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับ “กอล์ฟ ฐิติพันธ์ เกยานนท์” มาหลายครั้ง แต่ในที่สุดพิธีกรหน้าหมวย “ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ” ก็ยอมเปิดปากถึงเรื่องนี้จนได้ พร้อมกับอาการจุกอกมีน้ำตาปริ่ม สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีตลอดการให้สัมภาษณ์ โดยได๋ยอมรับว่าเป็นเพราะตนเองมีข่าวฉาวเรื่องเกาเหลา “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” รวมทั้งยังไม่มีความชัดเจนในความสัมพันธ์ จึงทำให้ฝ่ายชายตีตัวออกห่างก่อน
“ใครเลือกที่จะหยุดก่อนกัน อืม..ก็น่าจะเป็นเขาที่ตีตัวออกห่างก่อน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ไม่ได้คุยกัน เสร็จแล้วก็เคลียร์ว่าเขาเป็นคนรัก ก็โอเคคุยกันอยู่แป๊บนึง หลังจากนั้นก็เข้าใจว่าได๋อาจจะไม่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มเองเลยเป็นแบบนี้ เพราะบางคน...ก็พูดแล้วให้มันเคลียร์เลยละกันจะได้ไม่ต้องพูดอีก และก็คือได๋ไม่(นิ่งก่อนถอนหายใจ) คือพี่เข้าใจใช่ไหมว่า ได๋ทำงานทุกวันปกติ เราเป็นพิธีกรก็ต้องออกจากบ้าน แต่สองเดือนที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เมื่อกี้ก็เห็นบอกขอถ่ายรูปเฉยๆ แต่กลายเป็นสัมภาษณ์”
“คือที่เขาเลือกตัดความสัมพันธ์ลง อาจเป็นเพราะเขาไม่สะดวกใจที่จะคุยมากกว่า เพราะเขาไม่รู้ว่ายังไง ข่าวมันก็ออกมาเยอะ ออกจากบ้านมาทุกวันก็ต้องมาตอบคำถาม ช่วงแรกๆ เขาอาจจะมองว่าได๋ไม่ชัดเจน พอได๋บอกว่าโอเคเขาเป็นคนรัก ก็หาว่าเราหลอกใช้ หลอกอยู่ด้วยฆ่าเวลาหรือเปล่า ทำไมถึงยังเป็นข่าวแบบนี้อีก เขาก็ยังต้องตอบคำถามสารพัด เขาเองก็อาจจะปวดหัว”
“ส่วนที่เขาออกมาแถลงข่าววันนี้ได๋ไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่เขาแมสเซจมาบอกแล้ว ถามว่าสำหรับเรามันเคลียร์ไหม คือตั้งแต่มีข่าวเขาก็บอกกับเราว่า อยากให้เคลียร์ตัวเอง เขาคงปวดหัวกับเรามาก คนรอบข้างเขาก็มีคำถามเกิดขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิมได้ไหม ไม่รู้เหมือนกัน....เหตุการณ์ที่ผ่านมาอาจทำให้เราเลิกคุยกันได้ มันก็คงประมาณนั้น”
“ที่มีข่าวว่าที่ผ่านมาเราพยายามขอคืนดี มันก็เป็นข่าวอยู่ทุกวันก็ไม่รู้ทำไง เราเองก็ไม่กล้ารบกวนที่จะโทรไปปรับความเข้าใจเขา เพราะเราเองก็ต้องเข้าใจความรู้สึกเขา เขาเองก็คงลำบากใจ เราลำบากใจแคร์คนไหน คนที่เราแคร์ก็คงลำบากใจมากกว่า เราเองรู้สึกเสียใจแน่นอนอยู่แล้ว คนรู้สึกดีกันขนาดนี้ แต่พอมันมีเรื่องขึ้นมาก็ไม่เป็นไรค่อยๆ เคลียร์ไป เราอยู่ตรงนั้นมันก็เป็นข่าว ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
ถอนหายใจกับกระแสข่าวครอบครัว “กอล์ฟ”ไม่ปลื้ม เหตุเจ้าตัวฉาวบ่อยทำให้ส่งผลต่อธุรกิจ
“กระแสข่าวที่ว่าทางครอบครัวกอล์ฟไม่ปลื้มเพราะส่งผลทางธุรกิจ เฮ้อ..(ถอนหายใจ)ครั้งแรกที่มันมีเรื่องขึ้นก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้มันก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด แล้วมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ วันนี้ก็มีนักข่าวไปถามเขาว่ารู้หรือเปล่าได๋แอบไปกิ๊กกับเพื่อนบีม (ศรัณยู ประชากริช) ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ก็รู้จักเคยเจอกันครั้งเดียว ปฏิเสธเลยค่ะว่าไม่ได้กิ๊กกัน ก็บริสุทธิ์ใจ พอมีข่าวเกิดเรื่องขึ้นมาอีก เขาก็ถามว่าตกลงยังไงอะไรอีก มีข่าวออกมาแบบนี้เราห้ามความคิดคนอื่นเยอะแยะไม่ได้ ตัวเขาเองก็รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่ว่าคนรอบข้างเขาก็จะมีคำถาม แต่อยากให้รอดูต่อไป กับข่าวที่ผ่านมาถือว่าเป็นข่าวที่รบกวนจิตใจมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาก็ว่าได้”
ปฏิเสธยังอาลัยอาวรณ์คนรักเก่าอย่างนักร้องหนุ่ม “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” อยู่ บอกเรื่องจบไปนานแล้ว พร้อมรับทุกครั้งที่ตอบคำถามจะนึกถึงจิตใจ “กอล์ฟ” ว่ารู้สึกอย่างไร
“คือกระแสข่าวมันออกมาเยอะมากว่ายังอาลัยอาวรณ์ ถามว่ามีปัญหากันเพราะเรื่องอะไร คือจริงๆ เรื่องของได๋กับคนที่ทำให้เป็นข่าวกัน มันจบนานมากแล้วตั้งแต่ความสัมพันธ์เป็นศูนย์ มันจบไปสองปีแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีโอกาสอะไรที่จะพูดได้ บางคนไปว่าเขาว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ….ไม่ใช่ คนที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษก็คงจะเป็นได๋เอง ถ้าจะพูดอย่างนั้น เพราะได๋เป็นคนที่ไม่อยากเป็นข่าวเอง ขอว่าไม่ต้องพูดอะไรมากได้ไหม ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ แล้วบางคนก็ไม่เข้าใจก็คิดไปต่างๆ นานา มันก็เลยแตกแขนงแยกกันไป คนโน้นคิดอย่างนี้ คนนี้คิดอย่างนั้น และพอไปถามเขามันก็เลย.. ก็เข้าใจ พอตื่นมาทุกวันก็ต้องมาตอบคำถามแค่นั้นแหละไม่มีอะไร”
“คือได๋ก็เป็นข่าวอยู่ทุกวัน ทุกครั้งเวลาที่เราจะต้องให้สัมภาษณ์ สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวก็คือแล้วกอล์ฟจะคิดยังไง เพราะยังไงคุณพ่อคุณแม่ได๋ก็เข้าใจอยู่แล้ว ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันว่า เราไม่ได้ทำอะไรจริงๆ”
“ถามว่ากับเรื่องนี้ได้บทเรียนอะไรบ้างไหม อืม...ไม่ค่ะ ก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม ส่วนใครที่จะเข้ามาต้องปรับตัวเข้าหาเราไหม ตอนนี้ไม่อยากคิดอะไรมาก ก็ใช้ชีวิตไปปกติ ส่วนเรื่องปรับความเข้าใจกับเขา ได๋ว่าเดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน”
ที่มา: manager.co.th