“เชียร์” รับโดนปลดกลางอากาศ ชวดเล่นบทร้ายในละครเรื่อง “เพลิงพรหม” เปรยไม่รู้สาเหตุเป็นเพราะตนเล่นร้ายไม่ถึงหรือไม่ แอบบ่นเสียดายเพราะตั้งใจเปลี่ยนคาแรคเตอร์ แต่ไม่คิดถามผู้ใหญ่ถึงสาเหตุ ลั่นยังไม่คิดต่อสัญญา 7 สี อ้างมีแพลนเรียนต่อ พร้อมขอโทษประชาชนที่แสดงอาการบ้าคลั่งนักร้องเกาหลีมากไป จนถูกมองว่าเว่อร์!
นึกว่าจะได้เห็นนางเอกสาว “เชียร์ ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” พลิกคาแรคเตอร์มารับบทนางร้ายกับเขาบ้างซะแล้ว เพราะตั้งแต่มีข่าวเจ้าตัวถูกจับมาพลิกบทบาท ให้เล่นร้ายประกบนางเอกสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” ในละครเรื่อง “เพลิงพรหม” ก็ถูกจับตามองมาตลอดว่า บทบาทตกเป็นรองสาว “ขวัญ” และไม่นานมานี้มีกระแสข่าวเพิ่มอีกระลอกว่าสาว “เชียร์” โดนถอดจากละครเรื่องนี้แล้ว โดยแมงเมาท์ลือกันให้สนั่นกองว่าเหตุเพราะเล่นร้ายได้ไม่เข้าตาผู้ใหญ่ จึงต้องถูกปลดออกกลางอากาศ
ซึ่งล่าสุดได้เจอตัว “เชียร์” ในงานเปิดตัวเครื่องปรุงสำเร็จ “i-Chef” ณ ร้าน Orangery ที่ห้างสยามพารากอน เจ้าตัวก็ยอมรับว่าถูกถอดจากละครเรื่องดังกล่าวจริง แถมเป็นการโดนปลดกลางอากาศแบบไม่รู้ตัวมาก่อนด้วย
“ตอนนี้ เพลิงพรหม ไม่ได้เล่นแล้วค่ะ (หัวเราะ) คืออยู่ดีๆ ก็มีคำสั่งกะทันหันว่าเปลี่ยน อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ส่วนตัวก็ได้ไปถ่ายมาก่อนแล้วคิวนึง แต่อยู่ดีๆ ก็มาบอกว่าไม่ต้องไปแล้ว ข่าวว่าเชียร์เล่นร้ายไม่ถึงเหรอ จริงๆ เชียร์ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่านะคะ แต่ในส่วนของเรื่องนี้เชียร์ร้ายแค่ไม่กี่ฉากเอง ไม่ถึงตอนด้วยซ้ำแล้วก็เปลี่ยนเป็นคนดี ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุนี้เป็นเหตุใหญ่หรือเปล่า แต่เราก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ เขาจะมองว่าให้เราเล่นหรือไม่เล่นยังไง เพราะเราก็เป็นแค่นักแสดงที่ได้รับการวางตัวเท่านั้นเอง”
“เชียร์ไม่ได้ถามสาเหตุด้วยค่ะ ไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาคุยกัน แต่ ณ วันที่ไปถ่ายก็จะมีทั้งที่เล่นเป็นตัวร้ายแล้วก็เป็นตัวดี ทางพี่ต้อ(มารุต สาโรวาท) ผู้กำกับก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ถ่ายแล้วก็ให้ผ่าน ไม่มีท่าทีอะไรเลย เชียร์ก็ยังปรึกษาพี่ต้ออยู่ตลอดเลยว่า เล่นอย่างนี้โอเคหรือไม่โอเคยังไง แต่พี่ต้อก็โอเคให้ผ่านแล้วนะ ตอนที่ไปถ่ายก็นานแล้วเหมือนกันกว่าที่เขาจะโทรมาบอก ซึ่งเชียร์น่าจะเป็นคิวแรกจากที่เปิดกล้องเลย ก็ได้ถ่ายแค่คิวเดียวเองแล้วก็ไม่ได้มีถ่ายอีก”
ยอมรับเสียดายที่ชวดเล่นร้าย และรู้ตัวไม่เหมาะกับบทดังกล่าว แต่มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ ซึ่งคนที่ส้มหล่นได้เข้ามาเสียบแทนบทดังกล่าวคือดาราสาว "เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์"
“ก็แอบเสียดายเหมือนกัน เพราะเราก็ตั้งใจทำเต็มที่แล้ว คือเหมือนเราได้รับอะไรมาก็ตั้งใจทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าจริงๆ แล้วก็แอบหวั่นเหมือนกัน คือพอเชียร์เล่นละครสองเรื่องแล้วมันจะเป็นกังวล พอตอนนี้มันเหลือ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เรื่องเดียวมันก็โอเค เพราะเรื่องนี้ก็ถ่ายทำอยู่ แต่เป็นเพราะนักสู้ฯต้องเพิ่มตอนด้วยหรือเปล่า ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เชียร์ก็ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไรกันแน่ แต่ถามว่าอาจจะมีส่วนด้วยไหม มันก็อาจจะมีส่วน เพราะตัวเชียร์เองเล่นเรื่องนี้มันก็ต้องเพิ่มตอน และละครบู๊มันต้องถ่ายใช้เวลา กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนแทบจะถ่ายทอดสดแล้ว คือมันยังไม่จบด้วย แล้วยังมีเพิ่มมาอีก ก็ยังต้องถ่ายทำอยู่เลย”
“ซึ่งคนที่มาเล่นแทนเชียร์ใน เพลิงพรหม ก็เป็นพี่เบนซ์ ปุณยาพรค่ะ ถามว่าน้อยใจไหมที่ถูกปลด ก็คงไม่ถึงกับน้อยใจอะไรขนาดนั้น แต่แอบเสียดายเล็กๆ มากกว่า เพราะเราก็เต็มที่แล้ว พอรู้ว่าไม่ได้เล่นแล้วก็แอบเสียดายเหมือนกัน เพราะสำหรับบทร้ายเท่าที่ได้เล่นไป ก็ถือว่าเป็นบทเรียนใหม่ที่ดีนะคะ เราไม่เคยเล่นลักษณะนี้มาก่อน มันก็เลยเหมือนกับมีหลายๆ ด้านที่เราต้องเติมแต่ง หลายๆ ด้านที่เราต้องครีเอทกว่าการที่เล่นเป็นคนดี มันก็เป็นบทเรียนใหม่ที่ก็สนุกดีนะ ถ้าเรื่องต่อไปจะเป็นร้ายหรืออะไรยังไงก็แล้วแต่ที่จะได้รับมาอีกค่ะ เชียร์ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่อยู่แล้วว่าเขาจะให้เล่นหรือไม่ให้เล่นเรื่องอะไร”
“ส่วนกระแสที่ว่าเชียร์ไม่เหมาะกับบทร้าย จริงๆ ตัวเชียร์เองก็ว่าไม่เหมาะนะ แต่พอได้ไปเล่นมันก็เหมือนเป็นการแสดงค่ะ มันคือการแสดงที่ไม่ใช่ตัวเรา พอลองไปเล่นมันก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะดี ก็รู้สึกว่ามันได้ขัดเกลา ได้ฝึกฝนได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้ก็เหลือถ่ายเรื่องเดียว เพราะจากเดิมนักสู้ฯมี 15 ตอนนี้เป็น 22 แล้วค่ะ ก็ให้คิวกับเขาเต็มที่เลย นี่ก็เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ดีใจมากที่ได้เข้าเมือง(หัวเราะ) แต่เรื่องต่อไปยังไม่มีวางไว้นะคะ”
ลั่นยังไม่คิดต่อสัญญากับ 7 สี เพราะมีแพลนจะไปเรียนต่อ....
“เรื่องสัญญายังไม่ได้ต่อค่ะ แต่ตอนนี้ยังติดสัญญากับช่องอยู่ เหลืออีกนานไหมไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะล่าสุดที่ต่อไปก็ทั้งหมด 4 ปี แต่เชียร์จำไม่ได้ว่าต่อไปปีไหน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องสัญญาอะไรกันเลย จริงๆ แล้วตัวเชียร์หลังจบเรื่องนี้ก็มีแพลนเรื่องเรียนต่อด้วยเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนในนี้หรือจะไปเมืองนอกก็ยังคิดอยู่ แต่ยังไม่ได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่เลยค่ะ เพราะตัวเราเองก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเรียนอะไรยังไง ก็เลยยังไม่ถึงกับว่ามีข้อมูลพอที่จะไปคุยว่า จะเรียนอะไรหรือว่าจะไปต่อที่ไหน ก็คิดว่าน่าจะยังไม่ใกล้หมดสัญญานะคะ น่าจะเหลือเป็นปีแหละคิดว่านะ”
“ถ้าผู้ใหญ่เรียกให้ต่อก็คงต้องดูกันอีกทีค่ะ จะต่อยังไงกี่ปีก็ต้องเป็นเรื่องที่เราต้องคุยกันนิดนึง เพราะเชียร์ก็ยังไม่รู้ว่าถ้าเรียนต่อจะให้คิวอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แล้วอีกอย่างก็ยังไม่รู้ว่าจะไปต่อเมืองนอกหรือเปล่า แล้วมันจะมีปัญหากับเรื่องสัญญาไหม มันก็เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้ละเอียดหน่อย แต่ข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่าช่องอื่นมาทาบทามก็ยังไม่มีแววนะคะว่า จะไปช่องอื่นหรือยังไง ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ที่เรามีอยู่ให้ดีที่สุดนั่นแหละค่ะ”
ออกปากขอโทษประชาชนที่แสดงอาการคลั่งวงเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีออกนอกหน้า จนถูกกระแสโจมตีว่าเว่อร์เกินเหตุ!!
“เรื่องคลั่งเกาหลีเหรอ(กรี๊ด) คือจะบอกว่าเราเกินไปนิดนึงไหม อันนี้จริงๆ ก็อยากจะขอโทษเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ แต่ว่าจริงๆ แล้วในทวิตเตอร์มันก็เหมือนเป็นพื้นที่ของเรา แต่ก็โอเคว่ามันก็ไม่ใช่ของเราซะทีเดียว คือมันก็มีความเป็นสาธารณะที่มีคนมาตามมาดูด้วย คือมันก็อาจจะดูเกินไปสำหรับคนที่อาจจะไม่เข้าใจ แต่ในมุมของตัวเองเราก็ไม่ได้มีอะไร มันเป็นแค่แฟนคลับคนนึงที่ชอบมาก อย่างล่าสุดที่เชียร์เพิ่งได้ไปดูคอนเสิร์ตมา คือมันเป็นอาการที่เราดีใจมากๆ จริงๆ ที่ได้เจอคนที่เราชอบ มันก็ไม่รู้จะแสดงออกยังไง”
“คือเราก็มีสังคมกลุ่มแฟนคลับอยู่ในทวิตเตอร์ของเราด้วย แต่ว่าคนอื่นอาจจะมาเห็นตรงนั้นด้วย บางคนที่เข้าใจมันก็มี บางคนที่ไม่เข้าใจมันก็มีค่ะ แต่ยังไงก็แค่อยากให้ทราบไว้ว่า เราก็แค่สื่อในฐานะที่จริงใจ ไม่ได้มีอะไร แต่ว่าสำหรับคนที่อาจจะไม่ได้เข้าใจถึงเรื่องตรงนี้ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ ซึ่งฟีดแบคในด้านลบถ้ากับตัวเองยังไม่มีนะคะ แต่ส่วนใหญ่พอคนรู้ว่าเราชอบเขาก็จะมาคุยเรื่องนี้กับเรา แต่สำหรับเชียร์ ณ ตอนนี้ก็ยังค่อนข้างที่จะมีแต่ด้านบวกอยู่ค่ะ ก็อย่างในทวิตเตอร์ก็จะมีแฟนคลับต่างประเทศที่เป็นแฟนคลับเหมือนกัน เขาก็จะมาคุยกับเชียร์ แล้วเขาก็รู้ด้วยนะว่าเชียร์เป็นดาราอยู่ที่ไทย เขาก็ยังเซอร์ไพรส์เลย เพราะไม่คิดว่าเราจะมาชอบเป็นแฟนคลับอะไรแบบนี้”
“อย่างในรายการที่เห็นเชียร์พูดถึงบ่อยก็ดูคนชงกันสิคะ(หัวเราะ) คือพี่เขาเห็นว่าเชียร์ชอบ เขาก็จะชอบแกล้ง ชอบแซวกัน แต่ส่วนตัวก็ยังไม่มีโดนว่าอะไรนะคะ แต่ใครจะคิดยังไงเราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจแหละว่าคนที่เขาเข้าใจก็มี คนที่เขาไม่เข้าใจก็มีค่ะ แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ) ก็คงจะให้มันคงที่ไว้แหละค่ะ คงไม่ได้อยากจะมากไปกว่านี้ และก็คงไม่ได้อยากจะน้อยไปกว่านี้ แต่ว่ายังไงก็จะพยายามควบคุมตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้วกัน เพราะแค่คนพูดชื่อมาเชียร์ก็กรี๊ดไปแล้วล่ะ(หัวเราะ)”
ที่มา: manager.co.th