“ญาญ่าญิ๋ง” รับแฟนเก่า “แดน ดนัย” ส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ว่าตนเป็นมือที่สามจริง แต่ให้ฝ่ายชายไปเคลียร์แล้ว ยันไม่เคยสานสัมพันธ์ด้วย ทั้งดาราหนุ่มก็มีแฟนใหม่แล้วเรียบร้อย เผยตอนนี้ถอยห่างไม่สนิท “แดน” อีก เพราะไม่อยากมีปัญหา ลั่นโสดสนิทเลิกแฟนฝรั่งมาได้เกือบปี บอกแม่เป็นห่วงที่ยังไม่มีแฟน
โดนข้อหามือที่สามเข้าให้อีกคนแล้ว สำหรับนักร้องสาว “ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม” ที่มีข่าวว่าโดนแฟนนอกวงการของดาราหนุ่ม “แดน ดนัย สมุทรโคจร” ส่งฟอร์เวิร์ดเมล์กระจายข่าวในอินเทอร์เน็ตว่า มาเป็นมือที่สามแย่งดาราหนุ่มไป ซึ่งเรื่องนี้สาว “หญิง” แจงว่า ถ้าคิดจะเป็นแฟน “แดน” คงเป็นกันไปนานแล้ว เพราะรู้จักกันมานาน บอกให้ฝ่ายชายไปเคลียร์กับอีกฝ่าย ส่วนตนก็ขอถอยห่างไม่สนิทกับดาราหนุ่มอีก
“เรื่องแฟนเก่าแดนฟอร์เวิร์ดเมล์มาว่าหญิง อันนั้นก็เห็นค่ะ แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกันมากกว่า คือถ้าเจตนารมณ์ในการที่หญิงรู้จักกับแดน ณ วันนั้น เป็นเจตนารมณ์ของคนที่ต้องการจะพัฒนาความสัมพันธ์ ไปเป็นคู่รักหรืออะไรอย่างนั้น ณ วันนี้หญิงก็คงคบกับแดนไปแล้ว แต่วันนี้ก็ไม่ได้คบ แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอเลยค่ะ แต่หญิงว่าตอนนี้แดนน่าจะอินเลิฟนะ(หัวเราะ)”
“แต่เรื่องอีเมล์นั่นหญิงไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่ก็พยายามพูดกับแดนไปว่า บางทีมันก็มีผลกระทบกับตัวเรา จริงๆ หญิงไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเขาก็ไปเคลียร์กับทางเขานะ แต่ตอนนี้เขาน่าจะอินเลิฟกับคนใหม่นะ ถามว่าจริงๆ หญิงสนิทกับแดนแค่ไหน คือช่วงนั้นเป็นช่วงของการดูบอลโลกค่ะ แดนก็ชอบดูบอล กลุ่มหญิงก็ชอบดูบอล ก็เลยเหมือนนัดมาเจอกันเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่เคยไปไหนด้วยกันสองคน”
“แต่พอมีข่าวอย่างนี้ก็เลยต้องห่างเลยค่ะ (หัวเราะ) รู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัย คือหญิงรู้สึกว่าถ้ารู้จักกับใคร แล้วมันไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นเพื่อนกันได้ หญิงก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าคบกันแล้วทำให้คนของอีกฝ่ายนึงไม่สบายใจ หญิงก็คิดว่าไม่เป็นไร เจอไม่เจอก็มีค่าเท่ากัน เราไม่ได้รู้สึกว่าต้องเจอ ต้องสนิทหรือว่าต้องคุยค่ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องแฟนเก่าเขาอย่างเดียวหรอก คือถ้าเรารู้จักใครแล้วมันทำให้เกิดเอฟเฟ็คกับคนอื่น ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ หญิงก็เลือกที่จะให้เขาไปเคลียร์กันเองดีกว่า”
เผยตอนนี้โสดสนิท เพราะเลิกหนุ่ม “คริส” แฟนฝรั่งตาน้ำข้าวมาได้ร่วมปีแล้ว ลั่นไม่เข็ดรักยังเปิดรับหนุ่มๆ อยู่เสมอ
“ความรักตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ โล่งสนิท กับหนุ่มฝรั่งเหรอคะ ตายไปแล้วค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ คือก็เลิกกันแล้วค่ะ เกือบปีแล้ว ณ ช่วงนั้นก็เสียใจนะ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว จริงๆ เราก็พยายามจะประคับประคองนะ แต่บางเรื่องมันก็ประคับประคองไม่ได้ก็ต้องปล่อยไป มันแตกต่างกันทุกอย่างค่ะ คือหญิงว่าคนสองคนบางทีเชื้อชาติเดียวกัน ภาษาเดียวกันก็ยังไม่เข้าใจกัน แต่อันนี้อยู่คนละเชื้อชาติ อยู่กันคนละที่ รู้สึกว่ามันยากเกินไป ก็เลยจบดีกว่า”
“แต่ก็จบกันด้วยดีนะคะ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ก็ไม่ได้เข็ดหนุ่มฝรั่งนะคะ คือจริงๆ เขาเป็นคนที่น่ารัก ค่อนข้างเข้าใจในมุมที่เป็นเรา คือไม่ค่อยจุกจิก แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็มีส่วนที่เข้ากันไม่ได้หลายอย่างเหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องของวัฒนธรรม เรื่องของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คือคนไทยเราจะเป็นอย่างนั้นไงคะ แต่เขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง”
“หญิงไม่ได้เข็ดกับความรักนะ ก็ยังเปิดอยู่ มันเป็นเรื่องของเวลาแหละ ตอนนี้วันๆ ก็เอาแต่ทำรายงานแล้วก็เรียน แล้วก็มาเจอเพื่อน ซึ่งเพื่อนก็เป็นผู้หญิงหมด แล้วเพื่อนหญิงก็ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายด้วย เลยแนะนำกันไม่ได้(หัวเราะ) แม่เขาก็ห่วงว่าเราจะไม่มีแฟน เพราะเราก็อายุมากแล้ว ก็ไม่มีใครมาแนะนำนะคะ แม่วันๆ ก็ตำแต่ส้มตำไม่ค่อยได้ออกไปไหน ดูแลธุรกิจอยู่”
บอกตอนนี้กำลังมุ่งเรียนปริญญาโทหวังให้จบภายในปีนี้ และจะนำสิ่งที่เรียนมาขยายแบรนด์ธุรกิจร้านส้มตำที่ทำอยู่กับ “แม่น้อย โพธิ์งาม”
“ตอนนี้หญิงกำลังศึกษาปริญญาโทที่ม.กรุงเทพ คณะนิเทศฯ พยายามจะให้จบภายในสิ้นปีนี้ แต่คงไม่ต่อปริญญาเอกหรอกค่ะ ยากไป คือใจน่ะอยากนะ แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเราเก่งหรือว่าฉลาดพอหรือเปล่า คือหญิงรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ อย่างตอนที่จบตรีก็ไม่ได้นึกว่าจะเรียนโท มันเป็นเรื่องของไทม์มิ่ง เป็นเรื่องของความคิดค่ะ พอเรียนโทก็เคยมีอาจารย์ถามเหมือนกันว่า ทำไมไม่ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ เขาก็บอกเก็บไว้ทำตอนปริญญาเอกสิ หญิงว่าก็คงไม่เอาดีกว่า มันยากไป”
“ตอนนี้ก็ทำธุรกิจกับคุณแม่อยู่ค่ะ เอาที่เราเรียนมาขยายแบรนด์ เพราะตอนนี้เรื่องของ SME มันฮอตมาก และส้มตำของคุณแม่มันเป็นอะไรที่ยังไงคนไทยก็กิน ถ้าเราสามารถขยายแบรนด์ได้ มันก็สามารถเป็นอะไรที่น่าจะเห็นตัวเงิน”
ที่มา: manager.co.th
