“ปุ๊กลุก” วอนอย่ามองเป็นลูกรักเจ้าแม่ 7 สี เพราะกลัวคนหมั่นไส้ เผย “อั้ม” เป็นไอดอลอยากเจริญรอยดังตาม รับเล่นละครคู่ “วี” คงทำให้สนิทกันมากขึ้น แต่คงหยุดไว้แค่ความเป็นพี่น้อง ขอมุงานก่อนคิดเรื่องความรัก
เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดของช่อง 7 สีตอนนี้ สำหรับมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปีล่าสุดอย่าง “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” เพราะหลังกลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์สไม่ทันไร เจ้าแม่ 7 สี “แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ก็จับลงละครฟอร์มยักษ์เรื่อง “ทวิภพ” ทันที ทั้งยังมีละครใหม่จ่อคิวรออยู่อีกเรื่อง
งานนี้ “ปุ๊กลุก” เลยหนีไม่พ้นข้อหาเป็นลูกรักของ “คุณแดง” ไปแล้ว เพราะขนาดนางงามรุ่นพี่อย่าง “ไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช” ที่อยู่มาก่อนร่วม 2 ปี ยังไม่มีงานละครแม้แต่เรื่องเดียวโผล่มาให้เห็น สำหรับประเด็นนี้ “ปุ๊กลุก” วอนอย่ามองตนเป็นลูกรัก เพราะไม่อยากโดนคนหมั่นไส้
“ก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นลูกรักนะคะ เพราะตัวคุณแดงก็มอบหมายงาน และมอบหมายละครหลายๆ อย่างๆ ให้กับพี่ๆ ทุกๆ คนในช่อง รวมถึงตัวปุ๊กลุกเองที่เข้ามาใหม่ ก็ไม่อยากให้มองแบบนั้น เพราะจะทำให้คนอื่นหมั่นไส้เรา ปุ๊กลุกเชื่อว่ามันเป็นช่วงเวลาของเรามากกว่า ที่พอดีว่าก้าวเข้ามาตรงนี้ โดยเขียนในใบสมัครว่าอยากเป็นนักแสดง เราชอบร้องเพลง ชอบเต้น ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสตรงนี้มากกว่าที่ผู้ใหญ่เห็นว่า เราน่าจะทำได้”
“แต่ถ้าจะเอาไปเปรียบเทียบกับพี่ไข่มุก จริงๆ ปุ๊กลุกก็ยังไม่มีงานพิธีกรเหมือนกัน คือด้วยความที่เรามีความถนัดคนละอย่าง พี่ไข่มุกเหมาะที่จะเป็นพิธีกร แต่เราเชื่อว่าทุกๆ คนถ้ามีโอกาสก็มีโอกาสที่จะเดินต่อไป ไม่อยากให้มาตัดสินว่าเราได้อันนี้ แต่ทำไมคนนี้ไม่ได้ แล้วก็ความถนัดของแต่ละคนแตกต่างกัน เราก็เลือกทำงานในสิ่งที่ตนถนัดดีกว่า”
“ปกติกับพี่ไข่มุกเราจะเจอกันตามงานอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็จะเชิญรุ่นพี่ไป เป็นพี่กวาง (ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม) พี่ไข่มุก เป็นปุ๊กลุกอยู่แล้ว เราก็คุยกัน คือข่าวเกาเหลามันเริ่มตั้งแต่พี่กวางกับพี่ไข่มุกก่อน และมากลายเป็นปุ๊กลุกกับพี่ไข่มุก ซึ่งมันคงเป็นแค่กระแสข่าว แต่ตัวเราเองก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ให้กำลังใจแล้วก็ไม่มีมาเคลียร์ปัญหากัน จะเป็นการให้กำลังใจแบบช่างมันเถอะเป็นแค่ข่าว เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมค่ะยืนยัน และก็จะคอยเทรนน้องๆ รุ่นต่อไปด้วยกัน”
ยอมรับบทบาทในละครเรื่อง “ทวิภพ” ขัดกับบุคลิกจริง มองเป็นความท้าทายที่ต้องทำให้คนดูเชื่อให้ได้ เปรยอยากเดินตามรอยรุ่นพี่ซูเปอร์สตาร์อย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เพราะเป็นไอดอลในใจ
“เรื่องนี้รับบทเป็นแม่ประยงค์ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย แล้วก็เป็นผู้หญิงหัวอ่อน สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกนะคะ เต็มที่มากๆ และถึงแม้ว่าคาแรคเตอร์จะค่อนข้างพลิกบทบาทพอสมควร แต่ก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด และจะไม่ทำให้คนที่ติดตามผลงานของเราผิดหวังค่ะ ถามว่าอึดอัดเพราะขัดกับตัวเองไหม มันก็ไม่ถึงกับอึดอัดนะคะ แต่มันเป็นความท้าทายซึ่งเราต้องตีบทให้แตก คนที่ดูเราเป็นแม่ประยงค์จะต้องเชื่อว่าเราคือแม่ประยงค์ ไม่ได้คิดว่าเราเป็นฝนทิพย์ ก็ค่อนข้างยากพอสมควร”
“แต่เชื่อว่าคนเป็นนักแสดงจะต้องสามารถเปลี่ยนได้ทุกบทบาท รวมถึงปุ๊กลุกเชื่อว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทาย แล้วก็เชื่อว่าเราสามารถทำได้เมื่อสวมบทบาทแล้ว คือถ้าเราสามารถผ่านอันนี้ไปได้ เชื่อว่าบทอื่นๆ มันจะง่ายมากขึ้น ซึ่งตอนที่ลองไปเทสต์ผู้กำกับก็บอกว่า น่าจะพัฒนาได้อีกเยอะ แล้วก็บอกว่าเรามีพื้นฐานที่พอได้แล้ว เดี๋ยวจะเทรนเพิ่มให้อีก ก็เชื่อว่าประมาณ 3 ตอนก็น่าจะเริ่มรอดแล้ว”
“แต่เรื่องเล่นแข็งคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของนักแสดงใหม่ คือทุกคนไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่แรก แต่เชื่อว่าถ้าเกิดได้รับโอกาสดีๆ และเราทำการบ้านรวมถึงฝึกฝน ก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วยค่ะ แต่ปุ๊กลุกยังไม่มีโอกาสได้ขอคำแนะนำ หรือคุยกับพี่ๆ คนอื่นเลย แต่ว่าก็มีโอกาสได้คุยกับพี่ที่ช่อง ถามพี่เอมมี่ มรกตว่าการแสดงเป็นยังไง พี่เขาก็แนะนำมา”
“แต่ที่ชอบมากคือพี่อั้ม พัชราภา พี่เขาเป็นไอดอล ก็เชื่อว่าพี่อั้มเป็นผู้หญิงที่เดินไปในจุดที่สูงสุด และเดินไปได้ไกลมากเป็นซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ก็ชอบพี่อั้มค่ะ แล้วก็อยากจะเดินตาม หมายถึงว่าเรามีพี่เขาเป็นแนวทางค่ะ”
เผยผลงานละครเรื่องต่อไป ต้องเล่นประกบคู่พระเอกหนุ่ม “วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์” ที่มีข่าวอยู่ด้วยกันตอนนี้ รับคงทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น แต่ยันไม่มีอะไรเกินไปกว่าความเป็นพี่น้อง
“งานต่อจากนี้ก็จะมีละครอีกเรื่องนึง เรื่อง คุณพ่อหวานแหวว จะฟิตติ้งวันที่ 29 กันยายนนี้ และจะเปิดกล้องวันที่ 30 ค่ะ ก็เล่นกับพี่วี ถามว่ากลัวจะเป็นข่าวไหม ก็ด้วยความที่เรามีข่าวกับพี่วีมาโดยตลอด ซึ่งมันก็คงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้แล้ว แต่เชื่อว่าหลังจากนี้พอได้ร่วมงานกัน น่าจะมีอะไรที่เปิดกว้างมากขึ้น และคนจะเข้าใจมากขึ้นว่า เราคุยกันในเรื่องการงาน และอยากให้คนมองเราที่ผลงานมากกว่าเรื่องความรัก”
“โอกาสพัฒนากับพี่วี ยังไงแล้วก็อยู่ในเรื่องของการทำงาน แต่ว่าจะสนิทกันมากขึ้นไหม ก็การทำงานด้วยกันมันเป็นไปได้อยู่แล้วที่เราจะมีโอกาสได้คุยกันและสนิทกัน แต่ยังไงก็อยากยืนยันว่าอยากทำงาน แล้วก็ยังขอเป็นพี่น้องกันแบบนี้ดีกว่า เพื่องานระยะยาวของเราในการร่วมงานกัน แต่ไม่ได้ปิดกั้นหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่เราอายุยังน้อยอยู่ และเพิ่งเข้าวงการมาใหม่ ก็ยังอยากจะโฟกัสไปที่งานมากกว่าเรื่องความรัก”
“ถ้าวันนึงพี่วีมาจีบ ปุ๊กลุกก็ยังยืนยันว่าอยากทำงาน แล้วก็เป็นพี่น้องเพื่อผลงานระยะยาว ถ้าเกิดเป็นพี่น้องกันไม่ว่ายังไงก็สามารถร่วมงานกันได้ เพราะฉะนั้นเราขอมิตรภาพระยะยาวดีกว่าค่ะ คือถ้าเกิดเราเป็นแฟนกันวันนึงเลิกกัน มันจะเข้าหน้ากันไม่ติด ทำงานด้วยกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราอยู่ยาวๆ อยู่นาน แล้วเราก็ทำงานกับใครก็ได้ เป็นพี่น้องกันดีกว่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีแฟนในวงการหรอกค่ะ จะในหรือนอกก็ได้ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลามากกว่า ถ้ามีก็มาถามได้ค่ะ จะบอกเลย”
“ถามว่าเกร็งไหมที่ถูกจับตามองคู่พี่วี ปุ๊กลุกเชื่อว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่เข้ามาในวงการบันเทิง วันนึงทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันจริงหรือไม่จริง ก็คือเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า และพี่วีก็ไม่ได้มาจีบด้วย ด้วยความที่พี่เขาเป็นคนพูดขำๆ สนุกๆ อยู่แล้ว ส่วนผู้ใหญ่ก็ไม่มีสั่งห้ามไม่ให้คบค่ะ เหมือนผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เรามีสิทธิเสรีภาพในความคิด และเหมือนผู้ใหญ่ไว้ใจในตัวเราว่า ค่อนข้างโฟกัสไปที่เรื่องงานก่อนค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
