Author Topic: “หนุ่ม” ปัดเป็นต้นตอแฉ “ฟิล์ม” ทำ “แอนนี่” ท้อง พร้อมยันไม่ใช่พ่อ “น้องทีฆายุ”  (Read 1105 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



“หนุ่ม” ออกโรงปฏิเสธเอาเรื่อง “ฟิล์ม” มีลูกกับ “แอนนี่” ออกมาแฉ แจงทราบข่าวจากทวิตเตอร์เลยมาสอบถาม “มดดำ” ยันไม่รู้เรื่องทั้งคู่กิ๊กกันในกองถ่าย พร้อมปัดมีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับฝ่ายหญิง หลังถูกตั้งข้อสังเกตอาจเป็นพ่อของ “น้องทีฆายุ” วอนเลิกเมาท์ เพราะทำ “แอนนี่” เสียหายถูกมองไม่ดี เผย ดาราสาวเข้มแข็งขึ้นแล้ว ทั้งยังแนะนักร้องหนุ่มให้ใจเย็นๆ คิดหาทางออก เชื่อได้กลับคืนวงการ
       
       อยู่ดีๆ นักแสดง-พิธีกรหนุ่ม “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ก็มีงานเข้า หลังโดนข้อครหาว่า เป็นต้นตอปล่อยข่าวกรณีนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ทำนักแสดงสาว “แอนนี่ บรู๊ค” ท้อง จนคลอดลูกชาย “น้องทีฆายุ” ออกมา โดยหลังจากเจ้าตัวทราบเรื่องเลยไปบอกดีเจจอมแฉ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” ให้ป่าวประกาศจนออกมาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ซึ่งเรื่องนี้ “หนุ่ม กรรชัย” ได้ขอออกมาเคลียร์ตัวเอง แจงว่า ตนทราบข่าวจากทางทวิตเตอร์เลยโทร.ไปสอบถาม “มดดำ” เท่านั้น
       
       “ส่วนตัวผมก็สนิทกับฟิล์มประมาณหนึ่ง ก็รู้จักกันในกองด้วย และก็รู้จักกันมานานมากแล้ว แต่ที่บอกว่าผมแฉไม่จริงครับ ไม่ได้แฉ แต่ผมเห็นข่าวในทวิตเตอร์ ว่า มีนักร้องอักษรย่อ ฟ ไปทำนักแสดงในละครเรื่อง ปีศาจแสนกล ท้อง คือ แค่นั้นเองที่ได้อ่าน อ่านเสร็จเลยโทร.ไปหามดดำ บอกมดดำจริงหรือเปล่าแค่นั้นเอง ถ้าบอกว่านั่นเป็นสาเหตุที่ผมเอาไปเล่าให้มดดำฟังแล้วเอาออกมาแฉคงไม่ใช่ครับ คงไม่ถึงขนาดนั้น”
       
       “คือ ในทวิตเตอร์มีกระแสข่าวส่งมา ผมก็จะอ่านตลอดอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง ผมปฏิเสธโดยสิ้นเชิงได้เรื่องที่จะออกมาแฉอะไร เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน ผมไม่เกี่ยวอยู่แล้วครับ ซึ่งในกองละครผมไม่ทราบจริงๆ ว่า เขาจะอะไรกัน เพราะตัวผมจะมีโลกส่วนตัวสูง ผมจะอยู่บนรถตู้อย่างเดียว ไม่ค่อยจะออกมาสุงสิง แต่ว่าพอมีคิวถ่ายลงมา ก็จะมาเล่นสนุกสนานกันบ้าง แต่พอถึงช่วงพักไม่มีผมต้องเข้าฉาก ผมก็จะไปนอนบนรถตู้”
       
       ไม่เพียงเท่านี้ “หนุ่ม กรรชัย” ยังโดนลากไปเอี่ยว ถูกสงสัยเป็นพ่อของลูกชาย “แอนนี่” เนื่องจาก “น้องทีฆายุ” มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงพิธีกรหนุ่มเช่นกัน
       
       “กับประเด็นนี้ผมขอเรียนตรงๆ เลยว่า มีหลายคนมาถามผมแบบนี้ ซึ่งผมก็คงต้องบอกว่าอย่าถามคำถามนี้กับผมเลย เพราะการถามคำถามนี้ มันเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติน้องเขา และผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมไม่เคยมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแอนนี่ ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นไม่ใช่อยู่แล้ว น้องทีฆายุ ไม่ใช่ทายาทผมแน่นอน และไม่อยากให้ใครมาถามอะไรแบบนี้ เพราะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าผู้หญิงไม่ดีหรือเปล่า ซึ่งมันไม่ดีครับ และมันก็ไม่จริงเลย ผมดูแล้วน้องไม่เห็นหน้าเหมือนผมเลย ไม่เหมือนหรอกจะเหมือนได้ยังไง ไม่เหมือนไม่เหมือน ถึงบอกไงมีคนส่งเสื้อมาให้ชอบมากเลยเขียนว่า อะไรๆ ก็กู แต่ผมก็ชอบนะเด็กน่ารักดี จริงๆ ผมก็อยากมี”
       
       “ถามว่า เครียดไหมโดนข่าวแบบนี้ ก็มีคนส่งเสื้อมาให้ตัวหนึ่ง สกรีนมาให้โดยบอกว่า อะไรๆ ก็กู ผมไม่เครียดหรอกครับก็เข้าใจ เพราะกระแสข่าวก็น่าจะติดไปด้วยอยู่แล้ว หนึ่งคือผมเล่นละครเรื่องนั้นด้วย อีกอย่างคือผมก็มีประวัติที่ไม่ค่อยดีนัก คือไม่ค่อยดีเลย เรียกว่าเป็นสีดำเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง ก็เป็นสิทธิ์ที่หลายๆ คนจะมอง แต่จะบอกว่าไม่ใช่ผม ผมไม่เคยมีอะไรกับน้องเขา ไม่เคยคบกันแบบชู้สาว คือเขาเหมือนเป็นน้องคนหนึ่ง ส่วนฟิล์มก็เป็นน้องคนหนึ่ง”
       
       “เรื่องนี้ส่งผลถึงเราไหม ไม่ส่งผลหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าประชาชนก็คงจะเข้าใจอยู่แล้วว่า อะไรมันคืออะไร มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และตัวคุณเมย์ (เฟื่องอารมย์) ก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่เขาก็บอกว่าจริงๆ แล้วไม่น่าจะมีข่าวแบบนี้ สงสารผู้หญิง มันกลายเป็นว่าอยู่ดีๆ ทำไมถึงเบี่ยงประเด็นแบบนี้ไปได้ ซึ่งจริงๆ มันไม่ถูกเรื่องครับ”
       
       งดแสดงความคิดเห็นการตรวจดีเอ็นเอเป็นทางออกที่ดีที่สุด บอกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
       
       “คือ ถ้าถามผมแบบนี้ก็ไม่รู้จะตอบยังไงนะ ถ้ามองในมุมของผู้ใหญ่ทางฝ่ายคุณฟิล์ม หรือความสบายใจของประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ ผมว่าน่าจะมีการตรวจ แต่ถ้ามองในมุมของน้องแอนนี่ ผมก็มองว่าเขาอาจจะเป็นผู้หญิง และอยู่ดีๆ การที่จะมานั่งตรวจดีเอ็นเอ อาจจะเป็นประเด็นที่ว่า ตัวเขาเองก็ต้องออกมายอมรับว่า อ๋อ....ฉันเองก็ไม่ได้มีฟิล์มคนเดียวในช่วงนั้น เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมเข้าใจคนทั้งสองคน ดังนั้นมันแล้วแต่มุมมองของคนที่จะมองมากกว่า”
       
       “แต่ตอนนี้ผมว่าน่าจะเป็นห่วงที่ตัวเด็กมากกว่าครับ เขาก็น่าสงสาร แต่เรื่องตรวจดีเอ็นเอผมไม่กล้าพูดว่า จะให้แอนนี่มาตรวจขนาดนั้นหรอกครับ เพราะเขาอาจจะคิดลึกกว่าเราก็ได้ เขาเป็นผู้หญิงเรื่องความละเอียดอ่อนน่าจะมีมากกว่า ถ้าผมพูดมันคงจะไม่ดี ผมเชื่อว่าในเวลานี้ประชาชนที่ติดตามข่าวนี้ น่าจะเป็นผู้ตัดสินได้ดีกว่า สุดท้ายแล้วจะมีหรือไม่มีการตรวจ ประชาชนก็เป็นฝ่ายที่เรียกร้องหรือขอเองมากกว่า”
       
       เผยทั้งคู่ไม่ได้มาปรึกษาอะไร แต่ได้แนะ “ฟิล์ม” ให้ใจเย็นๆ ค่อยคิดหาทางออก พร้อมบอก “แอนนี่” เข้มแข็งขึ้นแล้ว
       
       “ถ้าถามว่าผมมีให้คำปรึกษาทั้งคู่ไหม ตัวผมคงไม่ถึงขนาดให้คำปรึกษานะครับ แต่ถ้าถามว่าให้กำลังใจไหม ก็ให้กำลังใจ เพราะว่าเขาก็เป็นน้องผมทั้งคู่ เป็นน้องที่น่ารักและก็ดีด้วย นี่ก็เพิ่งดูคุณฟิล์มแถลงข่าวไป ก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน สงสารเขาเหมือนกัน ผมไม่เคยเห็นคุณฟิล์ม......ขอโทษนะครับ ไม่เคยเห็นฟิล์มโทรมขนาดนี้มาก่อน เพราะธรรมดาแล้วเขาจะมากองถ่าย ไม่แต่งหน้ามาก็ไม่โทรม แต่วันนี้ผมเห็นแล้วตกใจมาก ว่า ฟิล์มขนาดนี้เลยเหรอ ก็เป็นห่วงเขาจริงๆ”
       
       “กับแอนนี่ ผมก็มีบีบีคุยกันบ้าง ก็รู้สึกว่า น้องเขาจะเข้มแข็งขึ้นแล้ว ก็เป็นกำลังใจให้เขาอยู่แล้ว ก็บอกว่าเป็นกำลังใจให้นะ กับฟิล์มผมก็มีคุยบ้าง ฟิล์มเขาก็เครียด ผมก็บอกว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ หาทางออก หาวิธีว่าเราจะแก้ไขยังไงกันต่อไป แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเข้าใจทั้งสองคนครับ”
       
       พร้อมฝากบอกประชาชนที่เสพข่าว เรื่องยังไม่จบอย่าเพิ่งตีความ หรือด่วนตัดสิน ทั้งยังให้กำลังใจ “ฟิล์ม-แอนนี่” เชื่อนักร้องหนุ่มจะได้กลับคืนสู่วงการ
       
       "คือ ผมพูดฐานะที่เป็นกลาง คือ เรื่องนี้ยังไม่ได้ถูกสรุปออกมา อย่าเพิ่งเอาไปตีความว่า สรุปแล้วต้องเป็นแบบนั้นต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่าถ้าผลมันออกมาแล้วมันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด คนที่เสียที่สุดไม่ใช่ตัวคุณ แต่เป็นคนที่คุณด่าเขาไปแล้ว คนไทยต้องมีความยุติธรรมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่เราจะมองอะไรมันต้องมองลึกๆ แล้วก็อดใจรอเหตุการณ์ที่มันจะเกิดขึ้นว่า ต่อไปมันจะเป็นยังไง อย่าเพิ่งไปตัดสินเขา มันต้องรอให้ถึงที่สุดก่อน ถึงจะได้รู้ว่าอะไรมันคืออะไร อย่าเพิ่งไปตีความกันเอง”
       
       “และก็อยากจะฝากบอกทั้งสองคน ว่า เป็นกำลังใจให้ทั้งฟิล์มและแอนนี่ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็เป็นน้องพี่ทั้งคู่แล้วกัน และพี่ก็เป็นกำลังใจให้ และเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องผ่านไปได้ และพี่เชื่อว่าฟิล์มต้องกลับมา เพราะพี่ดูใครที่สุดท้ายแล้วว่ามันจะต้องอยู่ได้อีกนาน พี่ก็มั่นใจว่าฟิล์มต้องกลับมา ก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ ส่วนแอนนี่พี่ก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคงจะมีสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตแอนนี่เหมือนกัน”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)