ซินเน็ค เสริมทัพสินค้า "โน้ตบุ๊กโตชิบา-ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ กรุยทางหนุนธุรกิจครึ่งปีหลังโตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับธุรกิจโต-บริการหลังการขาย เผยครึ่งปีแรกยอดขายสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 15% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ธุรกิจในครึ่งปีหลังมีการเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมการทำตลาด โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน้ตบุ๊ก โตชิบา และผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เกือบครบทุกไลน์ของเอเซอร์ ทั้งจอภาพแอลซีดี มอนิเตอร์ , เครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ยกเว้นคอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือโน้ตบุ๊ก ซึ่งมองว่าในช่วงประมาณปลายไตรมาส 3-4 นั้นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และเปิดตัวสินค้าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ จากซีเกท ซึ่งจะช่วยทำให้ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังจะมีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และการให้บริการลูกค้าต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้มีการลงทุนระบบการให้บริการฝึกอบรมให้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนต์ สำหรับการประชุมทางไกลร่วมกับดีลเลอร์ และสาขาทั่วประเทศ ระบบสื่อสาร และระบบให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ก่อนหน้านี้บริษัทได้นำระบบการบริหาร " Global System" มาใช้เชื่อมโยงระบบธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งระบบดังกล่าวมีความสามารถใน การจัดการ ตั้งแต่ระบบบัญชี การวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการบริหารฐานข้อมูลลูกค้าอย่างครบวงจร และ การลงทุนนำระบบ Automation Storage and Retrieval System (ASRS) ซึ่งเป็นระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติที่ใช้ระบบแขนกลอัจฉริยะ (Robot Arm) ที่มีประสิทธิภาพการทำงาน และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมาใช้ในบริษัทเพื่อรองรับธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง"
ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินกิจกรรมในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของคู่ค้า (CRM) ที่สำคัญที่สุดของบริษัทในรอบปีนี้ โดยเปิดกลุ่มลูกค้ารายหลักกว่า 1,300 ราย ได้แก่ กลุ่มลูกค้าเข้างานประมูลเครือข่าย ( SI / VAR) กลุ่มลูกค้ารีเทล (Retail) กลุ่มลูกค้าองค์กร ( Corporate Retailer ) กลุ่มลูกค้าเอวีและโมบาย คอนซูเมอร์ ( AV) กลุ่มเครื่องเขียน (Stationary) กลุ่มโมเดิร์นเทรด ( Modern Trade ) ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด เยี่ยมชมระบบการบริหารงาน และการให้บริการ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายไอที อันดับ 1 ของประเทศไทย และสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายในเรื่องของการให้บริการ
สำหรับการแข่งขันของตลาดไอทีนั้นที่ผ่านมาบริษัทสามารถเข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งมาได้จำนวนมาก ซึ่งถึงวันนี้มองว่าการแข่งขันคงลดลง เพราะมีคู่แข่งที่มีศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทเพียง 2-3 รายเท่านั้น
นายสุพันธุ์ กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดผลประกอบการเติบโต 10-20% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายและถือเป็นสถิติยอดขายสูงสุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา เนื่องจากปลายปีที่แล้ววางกลยุทธ์ขยายตลาดไว้ชัดเจน และมีการลงทุนในส่วนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และการให้บริการ
ที่มา: thannews.th.com