Author Topic: ไทยคมยันทำธุรกิจ ยึดสัญญาสัมปทาน  (Read 956 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

ไทยคมยันทำธุรกิจดาวเทียมถูกต้อง เล็งย้ายไทยคม 2 รักษาสิทธิต่อไอทียู ก่อนยิงออกนอกวงโคจร ขณะที่ไอซีทีเรียกทีมกฎหมายตรวจสัญญา 17 ส.ค.

ไทยคมยันทำธุรกิจดาวเทียมถูกต้อง เล็งย้ายไทยคม 2 จองวงโคจร 50.5 องศาตะวันออกรักษาสิทธิต่อไอทียู ก่อนยิงออกนอกวงโคจร พร้อมศึกษาแนวทางสร้างดาวเทียมใหม่เสริมไทยคม 5 "จุติ" เรียกทีมกฎหมายหารือผลสรุปสัมปทานดาวเทียมอีกครั้ง 17 ส.ค.

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม กล่าวว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่รับคำอุทธรณ์ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มูลค่า 46,000 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมา การดำเนินงานทุกอย่างได้ผ่านความเห็นชอบของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) แล้ว ถือเป็นการรับรองได้ว่าไทยคมทำถูกต้องตามกฎหมาย และสัญญาสัมปทานร่วมการงาน

ส่วนการที่คณะกรรมการตามมาตร 22 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนได้ส่งข้อสรุปการแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ให้ไทยคมต้องปฏิบัติตาม 3 เรื่อง คือ เพิ่มสัดส่วนหุ้นของ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จาก 40% เป็น 51% จ่ายค่าสินไหมทดแทนดาวเทียมไทยคม 3 มูลค่า 6.7 ล้านดอลลาร์ และให้ยิงดาวเทียมสำรองไทยคม 3 แทนไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ทั้ง 3 เรื่องผ่านความเห็นชอบของ ครม. และการตีความอัยการสูงสุดแล้ว ระบุให้สิทธิไทยคมเป็นผู้ดำเนินการได้เลย

"ผมเห็นใจข้าราชการประจำของกระทรวงที่อยู่มาตั้งแต่สมัยนั้น และก็รู้ว่าไทยคมไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ไม่มีมูลค่าความเสียหายด้วย ซึ่งจะคิดความเสียหายก็ต้องระบุมาเลยเสียหายจากส่วนใด แต่เมื่อคณะกรรมการมาตร 22 สรุปผลมาแล้วที่แก้ไข 3 ข้อนี้ ผมก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่เคยทำอะไรให้ประเทศเสียหาย และไม่เคยผิดสัญญาแม้แต่ข้อเดียว"

ปัจจุบันไทยคมมีดาวเทียมให้บริการ 2 ดวง คือ ไทยคม 4 ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) และไทยคม 5 ที่เป็นดาวเทียมคอนเวนชั่นแนลให้บริการบรอดแคสต์ ขณะที่มีวงโคจรดาวเทียมอยู่ 3 สล็อต คือ โดยไทยคม 5 ให้บริการอยู่ที่ 78.5 องศาตะวันออก ไทยคม 4 ให้บริการอยู่ที่ 120 องศาตะวันออก ส่วนวงโคจร 50.5 องศาตะวันออกยังว่าง บริษัทจึงลากไทยคม 2 ไปไว้ในวงโคจรดังกล่าว เพื่อรักษาสิทธิการครอบครองต่อสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ซึ่งมีอายุ 2 ปี จากนั้นอีก 2 เดือนจะยิงสู่ชั้นบรรยากาศ

"หลังจากนี้ ไอซีทีต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะปล่อยทิ้ง หรือสร้างดาวเทียมดวงใหม่มาให้บริการ ซึ่งในเชิงพาณิชย์นั้น 50.5 เป็นตำแหน่งที่ดีมากสามารถให้บริการครอบคลุมตะวันออกกลาง และแอฟริกา"

ส่วนไทยคม 5 มีปริมาณการรองรับการใช้งาน (คาปาซิตี้) เหลือ 20% คาดว่าจะให้บริการได้เพียง 1 ปีกว่า บริษัทต้องพิจารณาว่าจะสร้างดาวเทียมดวงใหม่หรือไม่ ซึ่งอาจสร้างดาวเทียมคอนเวนชั่นแนลใหม่อีก 1 ดวงให้บริการคู่ขนานไทยคม 5 เงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ ที่วงโคจร 50.5 องศาตะวันออก แต่ต้องหารือกับไอซีทีก่อน

นายธนฑิต เจริญจันทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานการเงินและบัญชีไทยคม กล่าวว่า รายได้จากการขายและการให้บริการครึ่งแรกของปี 2553 มี 3,430 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจบริการดาวเทียมและเกี่ยวเนื่องเพิ่มขึ้น 9.1% และธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อเติบโต 26.5% แต่ไทยคมมีผลขาดทุนสุทธิ 151 ล้านบาท แต่ช่วง 6 เดือนที่เหลือคาดว่าผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไร โดยเชื่อว่าจะมีรายได้จากบางประเทศเข้ามา

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า วันอังคารที่ 17 ส.ค.จะเรียกทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายเข้าหารือเรื่องการตรวจสอบสัญญาสัมปทานดาวเทียม และโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปพร้อมๆ กัน เพื่อสรุปผลการตรวจสอบสัญญาที่คณะกรรมการมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน และคณะทำงานคู่ขนาน

ทั้งนี้ วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ครม. ยังไม่ได้พิจารณานำดาวเทียมไทยคม 2 แต่มอบหมายให้สำนักเลขาธิการ ครม.พิจารณาประเด็นแง่กฎหมายด้านอื่นให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนนำเสนอรับทราบอีกครั้งหนึ่งวันจันทร์ 16 ส.ค.นี้

อย่างไรก็ดี ไอซีที ได้รายงาน ครม.ให้รับทราบว่าได้ต่ออายุการเป็นสมาชิกไอทียูแล้ว และการแข่งขันของประเทศสมาชิกรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงขอให้กระทรวงต่างประเทศมาเป็นเจ้าภาพร่วม และขอความร่วมมือนายกรัฐมนตรีเข้าช่วย

ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)