Author Topic: อนาคตอุตฯ ฮาร์ดดิสก์ไทยสดใส ยอดส่งออกปีละ 5 แสนล้านบาท  (Read 964 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


เล็งประสานความร่วมมือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ยกระดับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟไทย ล่าสุด พระจอมเกล้าลาดกระบัง จับมือ สวทช. จัดประชุมนานาชาติและนิทรรศการฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เอ็กซ์โป 2010 ขยายการลงทุนในไทย...

เมื่อเร็วๆ นี้ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานงานประชุมวิชาการนานาชาติ และงานนิทรรศการฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เอ็กซ์โป 2010 (HDD Expo 2010) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในประเทศไทยกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีการจ้างแรงงานมากกว่า 2 แสนคน จากปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญทางเศรษฐกิจ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน ต้นทุนแรงงานที่แข่งขันได้ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทำให้สามารถดึงดูดผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายสำคัญจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ประกอบกับปี 2542-2549 ที่ผ่านมา ปริมาณความต้องการฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และชิ้นส่วนในประเทศไทยขยายตัว และกลายเป็นประเทศที่ส่งออกฮาร์ดิสก์ไดรฟ์อันดับหนึ่งของโลก

กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงร่วมกับภาคเอกชนและภาคการศึกษา จัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ภายได้ความรับผิดชอบของสถาบันฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDDI) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และจัดกิจกรรมยกระดับความเข้มแข็งทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และชิ้นส่วนในประเทศไทย อาทิ การวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีต้นน้ำในอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ การส่งเสริมผู้ประกอบการไทย การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมฯ การให้ทุนนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญเอก รวมถึง การให้ทุนพนักงานในอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาโท

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งเครือข่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี หรือ ศูนย์วิจัยร่วมเฉพาะทาง ร่วมกับมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รวมทั้ง โครงการยกระดับความสามารถทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ (ส่วนของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2550 โดยมอบหมายให้ สวทช. เป็นผู้รับผิดชอบนำโครงการฯ และปฏิบัติร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาขยายการลงทุนในประเทศไทยสู่ระดับการแข่งขันร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผอ.สวทช. กล่าวว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า สถาบันฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์วางแผนสนับสนุนและยกระดับความเข้มแข็งให้การวิจัยขั้นสูง การพัฒนาเทคโนโลยีต้นน้ำในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ การเชิญชวนให้มีการแลกเปลี่ยนกิจกรรมด้านการวิจัยขั้นสูงและการพัฒนามากขึ้นในประเทศไทย เช่นเดียวกับการลงทุนด้านเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยและผู้ผลิตริเริ่มพัฒนาการวิจัยขั้นสูงร่วมกันกว่า 10 ผลงาน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ทิศทางการวิจัยและการพัฒนาขั้นสูง เชื่อว่า การจัดงานฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เอ็กซ์โป 2010 ครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักวิจัยและพนักงานของบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ รวมถึง หน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการขนาดย่อม และผู้สนใจทั่วไป ทั้งยังแสดงถึงความร่วมมือและกลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มการเติบโตและเฟื่องฟูต่อไปในอนาคต

นายกิตติ ตีรเศรษฐ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการส่งออกกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี จึงจำเป็นต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ โดยตลอดระยะ 4 ปีที่ผ่านมา มีความร่วมมืออย่างมากระหว่าง มหาวิทยาลัย สวทช. และภาคอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ร่วมกันผลักดันและพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถมุ่งสู่ระดับต้นน้ำ อาทิ ความร่วมมือในการพัฒนาและผลิตบุคลากรทุกระดับ เพื่อตอบสนองภาคอุตสาหกรรม ความร่วมมือด้านการวิจัย และความร่วมมือพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยี


ที่มา: thairath.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)