เมื่อกระแสความนิยม "แอร์การ์ด" พุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายกระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้ รวมถึงการทำตลาดของยักษ์ใหญ่ต่างๆ ส่งผลให้ "แอร์การ์ด" แบรนด์ไทยที่ต้องการเติบโตต้องหาจุดแข็งให้กับการทำตลาดของตนเอง รวมถึงกำจัดจุดอ่อนที่เกิดขึ้น
หนึ่งในแอร์การ์ดสัญชาติไทยที่กระโดดเข้าสู่ตลาดแอร์การ์ด คือ แบรนด์ไอฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นของคนไทยแท้ๆ กำลังขอพิสูจน์การทำตลาดแอร์การ์ดว่ามีดีพอที่จะเติบโตในตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน
"เรารู้จุดอ่อนในการทำตลาดแอร์การ์ด" อมรศักดิ์ แดงแสงทอง รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแอร์การ์ด 3G แบรนด์ไอฟ็อกซ์ กล่าว
จุดหนึ่งที่สามารถสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ไอฟ็อกซ์สามารถเดินหน้าและเติบโตในตลาดแอร์การ์ดได้คือยอดขายในครึ่งแรกของปี 2553 ไอฟ็อกซ์มียอดขายสูงถึง 40,000 เครื่อง จากปีที่ผ่านมาทั้งปีมียอดขายเพียง 10,000 เครื่องเท่านั้น
เมื่อสภาพตลาดแอร์การ์ดเติบโต เป้าของไอฟ็อกซ์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 1 แสนเครื่องภายในสิ้นปีนี้ เป็นเครื่องการันตีได้ว่าแบรนด์ไทยรายนี้จะสามารถยืนยันในตลาดแข่งขันกับขาใหญ่ในตลาดนี้ได้ด้วยจุดเด่นที่แตกต่าง
อมรศักดิ์ เล่าให้ฟังถึงแนวทางการทำตลาดแอร์การ์ดภายใต้แบรนด์ ไอฟ็อกซ์ ว่า ก่อนหน้านี้ยอดขายส่วนใหญ่ 60-70% อยู่ในต่างจังหวัด เพราะมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตแต่โครงข่ายสายเข้าไปไม่ถึง แต่หลังจากทีโอทีให้บริการ 3จี ตลาดแอร์การ์ดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็เติบโตขึ้นมาจนสัดส่วนปัจจุบันใกล้เคียงกันแล้ว
เมื่อมองถึงจุดขายที่ไอฟ็อกซ์เชื่อมั่นว่า สามารถต่อกรกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาด น่าจะอยู่ตรงที่มีแอร์การ์ดหลากหลายรุ่น รองรับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ตั้งแต่ 2จี 2.75จี และ 3จี โดยออกแบบซอฟต์แวร์ที่ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเลือกใช้เครือข่ายที่ต้องการได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง
ไอฟ็อกซ์จึงวางกลยุทธ์แอร์การ์ด 3จี ให้สามารถใช้งานได้ทั้งซิม 3จี ภายใต้แบรด์ไอฟ็อกซ์เอง รวมทั้งยังแถมซิมของผู้ให้บริการรายอื่นๆ ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานแบรนด์ไอฟ็อกซ์หากอยู่ในพื้นที่บริการ 3จี ก็สามารถใช้งานได้เร็วเต็มประสิทธิภาพ ทั้ง 3.6 เมกะบิตต่อวินาที หรือ 7.2 เมกะบิตต่อวินาที ขึ้นอยู่กับรุ่นของแอร์การ์ดที่เลือกซื้อ แต่ถ้าต้องออกนอกบริเวณก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ซิม 2จี ได้เช่นกัน
นอกจากจุดแข็งทางด้านผลิตภัณฑ์แล้ว จุดแข็งอีกประการหนึ่งของไอฟ็อกซ์ก็คือ ช่องทางจำหน่าย ที่สามารถซื้อหาไอฟ็อกซ์ได้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ก 350 สาขาทั่วประเทศ ร้านตัวแทนจำหน่ายไอทีทั่วไป เพาเวอร์บายและพาวเวอร์มอลล์ รวมถึงโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ให้บริการมือถืออาจมีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านตัวแทนจำหน่ายของตัวเองเท่านั้น
"ปีนี้จะเห็นการรุกตลาดแอร์การ์ดของไอฟ็อกซ์เต็มรูปแบบ ยิ่งถ้าเครือข่าย 3จีสมบูรณ์มากขึ้นนั่นก็เท่ากับว่า ตลาดย่อมมีความต้องการแอร์การ์ดมากขึ้นตามไปด้วย"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดแอร์การ์ดจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามกระแสการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย แต่แบรนด์ไอฟ็อกซ์ก็ยังต้องพึ่งพาให้ทีโอทีต้องขยายเครือข่ายการให้บริการมากขึ้น และจะต้องเกิดผู้ให้บริการ 3จี รายใหม่ในตลาดเมืองไทย จุดนี้จะเป็นการกระตุ้นตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะสามารถทำให้ตลาดแอร์การ์ดก้าวกระโดดไปได้อีกมาก ที่สำคัญมันจะกระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ที่มา: manager.co.th
