ผู้ค้าไอทีรายใหญ่ดิ้นปรับกลยุทธ์พยุงกำไร หลังทิศทางกำลังซื้อทรุดฮวบ เผยการแข่งขันราคารุนแรง ทุกค่ายเล็งระบาย สต๊อกในงาน "คอมมาร์ต" เพื่อทำยอดขายปิดตัวเลขไตรมาสแรก ขณะที่หลายค่ายรุมทึ้งตลาดราชการ "เอสวีโอเอ" เผยไตรมาสแรกสถานการณ์ดีขึ้นหลัง อบต.-อบจ.และโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ทั่วปท.เปิดประมูล
นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงทิศทางตลาดไอทีปีนี้ว่า ขณะนี้ตลาดมีการแข่งขันราคาอย่างรุนแรง เนื่องจากกำลังซื้อในกลุ่มคอร์ปอเรตหดหายไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์ก็ชะลอตัว ตอนนี้ที่มีกำลังซื้อเข้ามาก็คือตลาดงานประมูลราชการ โดยเฉพาะในส่วนของงานประมูลตลาดต่างจังหวัดทั้งในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาก็มีการเปิดประมูลจัดซื้ออย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ทำให้ตลาดกลับมาคึกคัก
โดยมีทั้งกลุ่มอินเตอร์แบรนด์และโลคอลแบรนด์เข้าร่วมงานประมูลกันอย่างคึกคัก โดยบริษัทเอสวีโอเอก็ได้โปรเจ็กต์ในส่วนนี้มาหลายพันตัวทำให้สถานการณ์ดีขึ้น หลังจากที่เมื่อช่วงไตรมาส 4 ต้องชะลอการผลิตเพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้โครงการจัดซื้อต่างๆ ชะลอไปหมด
ในส่วนของตลาดคอนซูเมอร์ หลังจากกำลังซื้อช่วงต้นปีชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งยอดขายในงานคอมเวิลด์ที่ผ่านมาก็ไม่เป็นไปตามเป้า คาดว่าทุกค่ายจะใช้เวทีคอมมาร์ตถล่มราคาระบายสต๊อก เพราะที่ผ่านมาทุกคนแบกสต๊อกกันไว้เยอะตั้งแต่ปลายปี ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งกระตุ้นเพื่อปิดยอดไตรมาสแรก โดยตอนนี้จะเห็นระดับราคาโน้ตบุ๊กของอินเตอร์แบรนด์ลงมาอยู่ที่ระดับ 13,900-14,900 บาท
"ขณะที่ในส่วนของตลาด เน็ตบุ๊กก็จะมีการแข่งขันราคาที่รุนแรงมากขึ้น ผลจากการที่โน้ตบุ๊กมีการปรับลดราคาลงมาทำให้ส่วนต่างระหว่างโน้ตบุ๊กและ เน็ตบุ๊กลดน้อยลง ประกอบกับมีผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ โดดเข้ามาเล่นตลาดนี้มากขึ้น ทุกคนเข้ามาฟันราคา ขณะที่กำไรนิดเดียว"
ในส่วนของเอสวีโอเอปีนี้ไม่ได้คิดถึงการเติบโต ขอแค่รักษาระดับรายได้ไว้เท่าเดิม รวมถึงกำไร เพราะเชื่อว่าอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจและสภาพตลาดเช่นนี้ไปอีก 2-3 ปี ดังนั้นต้องทำให้ธุรกิจมีกำไรอยู่ได้ในระยะยาว ตอนนี้การวางแผนและตั้งงบค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่บนสันนิษฐานที่เลวร้ายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาจะได้รับมือได้
สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 100.5 ล้านบาท ลดลง 66.2 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือ 39.7% โดยรายได้ในส่วนของการขายและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เอสวีโอเอลด 8.3% โดยไตรมาส 4 ต้องชะลอการผลิต
สำหรับบริษัทไอทีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในส่วนบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 122.98 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 139.91 ล้านบาท รวมทั้งบริษัท เมโทรซิสเต็มส์ฯกำไรก็ลดจาก 156.31 ล้านบาท ลงมาอยู่ที่ 137.98 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท เอสไอเอส ดิสทิบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กำไรเพิ่มขึ้นจาก 129.6 ล้านบาท เป็น 206.6 ล้านบาท เพราะปรับแผนเน้นการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง อาทิ ในกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน
ที่มา: matichon.co.th
