9 มี.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกรณีมีข่าวคนใกล้ชิดรัฐมนตรีในรัฐบาลเกี่ยวโยงถึงการกักตุนหน้ากากอนามัยส่งขายต่างประเทศในตลาดมืดสูงกว่าราคาควบคุมที่รัฐบาลกำหนดหลายสิบเท่าตัวนั้น นายเจริญ คันธวงษ์ อดีตส.ส.กทม. และสมาชิกอาวุโส ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นในกลุ่มไลน์ “อดีตส.ส.ปชป. ปี 62" ซึ่งมีสมาชิกรวม 169 คน ที่มีทั้งส.ส.ปัจจุบัน และอดีตส.ส.ของพรรค
ว่า “เรื่องคนใกล้ชิด รมช. กษ คนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องขายหน้ากากอนามัย เป็นการส่งสัญญาญแล้วว่า มีคนไม่เหมาะสมเข้ามาร่วม ครม. เป็นนักการเมืองเลวอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยด่านักการเมืองตอนยึดอำนาจใหม่ๆ ปชป.ต้องเตือนอย่างแรงว่า หาก รมต.เช่นนี้ยังอยู่ในครม. ปชป.ขอลาออกเพราะรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ดังเช่น ปลายรัฐบาลชาติชาย มีแววว่า คนในครม. มีส่วนร่วมสร้างทางด่วน ดอนเมืองโทลเวย์ ผมก็เป็น รมช.เกษตร อยู่ด้วย ท่านชวน หลีกภัย เตือนชาติชายแล้ว ไม่มีอะไร เกิดขึ้น ปชป.ลาออกจาการร่วมรัฐบาล บิ๊กจ๊อดยึดอำนาจต้นปี 2534"
ขณะที่นายอันวา สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรค ได้โพสต์
ข่าว[url=http://board.nickcs.com/go.php?https://www.luxkana.com]luxkana.com ลัคนา-เรื่องดีๆ มีทุกวัน[/url]ของคอลัมนิสต์ เกี่ยวกับแบนเนอร์ข่าว นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องผู้ตรวจการฯให้เสนอนายกฯปลดรมว.พาณิชย์และอธิบดีกรมการค้าภายใน ตามด้วยรูปร.อ.ธรรมนัส ที่พูดตอนแถลงข่าวที่สภาฯตอนเช้าว่า ”หากมีพฤติกรรมกักตุนหน้ากากอนามัยจริง ถือเป็นพฤติกรรมที่ชั่วร้ายที่สุด รับไม่ได้” และข้อความที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เมื่อนับถือโจรเป็นกัลยาณมิตร หากโจรจะขโมยหน้ากากอนามัยไปขาย ก็ธรรมดานี่ครับ ไม่เห็นแปลก สันดานโจรไง!!!”
จากนั้น นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ว่า “ครั้งนี้ควรพิจารณาการร่วมรัฐบาล” เช่นเดียวกับนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ว่า “ความเห็นของ อ.เจริญ ต้องถามเพื่อน ส.ส.ของเราทุกคนว่า เป็นพฤฒิกรรมที่เข้าเงื่อนไข3ข้อของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง ผมขอทบทวนความจำนะครับ 1.รับนโยบายประกันรายได้ 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.มีการทุจริตคอรั่ปชั่น”
ต่อมา นายอันวา ระบุว่า “ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับ
ข่าวluxkana.com ลัคนาคำถามของพี่เทพไทว่า เข้า3เงื่อนไขหรือไม่? ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ผมและเพื่อนสมาชิกเข้าชื่อขอเปิดประชุมใหญ่เพื่อให้สมาชิกมาแสดงความเห็นในปัญหาที่ได้เตรียมเอาไว้มากมายหลายประเด็นทั้ง3เงื่อนไขเลย ซึ่งผมและเพื่อนสมาชิกเห็นว่าหากไม่แก้ไข พรรคคงจะไปไม่รอด แต่หากที่ประชุมเห็นว่าคงไม่เป็นไร ต้องการร่วมรัฐบาลต่อไป ที่ประชุมก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ผมมีเจตนาเช่นนี้ครับ ที่ประชุมเอาไง ผมเอาด้วย”
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพตส์ว่า “ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วครับที่เราคงจะต้องตัดสินใจไม่พายเรือให้โจรนั่งแล้วครับ!” ขณะที่นายสามารถ มะลูลีน อดีตส.ส.กทม. ระบุต่อว่า “วันนั้นถ้าเราไม่ไว้ใจธรรมนัส สักคน เราจะดูดีมากในสายตาประชาชน ยกมือไปแต่หัวใจร้องไห้ พรรค ปชป.ถ้าไม่มีเรื่อง อุดมการณ์ เราจะแข่งกับคนอื่นยากครับ จุดแข็งเราคืออุดมการณ์ ความศรัทธา ที่มีมากกว่าพรรคอื่น”