"อัสซุส" เปิดเกมรุกครึ่งปีหลัง ทุ่ม 100 ล้านตั้งทีมเจาะตลาด "โมเดิร์นเทรด- องค์กร" พร้อมปูพรมส่งสินค้าตอบโจทย์ ทุกช่องทาง ตั้งเป้าขยับมาร์เก็ตแชร์เป็น 11-12% เผย "มวยรอง" แข่งหนัก มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพระบบซัพพลายเชนตั้งแต่ สต๊อกสินค้าถึงหน้าร้าน
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ตลาดคอมพิวเตอร์ในครึ่งปีแรกจะชะลอตัวบ้าง แต่จากกำลังซื้อที่เกิดขึ้นในงานคอมมาร์ตได้ส่งสัญญาณถึงภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ในครึ่งปีหลังว่ายังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการเติบโตของตลาดภาคการศึกษา รวมถึงเทรนด์การใช้งานมัลติมีเดียที่ผลักดันให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีมากขึ้น โดยไอดีซีคาดว่าปีนี้ตลาดโน้ตบุ๊กจะอยู่ที่ประมาณ 1.97 ล้านเครื่อง และพีซีตั้งโต๊ะประมาณ 1 ล้านเครื่อง
จากแนวโน้มดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลัง อัสซุสได้ทุ่มงบฯกิจกรรมการตลาดประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโปรแกรมการตลาดสำหรับดีลเลอร์และลูกค้า การเทรนนิ่ง และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมกับแผนการขยายช่องทางจำหน่ายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์สโตร์ ทั้งบิ๊กซี โลตัส รวมถึงเพาเวอร์มอลล์ เพาเวอร์บาย เนื่องจากอัสซุสยังไม่เคยโฟกัสช่องทางจัดจำหน่ายกลุ่มนี้อย่างจริงจัง และ ที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่องทั้งด้านการขายและสินค้า นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังจะเน้นการขยายตลาดองค์กรมากขึ้น
โดยได้ตั้งทีมงานใหม่ 2 ทีม คือ ทีมที่ ดูแลตลาดโมเดิร์นเทรด กับทีมที่ดูแลตลาด คอร์ปอเรตเพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่อง พร้อมกับมีสินค้าตรงความต้องการในแต่ละเซ็กเมนต์ เช่น สินค้าที่เข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส คาร์ฟูร์จะมีราคาไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายดีลเลอร์ไปตลาดหัวเมือง ต่างจังหวัดระดับรองมากขึ้น และการเพิ่มเซลล์ดูแลแต่ละภาคของประเทศ
"เดิมเราทำตลาดในโมเดิร์นเทรด แต่มีสินค้าไม่ต่อเนื่องและยังไม่มีทีมงานที่ชัดเจน ปัจจุบันอัสซุสต้องการโฟกัสเพื่อขยายฐานลูกค้า โดยปัจจุบันเริ่มมีสินค้าวางจำหน่ายที่บิ๊กซี เพาเวอร์ มอลล์บ้างแล้ว ส่วนการทำตลาดคอร์ปอเรตคาดว่าหลังจากมีทีมงานชัดเจนจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ 15%"
นายพรเทพกล่าวว่า ครึ่งปีแรกพบว่า อัสซุสมีการเติบโตตามที่วางไว้ เพราะมีสินค้าและราคาตรงกับความต้องการของตลาด มีการวางแผน บริหารสินค้าและเข้าไปช่วยเหลือดีลเลอร์มากขึ้น จากเดิมที่ให้ดิสทริบิวเตอร์แต่ละรายเป็นผู้บริหารและวางแผนเอง โดยล่าสุดอัสซุสเปิดตัวโน้ตบุ๊ก U43Jc ผลิตจากไม้ไผ่ ซีพียูคอร์ i5 ราคา 45,900 บาท และโน้ตบุ๊กบางเบา รุ่น U45JC ซีพียูคอร์ i5 บางไม่ถึง 1 นิ้ว แบตฯนาน 10 ชั่วโมง ราคา 29,900 บาท พร้อมด้วยการเปิดตัวเน็ตบุ๊ก EeePc รุ่น 1015 PED แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 13 ชั่วโมง ราคา 13,900 บาท และรุ่น 1016PE เป็นเน็ตบุ๊กสำหรับตลาดคอร์ปอเรตเป็นครั้งแรก นอกจากนี้อัสซุสมีแผนที่จะนำ EeePad, EeeTablet และ EeeReader เข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาส 4
"ปัจจุบันการแข่งขันด้านราคาในตลาดยังคงมีอยู่ แต่ทั้งนี้จะเพิ่มการแข่งขันในด้านการบริหารซัพพลายเชนทั้งหมดของดีลเลอร์ด้วย เช่น การบริหารสต๊อก การวางแผนนำสินค้าเข้ามาให้เพียงพอกับความต้องการ การขยายช่องทางจำหน่าย เป็นต้น เพราะปัจจุบันลูกค้าซื้อสินค้าใช้งานเป็นเครื่องที่ 2-3 เยอะขึ้น และไม่ได้ดูที่ราคา สเป็กสินค้าอย่างเดียว แต่ยังดูถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย"
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกอัสซุสมีการเติบโตตามที่วางไว้ เพราะมีสินค้าและราคาตรงกับความต้องการของตลาด รวมทั้งมีการวางแผนบริหารสินค้าและเข้าไปช่วยเหลือดีลเลอร์มากขึ้น จากเดิมที่ให้ดิสทริบิวเตอร์บริหารจัดการเอง โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวม 4,700 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นสัดส่วนจากตลาดโน้ตบุ๊กประมาณ 65% หรือประมาณ 2 แสนเครื่อง และตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กในไทยเป็น 11-12% จากไตรมาส 1 มีส่วนแบ่งการตลาด 7%
ที่มา: prachachat.net