Author Topic: Windows 7 ขายดีวินาทีละ 7 ชุด  (Read 1001 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



สตีฟฟ์ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์

       ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัวเลขผลประกอบการหลายชุดเรียกความมั่นใจจากผู้บริโภคในวันที่ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งทั้งแอปเปิลและกูเกิลล้วนเป็นกระแสร้อนแรงสุดขีด หนึ่งในตัวเลขภูมิใจเสนอคือยอดจำหน่ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซเว่น (Windows 7) ที่ทะลุ 150 ล้านไลเซนส์ในระยะเวลา 8 เดือน คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 600,000 ไลเซนส์ต่อวัน เท่ากับ 7 ชุดต่อวินาที
       
       แฟรงค์ เอ็กซ์ ชอว์ (Frank X. Shaw) รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไมโครซอฟท์ ระบุในบล็อกของบริษัทว่า หลักไมล์ความสำเร็จในวินโดวส์เซเว่นทำให้ชอว์มีแนวคิดว่าควรเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการธุรกิจอื่นๆของไมโครซอฟท์ด้วย ทั้งซอฟต์แวร์เอกสาร Office 2010, บริการออนไลน์ Bing, ธุรกิจจำหน่ายเครื่องเกม Xbox 360, ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 รวมถึงบริการประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing โดยเชื่อว่าตัวเลขเหล่านี้จะเป็นหนึ่งในมิติที่บอกเล่าเรื่องราวของไมโครซอฟท์ที่สามารถสร้างโอกาสจากการแข่งขันสุดดุเดือดได้
       
       อย่างไรก็ตาม คำประกาศของชอว์กลับถูกสื่อมวลชนคนออนไลน์วิจารณ์ว่าเป็นการเปิดเผยตัวเลขเพื่อกอบกู้ศรัทธาในตัวไมโครซอฟท์ หลังจากที่ไมโครซอฟท์ต้องเผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นเพราะการรุกหนักรอบด้านจากคู่แข่ง เช่น การเปิดตัวแท็ปเล็ต iPad และสมาร์ทโฟน iPhone 4 ของแอปเปิลที่สามารถทำยอดขายได้หลายล้านเครื่องในเวลาไม่นาน และการเปิดตัวนานาโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ของกูเกิล เป็นต้น
       
       **Windows7 ขายดี "วินาทีละ7ชุด"**
       
       "150,000,000 คือตัวเลขไลเซนส์วินโดวส์เซเว่นที่ขายไปแล้ว ทำให้วินโดวส์เซเว่นกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในประวัติศาสตร์"
       
       ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ระบุว่าเพียง 6 เดือน วินโดวส์เซเว่นส์สามารถจำหน่ายได้มากกว่า 100 ล้านไลเซนส์ ทำสถิติจำหน่ายได้เฉลี่ย 7 ชุดต่อ 1 วินาที โดยต้นเดือนมิถุนายน พบว่าคอมพิวเตอร์พีซี 12% ทั่วโลกใช้งานวินโดวส์เซเว่น คาดว่าระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์นี้จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเครื่องพีซีในองค์กรภายใน 1 ปี
       
       นอกจากวินโดวส์เซเว่น ชอว์ยังโชว์ข้อมูลจากแหล่งข่าวหลากหลายเพื่อยืนยันว่าไมโครซอฟท์ยังแข็งแกร่งเต็มที่ในปี 2010 โดยยกข้อมูลจากพีซีเวิลด์ว่า iPad มีตัวเลขคาดการณ์ยอดจำหน่ายในปีนี้อยู่ที่ 7.1 ล้านเครื่อง น้อยกว่า 58 ล้านเครื่องของคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ก (ข้อมูลจากสำนักข่าวอินเทอร์เน็ตนิวส์) และ 355 ล้านเครื่องของคอมพิวเตอร์พีซี (ข้อมูลจากสำนักข่าวบิสสิเนสไวร์)
       
       ตัวเลขความนิยมเน็ตบุ๊กที่เหนือกว่านี้ สะท้อนให้เห็นการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่มากขึ้นด้วย โดยชอว์อ้างข้อมูลจากสำนักข่าวคอมพิวเตอร์เวิลด์ว่า จำนวนการใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ในเน็ตบุ๊กที่สหรัฐฯนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากที่มีไม่ถึง 10% ในปี 2008 มาเป็น 96% ในปี 2009
       
       **ยอดใช้คลาวด์คอมพิวติงพุ่ง**
       
       ชอว์ยังดึงข้อมูลจากสำนักข่าวซีดีเน็ตมาแสดงว่า บริการวินโดวส์อาซัว (Windows Azure) นั้นมีจำนวนผู้ใช้บริการแบบเสียค่าบริการราว 10,000 คน (ข้อมูลประจำเดือนมิถุนายน 2010) พร้อมกับย้ำว่าสมาชิกผู้ใช้งานบริการคอนเทนต์ออนไลน์ Xbox Live มีจำนวนสูงถึง 23 ล้านคน เหนือกว่าบริการคอนเทนต์ออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง Netflix ซึ่งมีสมาชิก 14 ล้านคน และบริการคอนเทนต์ออนไลน์จากนานาหนังสือพิมพ์รายวันสัญชาติอเมริกันที่มีจำนวนรวมกันราว 16 ล้านคนเท่านั้น
       
       ชอว์ระบุว่า ยอดดาวน์โหลดโปรแกรมสร้างงานเอกสาร Office 2010 Beta คือ 9 ล้านชุด ถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์การทดสอบโปรแกรมของไมโครซอฟท์ โดยจำนวนผู้ใช้บริการสืบค้นข้อมูล Bing นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 21.4 ล้านรายต่อปี
       
       ชอว์ยังดึงข้อมูลจากยาฮูไฟแนนซ์เพื่อสะท้อนว่าไอโฟนและโนเกียมียอดจำหน่ายน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าไอโฟนมียอดจำหน่ายไตรมาสแรกที่ 8.8 ล้านเครื่องในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ขณะที่โนเกียทำได้ 21.5 ล้านเครื่อง จากตลาดรวมสมาร์ทโฟนโลก 55 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียว ทั้งหมดนี้ สื่ออเมริกันตีความว่า ไมโครซอฟท์ยังมีหวังให้ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟน "วินโดวส์โฟนเซเว่น" สามารถโกยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทวิจัยไอดีซีคาดว่าจะมีจำนวนถึง 439 ล้านเครื่องในปี 2014
       
       สำหรับธุรกิจออนไลน์ ชอว์ชี้แจงว่าสมาชิกบริการวินโดวส์ไลฟ์เมล์ทั่วโลกนั้นมีจำนวนสูงถึง 360 ล้านคน สูงกว่าบริการจีเมล 173 ล้านคน และบริการยาฮูเมล 284 ล้านคน ขณะเดียวกัน บริการสนทนาออนไลน์อย่างวินโดวส์ไลฟ์แมสเสนเจอร์นั้นมีจำนวน 299 ล้านคนทั่วโลก ถือเป็นโปรแกรมสนทนาอันดับหนึ่งในตลาดโปรแกรมแชตขณะนี้
       
       ท้ายที่สุด ไมโครซอฟท์ยกตัวเลขผลประกอบการขึ้นมาคุยทับว่ามีกำไรสุทธิเหนือคู่แข่งทุกราย เช่น แอปเปิลที่ประกาศไว้ 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปีการเงินแอปเปิลล่าสุดที่สิ้นสุดในเดือนกันยายนปี 2009) กูเกิลซึ่งประกาศกำไรสุทธิไว้ที่ 6,500 ล้านเหรียญ (ปีการเงินกูเกิลสิ้นสุดเดือนธันวาคม ปี 2009) ทุกรายด้อยกว่าไมโครซอฟท์ที่ทำได้ 14,500 ล้านเหรียญ (ปีการเงินไมโครซอฟท์สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2009)
       
       Company Related Link :
       Microsoft


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1849 Views
Last post May 13, 2009, 11:22:24 PM
by Reporter
0 Replies
1652 Views
Last post May 26, 2009, 10:16:26 PM
by Reporter
0 Replies
2073 Views
Last post June 09, 2009, 04:11:39 PM
by IT
0 Replies
1932 Views
Last post June 18, 2009, 11:19:37 AM
by Reporter
0 Replies
1668 Views
Last post June 24, 2009, 06:28:16 PM
by Reporter
0 Replies
4614 Views
Last post July 19, 2009, 02:33:58 PM
by IT
0 Replies
2679 Views
Last post December 16, 2009, 06:18:05 PM
by IT
0 Replies
5406 Views
Last post June 11, 2010, 04:51:16 PM
by Nick
0 Replies
3945 Views
Last post June 11, 2010, 04:56:15 PM
by Nick
0 Replies
3747 Views
Last post June 11, 2010, 06:56:51 PM
by Nick