Author Topic: สาธิตไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้  (Read 839 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline penguin4

  • Newbie
  • *
  • Posts: 17
  • Karma: +0/-0

ไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้

แนะนำความรู้เรื่องไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ทำอันดับ Google ด้วยตัวเองได้ วันนี้ผมภูมิใจนำเสนอเนื้อหาคุณภาพบริการ SEOท่านสามารถหาคำตอบได้จากที่นี่
Search Query ปัจจัยสำคัญในการดันอันดับ Google

ในการทำ SEO ยุคนี้ ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นเร็วๆ Boost Ranking คือ Search Query ของผู้ค้นหาข้อมูล ที่ค้นหาเกี่ยวกับ Website ของเราจำนวนมากๆ และมีการค้นหาอย่างสม่ำเสมอ Google จะทำการให้สกอร์ด้านคุณภาพและจัดให้เว็บมีอันดับที่ดีอย่างรวดเร็ว
เพราะอะไร Google ให้ความสำคัญกับ Search Query

  การทำ SEO สมัยนี้ Google ได้ให้ความสำคัญกับ Backlink น้อยลงจากเดิม และหันไปให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานแทน และสถิติการ Query Data มีผลต่อการจัดอันดับ Google อย่างมาก เพราะกูเกิลเข้าใจว่า Data ที่ยูสเซอร์เรียกจาก Search Query เป็นข้อมูลที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม กูเกิลจึงให้แต้มเว็บที่ผู้ใช้งานเรียกบ่อยๆ การที่ผู้ค้นหาข้อมูลเรียกเว็บไซต์แบบเจาะจง ยังเป็นการเพิ่มทราฟฟิคให้กับเว็บไซต์อีกด้วย ยิ่งทราฟฟิคดังกล่าวมีค่า CTR (Click Through Rate) , Time On Site และ Bounce Rate ที่ดี ย่อมจะส่งผลให้อันดับเว็บขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังทำให้เว็บมีอันดับ Google ที่เสถียรอีกด้วย และการจะให้ Searcher ทำการ Search  Data ของเราบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะหากเราทำ Website ให้ถูกใจผู้ติดตาม พร้อมทั้งนำเสนอ Content คุณภาพ มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน อย่างแรกเลยเว็บของเราจะมีจำนวนคนเข้าสู่เว็บมากขึ้น เพราะบทความที่มีคุณภาพจะถูกกูเกิลจัดให้อยู่อันดับต้นๆ ทั้งคีย์เวิร์ดหลักและ Keyword รอง รวมทั้งคีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงถึงเนื้อหาที่เรา Present  เมื่อ User เข้าใจว่าเว็บของเรามีคุณภาพ ก็จะมีการค้นหา Data บน Google Search ด้วยการอ้างอิง Keyword ที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา หากท่านเก่งในเรื่องการสร้าง Content คุณภาพ และการหา Traffic เข้าสู่เว็บปริมาณมากๆ คุณไม่มีความจำเป็นต้องชอบเกี่ยวกับการสร้าง Backlink เพื่อทำอันดับบน Search Engine เนื่องด้วยวิธีการเหล่านี้จะมีคุณภาพมากกว่า อีกทั้งหนทางโดน Google Penalty เป็นไปได้น้อยมาก เพราะ Statistics ของเว็บและทราฟฟิคไม่ได้เป็นการ Spam ดังนั้น Google จึงไม่พัฒนา Algorithm ให้ทำโทษจาก Factor เหล่านี้ อีกทั้งทราฟฟิคและ Statistics ของเว็บไซต์มาจากคนจริงๆ ไม่ใช่การจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อยุ่งเกี่ยวอันดับบน Search Result Pages เหมือนอย่างแบ็คลงค์ ยังไงก็ตามบริษัทบริการ SEO ควรให้ความสำคัญทั้งการสร้างทราฟฟิคและการสร้างแบ็คลิงค์ควบคู่กัน

พฤติกรรม User สะท้อนถึงคุณภาพของเว็บ

  ยุคก่อน Google ใช้จำนวน Links เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของเว็บไซต์ เว็บไหนมีจำนวน Backlinks มากแสดงว่าเว็บนั้นมีคุณภาพ เพราะผู้คนต่างกล่าวเว็บดังกล่าวผ่านการสร้างแบ็คลิงค์ชี้ไปยังเว็บนั้นๆ จึงเปิดช่องทางให้นักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย สามารถแปรผันผลการค้นหาของ Google ได้ง่ายๆ เพียงแค่สร้าง Links ปริมาณมากๆ เพื่อบอกให้กูเกิลทราบว่าเว็บของตนมีคุณภาพ เป็นที่สนใจของผู้คน และ Google ได้ต่อสู้กับบรรดา Spammer มาอย่างนานแสนนาน โดยได้พัฒนาระบบ Algortihm มาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ปลายปี 2009 ที่มีการปรับปรุงระบบอัลกอริทึมอย่างจริงจัง เพื่อลดปริมาณ Spam Content และ Spam Link บน Search Result Pages และยิ่งนานวัน ดูเหมือนว่ากูเกิลจะสามารถบริหารกับปัญหาดังกล่าวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และช่วงปลายปี 2015 Google ออกมาประกาศว่าระบบ Algorithm จะทำงานแบบ Real Time อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อระบบอัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไทม์ การจัดอันดับจะรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันการลงโทษเว็บไร้คุณภาพก็จะรวดเร็วตามไปด้วย อย่างไรก็ตามยุคปัจจุบันทาง Google ได้ปรับปรุงระบบการจัดอันดับโดยการลดความสำคัญของลิงค์ แล้วมาให้ความสำคัญของพฤติกรรมยูสเซอร์เป็นหลัก เว็บที่มีคนเข้าเยอะๆ จึงได้เปรียบเว็บที่มีคนเข้าน้อยๆ เพราะสถิติของ Website  มีผลต่ออันดับ Google ค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าสถิติบน Google Webmaster Tools และ Google Analytics แถบไม่มีผลต่อการจัดอันดับมากนัก และเรามักจะดูตัวเลขบน Tool ของ Google เพื่อปรับให้เว็บมีคุณภาพ และโฟกัสกลุ่มจุดหมายปลายทางให้มีประสิทธิผลมากกว่าเดิมเป็นหลัก เมื่อ Google นำเอาตัวเลขดังกล่าวมาใช้เป็นเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพของเว็บ รวมทั้งเป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับบน Google Search ในยุคนี้

ทราฟฟิคจากการค้นหา Main Keyword กับ Niche Keyword

  อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้บทความก่อนๆ ว่า ทราฟฟิคที่ช่วยให้เว็บติดหน้าแรกกูเกิล ได้รวดเร็วที่สุด คือ Google Search Traffic เพราะเป็นทราฟฟิคที่มาจากการค้นหาผ่านกูเกิลเสิร์ท หลายคน Time ทำ SEO มัวแต่ไปโฟกัสที่ Keyword หลักของ Website  กว่าที่จะได้ทราฟฟิคจาก Keyword หลักต้องรอเวลานาน เพราะการที่ Keywords ที่มีการค้นหาเยอะๆ มักมีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว นำเสนอเว็บว่าใหม่ควรโฟกัสไปที่คีย์เวิร์ดรอง หรือ Niche Keyword เป็นหลัก เพราะเราสามารถดันให้บทความของเราติดอันดับคีย์เวิร์ดเฉพาะได้ง่าย บาง Keyword เราอาจไม่ต้องปรับอะไรมาก ก็สามารถติดอันดับคีย์เหล่านั้นได้ ยังไงก็ตามเราต้องทำการ Research Keyword จาก Tool ของ Google Adwords เพื่อตรวจเช็คว่าแต่ละคีย์มีการค้นหารายเดือนเฉลี่ยที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า เราจะได้รับ Feedback จากบทความที่เราเขียนขึ้น

  ทราฟฟิคคนเข้าสู่เว็บผ่านการค้นหาบน Google Search ทั้งการค้นหาด้วย Main Keyword และ Niche Keyword ให้ผลต่ออันดับไม่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ CTR (Click Through Rate) ที่เข้าสู่เว็บของเราสูงแค่ไหน Time On Site หรือ ช่วงเวลาที่อยู่ในหน้าเว็บของเรานานแสนนานเท่าใด และค่า Bounce Rate ของ Website  นั่นหมายความว่าทราฟฟิคที่มาจากการค้นหาบนกูเกิลส่งผลดีต่ออันดับ Google ไม่ว่าจะเป็น Keyword หลักหรือคีย์เวิร์ดรองก็ตาม ยังไงก็ตาม Search Query ที่มีส่งผลดีต่ออันดับกูเกิล มากๆ คือ Keyword ที่ใช้ค้นหาเว็บ หรือ บทความของเรานั้น จะต้องมี Keyword หลักของ Website รวมอยู่ด้วยจะดีมากๆ มันจะช่วยสนับสนุนให้อันดับของเว็บขยับขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ และติดอันดับยั่งยืน

  เป็นเรื่องธรรมดาที่ Website เกิดใหม่ จะต้องเน้นหาทราฟฟิคจาก Keyword ที่มีการแข่งทักษะน้อยๆ แต่ก็ต้อง Research Keyword ด้วยว่าคีย์ที่เราจะมาหาทราฟฟิคจากการเขียนบทความ
นั้น มีคนค้นหาต่อเดือนไม่น้อยจนเกินไป หลีกการก็ง่ายๆ สร้างบทความคุณภาพมากๆ และโฟกัสไปที่หลายๆ  Keyword ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน อีกทั้งมีความเกี่ยวข้องกับบทความที่เราเขียนขึ้น ถ้าใครที่จะหาทราฟฟิคจาก Search Engine ด้วยเนื้อหาแค่ 10 -  20 เนื้อหาเลิกคิดไปได้เลย เนื้อหาน้อยๆ อาจหาทราฟฟิคจาก Social Network ได้ แต่ก็ไม่คงทนอยู่ดี สรุปคือ เราต้องสร้าง Content คุณภาพให้กับผู้ติดตามปริมาณมากๆ เรียกได้ว่าเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องที่เรา Present อย่างละเอียดยิบ มีการค้นคว้า หา Data  ศึกษา แล้วนำมาถ่ายทอดให้กับผู้ติดตาม แน่นอนบทความที่คุณจะต้องเขียน 100 - 300 เนื้อหา และต้องเป็นบทความทางวิชาการ คือ สามารถนำไปอ้างอิงหรือประกอบเป็นคู่มือการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ผมจึงกล่าวว่าให้ทำการพัฒนาความรู้  Research  เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะนำเสนออย่างละเอียดก่อน แล้วเขียนหรือประพันธ์ออกมาในความเข้าใจของเราเอง แน่นอนว่าเนื้อหาที่เราเขียนจะไม่ซ้ำกับเว็บอื่น เมื่อเว็บไซต์มีข้อมูลคุณภาพปริมาณมากๆ และมีคนเข้าอ่านอย่างสม่ำเสมอ อันดับเอสอีโอ ก็จะตามมาเอง แทบไม่ต้องไปสนใจเรื่องการสร้างลิงค์เลย ถ้าทำ SEO สายคุณภาพ แต่อาจต้องใช้ความอดทน และใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ

ปริมาณทราฟฟิคมีผลต่ออันดับกูเกิล

  จากเนื้อหาก่อนๆ ผมได้อธิบายเกี่ยวกับทราฟฟิครูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลดีต่อการทำอันดับ Google ในหัวข้อนี้ผมจะอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของจำนวนทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บของเรา หากเว็บของเรามีจำนวนคนเข้าเว็บมากๆ จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search หรือ เข้าสู่เว็บผ่านทาง Social Network รวมไปถึงการเข้าสู่เว็บผ่านการอ้างอิงจากเว็บอื่นๆ หรือแม้กระทั่งการที่มีคนเข้าสู่เว็บของเราตรงๆ ผ่านการป้อน URL ที่  Address Bar บนเว็บเบราวเซอร์ ล้วนแต่มีความสำคัญเหมือนๆ กัน แม้ว่าความแรงจากทราฟฟิคที่มาจาก Search Engine ผ่านการ Query ข้อมูลในการค้นหาจะมากกว่าพวกพ้อง แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญกับทราฟฟิคทุกชนิด ขอให้คิดเสมอว่าทราฟฟิคมากอันดับยิ่งดีตามปริมาณทราฟฟิค แต่ย้ำก่อนว่าต้องเป็นทราฟฟิคคุณภาพเท่านั้น ไม่อยากได้ทราฟฟิคที่เข้าเว็บเราแล้วรีบปิดหน้าทิ้ง ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าเว็บเราไม่มีคุณภาพในมุมมองของ Google อีกทั้งกูเกิลเองอาจเข้าใจว่าเราใช้เทคนิคที่ผิดกฎ โดยอาจมีการเปลี่ยนเส้นทางของ User ในการเข้าสู่เว็บไซต์ กูเกิลอาจเข้าใจว่าเว็บของเราเป็นหน้า Doorway Page และโดน Google Penalty ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นเราต้องคัดเลือกทราฟฟิคที่ชอบบทความของเราจริงๆ พากเพียรอย่างใช้ขั้นตอนการหาทราฟฟิคจากกลุ่ม User ที่ไม่สัมพันธ์กับเว็บของเรา เพราะอาจส่งเสียผลมากกว่าดี หลักการเข้าใจว่าทราฟฟิคแบบไหนดี ง่ายๆ ถ้าคนเข้าสู่เว็บของเราและไม่รีบปิดหน้าหนี แสดงว่าคนที่เข้ามายังเว็บของเราเริ่มชอบบทความของเราไม่มากก็น้อย ยิ่งมีการคลิกไปอ่านหน้าอื่นๆ และอาศัยอยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ แบบนี้ เรากำลังได้ทราฟฟิคที่ดีมากๆ เพราะกูเกิลเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานอยู่แล้ว และ Google จะตัดสินคุณภาพของเว็บเราจากพฤติกรรมผู้ใช้งานนั่นเอง การทำเว็บยุคนี้จึงโพกัสไปที่การสร้างเว็บเพื่อผู้ติดตามเป็นหลัก

  เมื่อเว็บของเราได้ทราฟฟิคอย่างต่อเนื่อง ทั้งจาก Google Search ที่ User ค้นหา Keyword ที่สัมพันธ์กับเว็บของเรา หรือแม้แต่การเข้าสู่เว็บของเราจากหน้าเว็บอื่นที่มีบทความเกี่ยวข้องกับเว็บของเรา ทราฟฟิคเหล่านี้จะเป็น Trust Rank ที่มีพลังมากๆ แม้ว่าเราไม่สามารถจับต้องทราฟฟิคเหล่านี้ได้ เหมือนกับการสร้าง Backlink ที่สามารถเพิ่มหรือลดด้วยมือของเรา แต่ทุกทราฟฟิคจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบสถิติของ Google Webmaster Tools และ Google Analytics เสมอ และขอให้ผู้ติดตามเข้าใจว่าคะแนนที่ได้จากการสร้างทราฟฟิคนั้น ส่งผลดีต่อเว็บวันนี้และอนาคต การสะสมทราฟฟิคและ Statistics ของ Website  จะช่วยสนับสนุนให้เว็บติดอันดับอย่างยั่งยืน คนโดยส่วนใหญ่จะไม่ค้นหา Keyword ตรงๆ นอกจากคุณจะดัง

  ถ้าหากคุณทำ Website ใหม่ๆ อาจเป็นเรื่องที่ยากสักนิด ที่จะส่งเสริมให้ User ค้นหาเว็บของคุณภาพผ่านทาง Search Engine โดยการป้อน ชื่อเว็บไซต์ หรือ Brand ของคุณ เพราะถ้าเว็บของคุณไม่ดังจริง หรือไม่เจ๋งจริงๆ น้อยคนที่จะจดจำชื่อเว็บหรือแบรนด์ของคุณ เมื่อมันเป็นเรื่องที่ยากสักนิดแต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถของคุณ คุณจะต้องทำให้คนประทับใจเว็บของคุณตั้งแต่แรก ทันทีที่คนเข้าสู่เว็บของคุณจะต้องทำให้พวกเขาชื่นชอบเ
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้
ไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็Promote Web ด้วยตัวเองได้
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
Quote from: บริการ SEO
ไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
4943 Views
Last post January 15, 2010, 09:12:18 AM
by Nick
0 Replies
2828 Views
Last post July 05, 2012, 01:51:26 PM
by Nick
0 Replies
2644 Views
Last post July 13, 2012, 03:23:30 PM
by Nick
0 Replies
2275 Views
Last post November 23, 2012, 03:23:24 PM
by Nick
0 Replies
2195 Views
Last post May 14, 2013, 06:13:21 PM
by Nick
0 Replies
2334 Views
Last post June 18, 2013, 12:39:41 PM
by Nick
0 Replies
2215 Views
Last post November 21, 2013, 12:31:17 PM
by Nick
0 Replies
2601 Views
Last post January 28, 2014, 01:38:42 PM
by Nick
0 Replies
2167 Views
Last post September 11, 2014, 01:12:15 PM
by Nick
0 Replies
2036 Views
Last post December 03, 2015, 12:54:34 PM
by Nick