Intel ชิปใหม่ Core i7 ปรับเร็วได้สุดขีด 5GHz

[Nick]

อินเทลโชว์ Core i7-4790K ซีพียูรุ่นล่าสุดด้วยชื่อโค้ดเนม "Devil's Canyon

       เจ้าพ่ออินเทล (Intel) เปิดตัวชิปควอดคอร์รุ่นล่าสุด Core i7-4790K สำหรับนักเล่นเกม จุดพลุประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับชิปอินเทลที่สามารถทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 4GHz เป็นครั้งแรก โดยสามารถปลดล็อกหรือ overclock ให้ทำงานที่ระดับ 5GHz ได้สบาย
       
       ตามข้อมูลระบุว่า ชิปใหม่ของอินเทลในตระกูล Core i7 สำหรับเกมเมอร์สามารถทำงานระดับปกติที่สัญญาณนาฬิกา 4.4GHz โดย Core i7-4790K เป็นชิปควอดคอร์ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม Haswell ซึ่งกินไฟ 88 วัตต์ ตัวชิปมาพร้อมแคช (cache) 8MB ในตัวฝังชุดชิปกราฟิกพร้อมหน่วยควบคุม memory controller จุดนี้อินเทลการันตีว่าสามารถรองรับเทคโนโลยีป้อนข้อมูลเข้าและออกหรือ I/O ล่าสุดได้ แถมยังรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันหรือ multithreading ได้เต็มที่
       
       จุดนี้อินเทลอธิบายว่า ชิปออกแบบให้ระบบสามารถแบ่งคอร์ประมวลผลออกเป็น 2 ฝ่าย เพื่อทำงาน 2 งาน (task) ได้ในเวลาเดียวกัน โดยขณะนี้ Core i7-4790K ถือเป็นชิปรุ่นท็อปที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีของอินเทล ซึ่งจะเน้นทำตลาดผ่านกลุ่มนักเล่นเกมและเซียนคอมพิวเตอร์ที่ต้องการคอมพ์ตั้งโต๊ะประสิทธิภาพสูง ตามข้อมูลของ "รานี เจมส์ (Renee James)" ประธานอินเทลที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีงาน Computex ที่ไทเป ไต้หวัน
       
       งานนี้ อินเทลโชว์ Core i7-4790K ในคอมพิวเตอร์เครื่องต้นแบบหน้าจอ 12.5 นิ้วที่ถูกการันตีว่าไม่มีการติดตั้งพัดลมไว้ภายใน โดยเครื่องต้นแบบมีความหนาเพียง 7.2 มิลลิเมตร และหนัก 670 กรัมเท่านั้น

คอมพิวเตอร์เครื่องต้นแบบหน้าจอ 12.5 นิ้วที่ถูกการันตีว่าไม่มีการติดตั้งพัดลมไว้ภายใน

     ชิป Core i7-4790K สามารถ overclock ให้ทำงานที่ระดับ 5GHz แต่จะต้องทำในระบบหล่อเย็น อย่างไรก็ตาม อินเทลไม่ใช่รายแรกที่เริ่มทำตลาดชิป 5GHz โดยก่อนหน้านี้ คู่แข่งอย่างเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices) ได้เปิดตัวชิป FX สำหรับคอเกมที่ทำงานบนสัญญาณนาฬิกา 5GHz ช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
       
       การเปิดตัวชิปใหม่ของอินเทลตอกย้ำทิศทางที่เจ้าพ่อวงการชิปยึดมั่นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา อินเทลเริ่มถอยห่างออกจากการเน้นเร่งความเร็วสัญญาณนาฬิกา แล้วหันมาเพิ่มประสิทธิภาพให้ชิปด้วยการพัฒนาชุดชิปเซตสำหรับควบคุมการทำงานอื่นพ่วงเข้าไป โดยเหตุผลที่ทำให้อินเทลดำเนินนโยบายเช่นนี้ คือการเพิ่มสัญญาณนาฬิกาความเร็วสูงนั้นนำไปสู่ปัญหาความร้อนสูง รวมถึงปัญหาสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า
       
       แต่ท้ายที่สุดแล้ว เอเอ็มดีและอินเทลก็ยังไม่ทิ้งแผนพัฒนาความเร็วสัญญาณนาฬิกาไป เพราะเข้าใจดีว่ายังมีผู้ต้องการชิปความเร็วสูงอยู่เสมอ โดยทั้ง 2 ค่ายยังคงพยายามเสกสรรค์ให้ชิปหลักของตัวเองสามารถทำงานได้โดดเด่นเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์ชิปทรงพลังต่อไป

ที่มา: manager.co.th