พอล วอล์คเกอร์น้องชายที่มีข่าวว่าอาจจะทำหน้าที่แสดงแทนพี่ชายโอลิเวอร์ รีด ใน Gladiator ที่เสียชีวิตก่อนหนังปิดกล้อง จนได้ใช้ CGI ช่วยเช่นเดียวกัน ยืนยันแล้วว่าทีมงานสร้างหนัง Fast and Furious 7 จะใช้ทั้งเทคนิคการสร้างภาพ CGI และสแตนด์อิน เพื่อคืนชีพให้ “พอล วอล์คเกอร์” สำหรับบทบาท “ไบรอัน โอ'คอนเนอร์” หลังนักแสดงชื่อดังเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันทั้งๆ ที่หนังยังถ่ายทำไม่เสร็จ Fast and Furious 7 ที่พักการถ่ายทำไปช่วงใหญ่ๆ เพราะการเสียชีวิตของ พอล วอล์คเกอร์ ได้กลับมาเดินเครื่องถ่ายทำอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดมีการเปิดเผยว่าผู้สร้างจะใช้วิธีให้นักแสดงคนอื่นมาเป็นสแตนด์อินแทนที่ วอล์คเกอร์ นอกจากนั้นยังจะมีการใช้เทคนิคการสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CGI ในส่วนของการทำโพสต์โปรดักชันด้วย
New York Daily News อ้างแหล่งข่าวที่เป็นทีมงานของหนังซึ่งเปิดเผยว่าได้มีการว่าจ้างนักแสดงแทนมาถึง 4 คน ซึ่งแต่ละคนจะมีส่วนคล้ายกับ พอล วอล์คเกอร์ กันไปคนละมุม โดยทั้ง 4 ต้องแสดงแทนในฉากที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ ก่อนที่ทีมงานทำเทคนิคพิเศษ จะสร้างภาพใบหน้าของ วอล์คเกอร์ ทับลงไป เช่นเดียวกับเสียง ก็จะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคทางคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าผู้สร้างได้เลือกให้ โคดี วอล์คเกอร์ น้องชายของ พอล ที่เป็นสตันต์แมนอยู่แล้ว ให้มาแสดงแทนพี่ชาย แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสุดท้ายแล้วผู้สร้างหนัง Fast and Furious 7 ได้ว่าจ้าง โคดี จริงๆ หรือไม่
สำหรับบทที่มีการปรับรายละเอียดไปจากเดิมนั้น มีกระแสข่าวลือว่า ผกก. เจมส์ วาน และ Warner Bros. ตัดสินที่จะไม่ “ฆ่า” ตัวละคร ไบรอัน โอ'คอนเนอร์ แต่จะเขียนบทให้อดีตตำรวจหนุ่มตัดสินใจถอนตัวจากวงการไปแทน เพราะคิดว่าการฆ่าตัวละครตัวนี้ จะสร้างบรรยากาศเศร้าสะเทือนใจให้กับหนังมากเกินไป ส่วน วิน ดีเซล ที่เป็นคู่หูกับ วอล์คเกอร์ มาในหนัง 4 ภาค ก็ยืนยันว่าทุกฝ่ายจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับชะตากรรมฉากสุดท้ายของ โอ'คอนเนอร์ เพื่อให้ Fast and Furious 7 “เป็นภาคที่ดีที่สุดในหนังชุดนี้” เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับเพื่อนร่วมจอของเขา
สำหรับกำหนดการฉายหนังนั้น จากเดิมที่จะเข้าฉายในปีนี้ Fast and Furious 7 ได้ถูกเลื่อนโปรแกรมไปเป็น 10 เม.ย. 2015 โดยนอกจาก ดีเซล และ วอล์คเกอร์ แล้วหนังยังจะมี ดเวย์น จอห์นสัน, มิเชล โรดิเกวซ, เจสัน สเตแธม, ลูดาคริส, ไทรีส กิ๊บสัน และ จา พนม ร่วมแสดงด้วย
Fast and Furious 7 ไม่ใช่หนังเรื่องแรกที่ต้องเจอปัญหานักแสดงนำเสียชีวิต ทั้งๆ ที่หนังยังไม่ปิดกล้อง โดยก่อนหน้านี้ผู้สร้างหนังเรื่อง Crow ก็ต้องใช้ทั้งนักแสดงแทน และ CGI ในการสร้างตัวละครของ แบรนดอน ลี ให้มีบทบาทโลดแล่นบนจออีกครั้ง หลังทายาทของ บรูซ ลี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายทำหนัง
ส่วน Gladiator ของ รีดลีย์ สก็อตต์ ที่มี รัสเซล โครว์ แสดงนำก็ยอมทุ่มทุนถึง 3.2 ล้านเหรียญฯ สำหรับการทำ CGI เพื่อสร้างภาพตัวละครของ โอลิเวอร์ รีด ที่เสียชีวิตก่อนหนังจะปิดกล้องขึ้นมาใหม่ โดยยืนยันจะไม่ให้นักแสดงคนใหม่เข้ามาแสดงแทน แม้ รีด จะมีบทในหนังไม่มากนัก เพราะอยากจะให้เกียรตินักแสดงรุ่นใหญ่ กับบทบาทการแสดงสุดท้ายในชีวิตของเขา และผลที่ออกมาก็สมจริงชนิดว่ากันว่าดูไม่ออกเลยว่าฉากใดคือ รีด ตัวจริง และฉากใดคือ CGI
ที่มา: manager.co.th