Author Topic: Samsung ส่ง Galaxy S5 ขึ้นสังเวียนสมาร์ทโฟน  (Read 609 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






   ซัมซุงยังมั่นใจ Galaxy S5 จะกลายมาเป็นสมาร์ทโฟนสุดฮิตในช่วงไตรมาส 2 ที่เริ่มวางจำหน่ายจากจุดเด่นผ่านคอนเซปต์ทั้ง 5 ที่สื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าใจง่ายขึ้น ขณะเดียวกันมองว่าตลาดอุปกรณ์สวมใส่ได้จะกลายเป็นอีกตลาดสำคัญในปีนี้
       
       นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำตลาดของ Galaxy S5 ที่จะกลายมาเป็นเรือธงรุ่นใหม่ของซัมซุงในส่วนของผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน ก่อนที่ช่วงปลายปีจะมีสินค้าในตระกูล Note ออกมาในอีกตลาดหนึ่ง


       'ภายในงานเปิดตัว Galaxy S5 จะเห็นได้ว่าซัมซุงพยายามที่จะสื่อไปถึงเรื่องที่ง่ายต่อความเข้าใจของผู้ บริโภค ภายใต้ 5 คอนเซปต์หลักคือ ในแง่ของการออกแบบ กล้อง การเชื่อมต่อ สุขภาพ และการใช้ชีวิต แตกต่างจากเมื่อครั้ง Galaxy S4 ที่จะเน้นไปถึงการนำเสนอฟีเจอร์การใช้งานที่แปลกใหม่'
       
       ซัมซุงเลือกนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ภายใต้ 5 คอนเซปต์หลักของ Galaxy S5 ที่จะสื่อไปถึงความสามารถใหม่ในตัวเครื่อง อย่างในแง่ของดีไซน์แม้ว่าด้านหน้าจะยังคงรูปแบบเดิม แต่ด้านหลังจะมีการพัฒนาในส่วนของดีไซน์ให้กลายเป็นลายดอทแบบที่กำลังมาแรงในวงการแฟชัน (ซัมซุงเรียกลายนี้ว่า Modern Glam Look) ที่ช่วยให้ถือจับตัวเครื่องได้มั่นคงขึ้น
       
       ถัดมาในส่วนของกล้อง ก็จะเพิ่มทั้งความละเอียดเป็น 16 ล้านพิกเซล เพื่อให้รองรับการบันทึกภาพวิดีโอความละเอียด 4K (UltraHD) ในขณะเดียวกันก็เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอย่างการโฟกัสวัตถุในเวลาเพียง 0.3 วินาที ระบบถ่ายภาพแบบชดเชยแสง (HDR) ที่ฉลาดขึ้นใช้ได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และสุดท้ายคือฟีเจอร์ในการเลือกจุดโฟกัส แล้วให้ภาพพื้นหลังเบลอ (ชัดตื้น) ยังไม่นับรวมกับฟีเจอร์เดิมที่มีอยู่ใน S4 ด้วย

       ในมุมของการรักษาสุขภาพจากเดิมซัมซุงเคยเพิ่มเซ็นเซอร์อย่างการวัดอุณหภูมิ ตรวจจับการเคลื่อนไหว วัดระดับความดันอากาศ มาเพื่อใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันอย่าง S-Health เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานนำไปใช้ในการควบคุมการออกกำลังกาย รวมถึงการคำนวณหาความชื้น อัตราการเผาผลาญพลังงานต่างๆ แต่พอมาใน S5 ซัมซุงได้เพิ่มอีก 1 เซ็นเซอร์สำคัญเข้ามาคือ เซ็นเซอร์วัดชีพจร (Heart Rate Monitor) เพื่อเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจได้จากการนำนิ้วชี้ไปปิดบริเวณเซ็นเซอร์ดังกล่าว หลังจากนั้นจะมีการวัดและบันทึกลงไปใน S-Health โดยอัตโนมัติ
       
       'ซัมซุงมีพันธสัญญาที่จะมุ่งไปในส่วนของสุขภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อมภายในปี 2020 ซึ่งจะสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการอุปกรณ์มาช่วยเสริมสร้างให้เกิดอารมณ์ และความสนุกในการรักษาสุขภาพ ดังนั้นจึงมีการนำฮาร์ดแวร์ต่างๆเกี่ยวกับสุขภาพใส่เข้าไปในสมาร์ทโฟนเพื่อให้เหล่านักพัฒนานำฮาร์ดแวร์เหล่านั้นมาใช้พัฒนาให้ออกมาเป็นแอปพลิเคชัน'

       ในแง่ของการเชื่อมต่อ ซัมซุง ในฐานะผู้นำระบบ 4G LTE ก็ได้โชว์ความสามารถในการใช้งานการเชื่อมต่อ 4G เข้ากับ Wi-Fi Mimo ที่รองรับบนมาตรฐาน 802.11ac ช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps จากเดิมที่ 4G ทำได้ราว 100 MB ภายใต้ชื่อเรียกว่า Download Bootser
       
       'ทางซัมซุงเคยมีการคุยกับโอเปอเรเตอร์ในไทยแล้วว่า จะสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้หรือไม่ ซึ่งทุกรายต่างก็ตอบรับ และมองว่าเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน'
       
       ขณะที่ในการนำสมาร์ทโฟนเข้าไปใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างแรกเลยคือเพิ่มความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่น (Dust & Water Resistance) บนมาตรฐาน IP67 ที่สามารถอยู่ในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรไม่เกิน 30 นาทีได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะให้นำเครื่องไปแช่น้ำแล้วใช้งานไปด้วยแต่อย่างใด
       
       อีกโหมดหนึ่งที่น่าสนใจ และคิดว่าจะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานก็คือในแง่ของระบบประหยัดพลังงาน Ultra Saving Mode ที่เมื่อเข้าสู่โหมดดังกล่าวแล้ว จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสแตนบายโทรศัพท์ได้อีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่างเช่นถ้าเหลือแบตเตอรี่ราว 10% จะใช้งานได้ราว 24 ชั่วโมง เนื่องจากตัวเครื่องจะทำการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เปลี่ยนการแสดงผลเป็นสีขาว-ดำ เป็นต้น
       
       สุดท้ายก็คือการที่ซัมซุงใส่ระบบสแกนลายนิ้วมือเข้ามา ก็ถือเป็นการช่วยเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่สมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น เพราะลายนิ้วมือถือเป็น Identity ที่จะปลอมแปลงได้ยากมาก ทำให้ในกรณีที่เครื่องหาย และมีข้อมูลสำคัญ หรือ ต้องการเก็บข้อมูลสำคัญๆให้เข้าใช้งานได้คนเดียวระบบสแกนลายนิ้วมือจะเข้ามาช่วยตรงนี้ด้วย
       
       'ระบบสแกนลายนิ้วมือจะช่วยให้ซัมซุงสามารถขยายตลาดเข้าไปยังลูกค้าองค์กรได้มากขึ้น ร่วมกับฟังก์ชันอย่าง Samsung Knox ที่เป็นการแยกการเก็บข้อมูลเรื่องงานและการใช้งานทั่วไปแยกออกจากกัน เพื่อให้ข้อมูลในองค์กรไม่รั่วไหลออกไป'
       
       จากความสามารถเหล่านี้ จึงทำให้ซัมซุงมั่นใจว่า Galaxy S5 จะยังคงเป็นฮีโร่โปรดักส์ที่สำคัญในปีนี้เหมือนเช่นสินค้าในตระกูล Galaxy S ที่ผ่านมา ซึ่งวางจำหน่ายไปได้มากกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วโลกแล้ว

      ***เลือกรุ่นรับ 4G ขนาด 16 GB เข้ามาขาย
       
       จากเหตุการณ์ที่เหล่าผู้บริโภคเรียกร้องให้ไทยซัมซุง นำ Galaxy Note 3 รุ่น 4G LTE เข้ามาขาย หลังจากที่เริ่มจำหน่ายเฉพาะรุ่น 3G ก่อนในช่วงแรก กลายเป็นบทเรียนให้ซัมซุงต้องพิถีพิถันในการเลือกเฟ้นรุ่นของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่จะนำเข้ามาขายในตลาดประเทศไทย ประกอบกับปัจจุบัน ซัมซุง มองว่าผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทย แต่ละรายต่างมีความพร้อมในการให้บริการ 4G กันหมดแล้ว แตกต่างกันในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งมีผู้ให้บริการรายเดียวคือทรูมูฟ เอช
       
       แต่ในปีนี้ดีแทค ก็ประกาศแล้วว่าพร้อมจะให้บริการ 4G ในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งถือเป็นช่วงเดียวกับที่จะมีการวางจำหน่าย Galaxy S5 ไม่นับรวมกับเอไอเอสที่มีแนวโน้มจะจับมือกับทีโอทีในการให้บริการ 4G ต่อไป ก่อนที่ทางกสทช. จะมีการเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz ที่เหมาะสมกับการให้บริการ 4G ในช่วงปลายปี
       
       นายวิชัยให้ความเห็นว่า ในการเลือกนำรุ่นสมาร์ทโฟนเข้ามาจำหน่ายแม้ว่าจะมีรุ่นหลักเพียง Galaxy S5 รุ่นเดียว แต่ในมุมของผู้ผลิต และผู้จำหน่ายแล้วภายใน S5 เองก็จะมีหลายโมเดลทั้งรุ่นที่รองรับเฉพาะ 3G ขนาด 16 GB และ 32 GB เช่นเดียวกับรุ่น 4G ที่มีให้เลือกทั้ง 2 ขนาดเช่นเดียวกัน

       ดังนั้น ถ้าในมุมของซัมซุงก็คือมี S5 ให้เลือกนำเข้ามาจำหน่ายถึง 4 รุ่นด้วยกันจึงได้ตัดสินใจนำรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี 4G LTE ขนาด 16 GB เข้ามาวางจำหน่าย ซึ่งคาดว่าระดับราคาของ Galaxy S5 จะสูงขึ้นจากตอนที่เปิดตัว Galaxy S4 เล็กน้อย ทำให้อาจจะอยู่ที่ 22,900 - 23,900 บาท
       
       'ราคาของ Galaxy S5 จะต่ำกว่า Galaxy Note 3 LTE อยู่ราว 1,000 - 2,000 บาท แต่ยังต้องรอดูว่าจะมีการทำโปรโมชันร่วมกับโอเปอเรเตอร์ในทิศทางใด เพื่อให้ผู้บริโภคคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนสีที่นำมาจำหน่ายก็จะมาครบทั้ง 4 สี คือ ขาว น้ำเงิน ดำ และทอง'
       
       ทั้งนี้ล่าสุดทรูมูฟ เอช ก็ได้เริ่มเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร Galaxy S5 แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการเปิดให้จองกับทุกโอเปอเรเตอร์ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ก่อนที่จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 11 เมษายน ซึ่งจะรับกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทยพอดี




    ***ต่อยอด Gear รับทุกกลุ่มผู้ใช้งาน
       
       อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ซัมซุง พยายามผลักดันเข้าสู่ตลาดในปีนี้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ (Wearable Device) ที่ในรอบนี้เสริมไลน์สินค้าในตระกูล Gear เข้ามาถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยตัดคำว่า Galaxy ข้างหน้าออกไป เหลือเฉพาะ Gear เท่านั้น เพื่อให้รับกับการแบ่งไลน์สินค้าให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
       
       โดยอุปกรณ์ Gear ที่น่าสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Gear Fit ที่เชื่อว่าจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญในการบุกเข้าไปยังตลาดนี้ เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ชิ้นแรกที่มาพร้อมกับจอ OLED โค้ง ขณะเดียวกันยังมีการใส่เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเข้าไป เพื่อให้นำไปใช้กับสมาร์ทโฟน Galaxy ของซัมซุงกว่า 20 รุ่น
       
       'ถ้าจะให้เรียงระดับราคาของ Gear ทั้ง 3 รุ่น จะไล่มาตั้งแต่ Gear 2 ซึ่งถือเป็นรุ่นต่อยอดของ Galaxy Gear ที่ใส่ฟีเจอร์เข้ามาครบ ถัดลงมาคือ Gear 2 Neo ที่ตัดกล้องออกไป และที่เชื่อว่าจะราคาต่ำที่สุดคือ Gear Fit ที่เป็นคล้ายกำไลข้อมูลใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวัน'
       
       ทั้งนี้นายวิชัย ยังได้ยกผลสำรวจเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบใช้งานแก็ดเจ็ตจะพบว่า ค่อนข้างเป็นกลุ่มคนที่รักสุขภาพ พร้อมนำอุปกรณ์ไอทีเข้าไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อทำให้สุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญคือ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้มองแค่อยากได้นาฬิกาอัจฉริยะ แต่อยากได้อะไรที่ให้ฟังก์ชันการใช้มากกว่านั้น สุดท้ายนี้แล้ว เชื่อว่าทั้งการเปิดตัวของ Galaxy S5 และ Gear ทั้ง 3 รุ่นใหม่ จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองการใช้งานอุปกรณ์พกพาของผู้บริโภค และในขณะเดียวกันเหล่านักพัฒนาแอปพลิเคชันก็จะมีตลาดใหม่ๆ ที่จะนำความสามารถของฮาร์ดแวร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนมาพัฒนาให้ดีขึ้น
       
       'ซัมซุงไม่ได้มองถึงตลาดผู้บริโภคในกลุ่ม Early Adopter อีกต่อไป แต่ต้องการให้ผู้บริโภคในกลุ่มแมส สามารถนำผลิตภัณฑ์ไปใช้ได้อย่างคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ดังนั้นจึงเลือกที่จะนำฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ให้แก่ลูกค้า'

 Company Related Link :
       Samsung

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
3803 Views
Last post September 06, 2011, 03:30:19 PM
by Nick
0 Replies
3310 Views
Last post September 26, 2011, 05:47:14 PM
by Nick
0 Replies
3876 Views
Last post April 05, 2012, 05:01:57 PM
by Nick
0 Replies
2634 Views
Last post May 07, 2012, 07:34:10 PM
by Nick
0 Replies
2720 Views
Last post May 29, 2012, 09:13:49 PM
by Nick
0 Replies
2946 Views
Last post June 07, 2012, 04:37:50 PM
by Nick
0 Replies
3505 Views
Last post June 27, 2012, 02:45:24 PM
by Nick
0 Replies
3054 Views
Last post October 13, 2012, 01:54:01 AM
by Nick
0 Replies
2666 Views
Last post December 02, 2012, 05:48:17 PM
by Nick
0 Replies
2773 Views
Last post March 02, 2013, 01:55:10 AM
by Nick