Author Topic: “แคท” สะอื้นสงสารพ่อผ่ามะเร็งสมองรอบ 2-ลำไส้ทะลุ ทรมานจนพ่อไม่อยากอยู่แล้ว  (Read 559 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




    “แคท” สะอื้นสงสารพ่อผ่าตัดมะเร็งสมองรอบ 2-ลำไส้ทะลุ ตอนนี้ยังอยู่ไอ.ซี.ยู.พ้อค่ารักษาแพงเป็นแสนตนต้องทำงานหาเงินทุกวัน จนไม่ค่อยมีเวลาดูแลพ่อเท่าที่ควร เจ้าตัวเผยพ่อทรมานจนไม่อยากอยู่แล้ว แต่ตนขอให้พ่อสู้ เพราะลูกก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน
       
       ต้องทำงานหนักทุกวันเพราะต้องหาเงินมารักษาพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งสมอง ซึ่ง “แคท แคทรียา อิงลิช” เคยเผยว่าค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละ 4 แสนบาทเลยทีเดียว ล่าสุดยิ่งทรุดหนักต้องผ่าตัดด่วน เพราะมีอาการลำไส้ทะลุ ตอนนี้ยังพักฟื้นในห้องไอ.ซี.ยู.ทำเอาแคทน้ำตาร่วงเพราะสงสารพ่อจับใจ
       
       “ล่าสุดเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว คุณพ่อเพิ่งผ่าตัดมะเร็งสมองเป็นครั้งที่ 2 พักฟื้นที่โรงพยาบาลมา 4 เดือนแล้ว และเมื่อ 2 วันที่แล้ว แคทก็กำลังไปทำงาน แล้วน้องชายโทร.มาบอกว่าพ่อบ่นปวดท้อง เลยไปเอกซเรย์แล้วหมอให้ผ่าตัดด่วนในคืนนั้นเลย วันนั้นเราโทร.ไปขอแคนเซิลก็ไม่ได้ ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบงาน เลยได้คุยกับคุณพ่อก่อนเข้าห้องผ่าตัด คือเป็นลำไส้ใหญ่ทะลุ สาเหตุเกิดจากอะไรเราก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
       
       “ตอนนี้คุณพ่อยังอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.อยู่ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาเมื่อไหร่ คือ 2 วันแรกที่ผ่านมาคือท่านยังอ่อนเพลียมากๆ มันหลายอย่าง เพราะคุณพ่อก็อ่อนแรงค่อนข้างเยอะ จากการผ่าตัดมะเร็งสมองครั้งที่ 2 และตอนนี้เหมือนใช้มือข้างซ้ายไม่ได้แล้ว คือสาเหตุเราไม่ทราบ เพราะเขาบอกว่ามันเหมือนโรคคนแก่ ไม่น่าเชื่อว่าคุณพ่อจะเป็น เราเพิ่งผ่าตัดมะเร็งสมองไป อยู่ดีๆ พอเรามาผ่าตัดตรงนี้ เราก็กลัวว่าคุณพ่อจะไม่สู้”
       
       “วันแรกที่ฟื้นขึ้นมาท่านก็ไม่รู้เรื่อง เราพยายามที่จะคุย แต่เขาก็เบลอๆ แล้วก็หลับต่อ วันที่ 2 เราไปหาก็รู้สึกตัวดีขึ้นนิดนึง คุณพ่อก็บอกว่าคิดถึงลูกจัง คือท่านรู้ตัวแต่จะอ่อนเพลียมากๆ เราก็เลยว่าโอเค พ่อนอนเถอะ ไม่ค่อยอยากเข้าไปหา เพราะว่าตื่นขึ้นมาปุ๊บก็ไม่ได้พักอีก เลยมาทำงานด้วย ตอนนี้ก็ต้องดูอาการไปเรื่อยๆ เพราะอาการค่อนข้างที่จะอ่อนแรงไปเรื่อยๆ ส่วนจะออกมานอนห้องปกติได้เมื่อไหร่ก็ยังไม่ทราบ เขาบอกให้ดูอาการไปก่อน ถ้า 2-3 วันนี้อาการดีขึ้น ก็น่าไปอยู่ห้องธรรมดาได้”
       
       “คือก่อนที่ผ่าตัดมะเร็งครั้งที่ 2 ท่านก็เริ่มทรุด และพอผ่าตัดเสร็จซีกซ้ายอ่อนแรงมากขึ้น พอสมองบวมคุณหมอก็ให้ทานสเตอรอยด์ ก็พยายามให้ลดเพราะว่าผลข้างเคียงและผลในระยะยาวจะไม่ดีเลยลดไป ซึ่งพอลดไปอาการก็เลยทรุด ตอนนี้ก็ดูอาการแบบวันต่อวันเลยค่ะ”
       
       เผยทั้งน้ำตาว่าตนวุ่นทำงานทุกวัน จึงไม่มีเวลาได้ดูแลพ่อเท่าที่ควร วอนพ่ออย่าเพิ่งหมดกำลังใจเพราะลูกก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน
       “ตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลพ่อก็เป็นแสนเลยค่ะ ก็ทำงานตลอดเลย พ่ออย่าว่าหนูนะที่ตอนนี้หนูอาจจะไม่ค่อยมีเวลา หนูมีงานเกือบทุกวันเลยค่ะ อย่างเดียวเลยตอนนี้คือดูแลคุณพ่อ (เสียงเริ่มสะอื้น) ที่คุณบอกว่าไม่สู้ เพราะว่าท่านไม่อยากจะเป็นภาระให้ใคร คุณพ่ออยากบอกว่าอยู่ไป เขาก็ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ จากการที่เขาเคยทำทุกอย่างเอง พอมาอยู่ตรงนี้ปุ๊บ อย่างเมื่อวานท่านก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว เจ็บมากๆ ไอไม่อยากทนแล้ว ปล่อยเถอะ (น้ำตาคลอ) เราก็บอกว่าเดี๋ยวพ่อก็แข็งแรง ตอนนี้มันแย่เพราะว่าพ่อเพิ่งผ่าตัดใหม่ๆ พ่อสู้นะ ดูสิอะไรโยนมาใส่พ่อตอนนี้พ่อสู้ตลอดเลย พ่อเก่งมาก พ่อเป็นฮีโร่ของลูกนะ พ่อต้องสู้ต่อไป อย่ายอมแพ้ เพราะว่าลูกก็ไม่ยอมแพ้ (ร้องไห้)”
       
       “เราได้ยินก็รู้สึกสงสารพ่อ เพราะว่าพ่อสู้มาตั้งนาน ปีกว่าแล้ว มะเร็งสมองหมอเขาก็บอกว่าประมาณ 6 เดือน แต่พ่ออยู่มาได้ประมาณปีกว่าแล้ว เราก็บอกว่าพ่อเห็นไหม เขาบอกว่าอยู่ได้แค่ 6 เดือน แต่พ่ออยู่ได้มาปีกว่าแล้ว พ่อสู้ขนาดนี้ กำลังใจของพ่อล้นเหลือเลยในตอนนี้ ฉะนั้นสู้ต่อไปนะ อย่าไปสนใจในสิ่งที่เขาพูด พ่อต้องสู้ อยู่ได้อีกหลายปี”
       
       “เราจะพยายามให้นึกถึงสิ่งที่คุณพ่อมีความสุข บางทีพูดถึงตอนเด็กๆ ที่อยู่ต่างประเทศบอกว่าจำได้ไหมว่าเราเคยไปเที่ยวทะเล ถ้าพ่อดีขึ้นก็จะพาพ่อไปเที่ยวทะเลอีก พ่อเองก็จำได้หมด มันไม่มีผลกระทบเกี่ยวกับความจำค่ะ ตอนแรกหมอก็สันนิษฐานว่าเส้นเลือดในสมองแตกรึเปล่า ก็ไปแสกนสมองก็ไม่มีเลือดในสมอง ท่านก็เลยบอกว่าสมองบวม”
       
       “ตอนนี้แคทก็ต้องไปเฝ้าที่โรงพยาบาลทุกวันเลยค่ะ สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็เป็นเรื่องของโรคแทรกซ้อน เพราะพอตัดส่วนนึงของลำไส้ เราก็ต้องใส่ถุงไว้ข้างนอก แค่นี้คุณก็อ่อนแรง เลยไม่อยากให้คุณพ่อรู้สึกหมดกำลังใจว่าเป็นอะไรอีกแล้ว ส่วนคุณแม่นี่ถือว่าสุดๆ เลย การอุทิศตนของคุณแม่ ท่านอยู่เคียงข้างพ่อตลอดเวลา ดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิดเลย”
       
       “สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา บริษัทของพ่อซึ่งตอนนี้น้องชายก็ดูแลอยู่ เขาก็ช่วย แคทไม่อยากรบกวนค่ารักษาจากใคร ตอนนี้แคทยังมีแรงอยู่ ยังมีกำลังที่จะทำงาน ยอมเหนื่อย รู้สึกว่าทุกครั้งที่ทำงานจะนึกถึงเลยว่าค่าตัวของแคทก็เอาไปช่วยคุณพ่อได้ค่ะ แคทยังไม่ป่วย ยังไม่ตาย ก็ยังสู้ค่ะ พอคิดแบบนั้นมันทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ตอนนี้รับงานตลอดเลย ทั้งงานจ้าง งานคอนเสิร์ต งานโหนผ้า (กายกรรมผ้า) เยอะเลย”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)