“โม อมีนา” รับห่างทอม “แคท” เพราะครอบครัวไม่เข้าใจที่ตนมีสามีเป็นทอม ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับจูนกัน ลั่นไม่คิดไปแต่งงานกับผู้ชาย บอกถึงเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนได้ไม่นานสักวันก็ต้องกลับไปคบทอมอยู่ดี แจงรูปหลุดตนจูบกับทอมอื่นมีส่วนทำรักสะดุด หลังจากที่ “โม อมีนา พินิจ” แต่งงานกับสาวหล่อนามว่า “แคท” มาได้พักใหญ่ ก็ดันมีภาพหลุดจูบปากกับทอมอื่นที่ไม่ใช่สามีตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวเคยออกมารับว่าเป็นเรื่องจริง แถมล่าสุดยังมีข่าวออกมาอีกว่า ตอนนี้เธอได้ห่างกับทอมแคทแล้วโรงเรียนตีฉิ่งเพราะว่าที่บ้านไม่ปลื้ม
“จริงๆ มันหลายเรื่อง คือที่บ้านโมไม่อยากให้เป็นข่าว อยากให้ทำงานก่อน เพราะหลังๆ มาเนี่ยจะมีข่าวด้านลบ หนูไม่ได้เห็นเองนะ แต่แม่จะเห็นตามข่าวนู่นนี่นั่น หนูก็เลยบอกแคทว่าค่อยๆ ห่างค่อยๆ เว้น คือที่บ้านโมเขาไม่เข้าใจค่ะ โมก็พยายามคุยกับที่บ้านตลอด”
“โมเชื่อว่าไม่มีครอบครัวไหนที่จะมาเข้าใจในเรื่องแบบนี้ แต่บางทีเราเป็นแบบนี้แล้ว มันก็แค่ทางเดินชีวิตโม ทางเดินที่โมควรจะเลือกเองหรือเปล่า มันก็มีท้อบ้างนะ โมท้อจะตาย แต่โมก็ต้องอยู่ให้ได้ในเมื่อถามใจตัวเองแล้ว ตัดสินใจแล้ว ว่าเลือกแบบนี้ก็ทำไรไม่ได้ก็ต้องทนอย่างเดียว ถามว่าโมจะเปลี่ยนความคิดไปชอบผู้ชายไหม คงไม่ค่ะ โมคิดว่าตัวเรายังไงก็เป็นตัวเราโมเปลี่ยนให้ได้ แต่คงเปลี่ยนให้ได้ไม่นาน โมก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี”
นอกจากจะห่างแฟนเพราะทางบ้านไม่เข้าใจแล้ว เจ้าตัวยังบอกว่าภาพหลุดตนจูบกับทอมอีกคนก็มีส่วนที่ทำให้รักสะดุดเหมือนกัน
“แล้วอีกอย่างก็เป็นที่หนู สองคนด้วยตามข่าวตามภาพที่เห็นทุกอย่างที่ออกมาก็ไม่ได้ปฏิเสธ คือมันก็มีผลกระทบกับเราครึ่งๆ (แปลว่าเกี่ยวกับภาพหลุด?) ภาพที่หลุดหนูก็ไม่ได้ปฏิเสธก็ใช่โมจริงๆ โมก็ยอมรับ ไม่ใช่ว่าโมฝ่ายเดียวที่มีคนเข้ามา โมยืนในที่แจ้งไงคนจะเห็นได้เยอะกว่า แต่อีกครึ่งนึงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าโมเป็นยังไง โมก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นยังไง”
ตอนนี้กำลังปรับจูนความสัมพันธ์กับทอม “แคท”
“ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ โมก็ยังพยายามที่จะปรับ ก็บอกเขาว่าโอเค เอาใหม่อะไรที่มันผ่านๆ มาเรารีบกันเกินให้มันลดๆ ลงบ้างชีวิตไม่ได้อยู่แค่นี้ โมไม่ได้บอกว่าฉันจะไปแต่งงานกับผู้ชายโมไม่พูด โมก็ยังเหมือนเดิมความคิดก็เหมือนเดิมเป็นยังไงก็เป็นอยู่แบบนั้น โมคบทอมโมก็บอกว่าคบทอม เพียงแต่ว่ามันถอยห่างกันออกมาแค่นั้น ไม่ใช่ว่าหนูจะไปคบผู้ชาย อย่างที่บ้านเขาก็ต้องรับได้ในสิ่งที่หนูเลือก ในสิ่งที่หนูเป็น”
ที่มา: manager.co.th
