Author Topic: OPPO N1 เปลี่ยนภาพลักษณ์ อัปแบรนด์  (Read 822 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ภารกิจหลักในช่วงปีนี้ของ OPPO ที่จะเน้นการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับอินเตอร์แบรนด์ ส่งผลให้ต้องมีการทุ่มงบในการทำตลาดในช่วงปีนี้กว่า 150 ล้านบาท พร้อมปูทางให้กับเครื่องไฮเอนด์อย่าง OPPO N1 ที่คาดว่าจะตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของคนไทยในยุค “Selfie” (ถ่ายภาพตัวเอง)
       
       นายชานนท์ จิรายุกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โอพีพีโอ ไทย จํากัด เคยให้ข้อมูลว่า OPPO วางงบการตลาดในปีนี้ไว้ทั้งหมด 150 ล้านบาท เพื่อที่จะเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ให้แก่ผู้บริโภคว่า ผลิตภัณฑ์ของ OPPO ไม่ใช่สมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ หรือแบรนด์จีน แต่อยู่ในระดับอินเตอร์แบรนด์เช่นเดียวกับ แอลจี ซัมซุง โซนี่ หรือแม้แต่แอปเปิล
       
       เพราะก่อนหน้าที่ OPPO จะเข้ามารุกในตลาดสมาร์ทโฟน ชื่อชั้นของ OPPO ถือว่าเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาในวงกว้าง ในแง่ของแบรนด์ผู้ผลิตลำโพง เครื่องเสียงชั้นนำ และเครื่องเล่นบลูเรย์ประสิทธิภาพสูง ทำให้ OPPO มีนวัตกรรมทั้งในแง่ของเสียง และการแสดงผล ที่นำมาต่อยอดเพื่อทำตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน



เครื่องเล่นบลูเลย์ภายใต้แบรนด์ OPPO

นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับเปลี่ยนในมุมของผู้ขาย ที่มีการกำหนดราคากลางขึ้นมาเพื่อให้คู่ค้าที่เป็นพันธมิตรกับทาง OPPO สามารถจำหน่ายสินค้าโดยไม่ถูกคู่แข่งตัดราคา และช่วยให้มีรายได้ที่แน่นอนขึ้น ซึ่งแนวทางดังกล่าวช่วยให้ OPPO มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง 30% ในทุกๆ ไตรมาส
       
       แน่นอนว่าทาง OPPO ค่อนข้างคาดหวังกับแฟลกชิปรุ่นส่งท้ายปีนี้อย่าง OPPO N1 ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 เป็นอย่างมาก ตั้งแต่การตั้งราคาเครื่องอยู่ในระดับ 19,990 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ OPPO ทำตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ในช่วงราคา 3,990-16,900 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่เทียบชั้นกับรุ่นไฮเอนด์ของอินเตอร์แบรนด์ทั้ง แอลจี G2 ซัมซุง Galaxy S4 และ HTC One ที่มีการปรับราคาลงมาอยู่ใกล้เคียงกัน
       
       คำถามที่ตามมาก็คือมีอะไรที่ทำให้ OPPO มั่นใจได้ว่า N1 จะสามารถเข้ามาแย่งชิงเค้กในตลาดที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงได้ หรือเป็นการตั้งราคาเพื่อยกระดับให้แบรนด์อย่าง OPPO ขึ้นมาเทียบเท่ากับอินเตอร์แบรนด์รายอื่นๆ เพื่อเตรียมปูทางให้กับเครื่องรุ่นอื่นในราคาระดับกลางที่จะทยอยออกมาทำตลาดในช่วงปีหน้า
       
       จุดเด่นที่สุดของ N1 คงหนีไม่พ้นตัวกล้อง 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับไฟแฟลชคู่ที่จะช่วยปรับแสงให้นุ่มนวล เช่นเดียวกับใน iPhone 5S แต่สิ่งที่ N1 พิเศษกว่าก็คือ ตัวเลนส์กล้องสามารถหมุนได้ 206 องศา ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้กล้องหลักตัวเดียวทั้งในการถ่ายภาพทั่วไป หรือจะหมุนมาถ่ายภาพตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องง้อกล้องหน้าความละเอียดต่ำๆ เหมือนในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น


OPPO N1

 การที่ตัวกล้องสามารถหมุนได้ 206 องศา ไม่ใช่แค่อำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพตนเอง แต่ยังช่วยให้สามารถถ่ายภาพในมุมมองใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย อย่างเช่นต้องการถ่ายภาพจากมุมสูง หรือมุมต่ำ ก็สามารถทำได้ด้วยการหมุนองศาของกล้องให้เหมาะกับการใช้งาน
       
       สิ่งที่ OPPO ยังคิดเพิ่มมาอีกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปคือ O Click ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนปุ่มชัตเตอร์กล้องแบบไร้สาย โดยตัว O Click จะทำการเชื่อมต่อกับ N1 ผ่านระบบบลูทูธ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งกดชัตเตอร์ถ่ายภาพจาก O Click แทนการเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าจอ รวมถึงในกรณีที่ตั้งสมาร์ทโฟนทิ้งไว้แล้ววิ่งมาถ่ายภาพหมู่ก็สามารถทำได้
       
       ทั้งนี้ ในโหมดกล้องถ่ายภาพของ N1 ยังมีการเพิ่มโหมดถ่ายภาพตนเองมาให้ ซึ่งจะมีความพิเศษตรงทำหน้าที่เสมือนแอปแต่งหน้า ช่วยให้หน้าที่ถ่ายออกมาเนียนสวยเหมือนแต่งหน้าทันที รวมไปถึงถ้าไม่พอใจยังสามารถกดเข้าไปแต่งเพิ่มเติมได้ ทั้งการทำตาโต ปากบาง หรือแต่งหน้าให้อัตโนมัติ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการนำมาใช้ถ่ายภาพตนเองให้รับกับคำว่า “Selfie” ที่เป็นศัพท์ใหม่สุดฮิตท้ายปีนี้


กล้องหมุนได้ของ OPPO N1


 ถัดมาอีกจุดเด่นหนึ่งก็คือระบบสัมผัสในการสั่งงานจากบริเวณด้านหลังเครื่อง (O Touch) ที่เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่อยู่ส่วนหลังของเครื่องใต้สัญลักษณ์ OPPO โดยในบริเวณดังกล่าว ผู้ใช้สามารถใช้ในการเลื่อนซ้าย ขวา ขึ้น ลง หรือใช้งานร่วมกับโหมดกล้องในการเป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพ ใช้เลื่อนหน้าจอเว็บเบราว์เซอร์
       
       เพียงแต่ในแง่ของการใช้งานจริง บางทีเวลามือไปสัมผัสอาจโดนโดยไม่ตั้งใจได้ ก็จะเป็นการเลื่อนหน้าจอ อาจทำให้เกิดความรำคาญได้ แน่นอนว่าถ้าไม่ชอบใช้งานผู้ใช้ก็สามารถสั่งปิดระบบดังกล่าว หรือจะเลือกเปิดใช้งานเฉพาะแอปฯ ก็ได้เช่นเดียวกัน
       
       นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ถือเป็นลูกเล่นสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ใช้ อย่างการลากนิ้วเป็นเครื่องหมายบนหน้าจอขณะที่จอปิดเพื่อเรียกใช้งานแอปฯ ยกตัวอย่างเช่น การวาดนิ้วเป็นวงกลมจะเป็นการเรียกใช้งานโหมดกล้องถ่ายภาพ หรือวาดเป็นตัวอักษร V เป็นการเรียกใช้แอปฯ ไฟฉาย ซึ่งในจุดนี้ผู้ใช้สามารถสร้างสัญลักษณ์เพิ่มเพื่อเรียกใช้งานแอปฯ อื่นๆ ได้ด้วย หรือจะเป็นการนำเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเครื่องมาใช้งานให้เป็นประโยชน์ อย่างการหมุนเครื่อง 1 รอบ ที่เป็นการเรียกใช้งานแอปฯ กล้องเช่นเดียวกัน


OPPO N1

ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้นิ้วสัมผัส 2 ครั้งที่หน้าจอเพื่อเรียกให้จอติดขึ้นมาได้คล้ายๆ กับในสมาร์ทโฟนของแอลจี และโนเกีย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเช็กการแจ้งเตือนต่างๆ ของเครื่อง และแน่นอนว่าถ้าไม่ชอบก็สามารถปิดการใช้งานได้
       
       อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่ให้มาเหล่านี้อาจจะไม่ใช่จุดขายโดยตรง เพราะในแง่ของการใช้งานจริงยังถือว่าสร้างความรำคาญมากกว่าความสะดวก (ในแง่ของคนที่ไม่ถนัด) ส่งผลให้สุดท้ายก็แทบจะปิดลูกเล่นเหล่านี้ไปแทบทั้งหมดอยู่ดี หรือใช้ไปเรื่อยๆ อาจจะลืมไปก็ได้ว่ามีฟังก์ชันนี้ให้ใช้ด้วย
       
       ส่วนในมุมของสเปกเครื่องก็จะมีจุดเด่นอยู่ที่จอแสดงผลขนาด 5.9 นิ้ว ที่ใช้จอของกอริลลา กลาส 3 และยังเป็นจอแบบ IPS ที่ช่วยเพิ่มองศาในการมอง โดยความละเอียดของจอจะเป็น Full HD (1,920 x 1,080 พิกเซล) ให้ความละเอียดเม็ดสี 337 ppi



ขณะที่หน่วยประมวลผลนั้นเป็นรุ่นของ Snapdragon 600 ที่ไม่ใช่ตัวที่สูงที่สุดของ Snapdragon แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในระดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าอาจจะเป็นจุดที่ส่งผลให้ผู้บริโภคหลายรายมองข้าม N1 ไป เพราะว่าในระดับราคาเดียวกันอย่าง G2 กลับใช้หน่วยประมวลผลเป็น Snapdagon 800 ที่เร็วกว่า และยังรองรับการใช้งาน 4G ด้วย
       
       สุดท้ายในแง่ของตัวเครื่อง มุมมองของดีไซน์ N1 ถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างโอเค แต่ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ส่งผลให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย และก็ค่อนข้างหนักสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟน ซึ่งถ้าพกใช้งานแบบไม่มีกระเป๋าถืออาจจะลำบากได้
       
       ความพยายามในการนำเสนอฟังก์ชันต่างๆ ของ OPPO N1 คงต้องรอดูกันต่อไปว่า N1 จะยืนราคาในระดับนี้ได้ยาวนานแค่ไหน ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ OPPO ให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
       
       Company Related Link :
       OPPO Thai


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2218 Views
Last post December 04, 2011, 07:19:41 PM
by Nick
0 Replies
2474 Views
Last post April 06, 2012, 10:37:07 AM
by Nick
0 Replies
1927 Views
Last post November 25, 2012, 09:50:06 AM
by Nick
0 Replies
2119 Views
Last post January 29, 2013, 04:27:51 PM
by Nick
0 Replies
904 Views
Last post September 23, 2013, 02:32:57 PM
by Nick
0 Replies
973 Views
Last post September 24, 2013, 12:32:34 PM
by Nick
0 Replies
790 Views
Last post December 05, 2013, 02:21:24 AM
by Nick
0 Replies
1157 Views
Last post February 13, 2014, 11:39:21 PM
by Nick
0 Replies
1410 Views
Last post March 05, 2014, 12:37:47 PM
by Nick
0 Replies
406 Views
Last post February 22, 2024, 05:04:18 PM
by siritidaporn